น้ำท่วม "ลิเบีย" เสียชีวิตเพิ่มเป็น 11,300 คน สูญหาย 10,100 คน

ต่างประเทศ
15 ก.ย. 66
06:55
7,687
Logo Thai PBS
น้ำท่วม "ลิเบีย" เสียชีวิตเพิ่มเป็น 11,300 คน สูญหาย 10,100 คน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ทีมค้นหาและกู้ภัยในลิเบีย เดินหน้าค้นหาผู้ประสบภัยและทยอยเก็บกวาดซากความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตในเมืองเดอร์นา เพิ่มขึ้นเป็น 11,300 คน สูญหาย 10,100 คน ไร้บ้าน 30,000 คน

วันนี้ (15 ก.ย.2566) เจ้าหน้าที่กู้ภัยในเมืองเดอร์นาของลิเบียใช้รถขุดดินเก็บกวาดซากปรักหักพัง รวมถึงซากของรถยนต์จำนวนมากที่ถูกน้ำพัดกองเป็นเนินสูง

ขณะที่เจ้าหน้าที่ลิเบีย และนานาชาติ กระจายกำลังทั่วพื้นที่ พร้อมทั้งใช้สุนัขร่วมในภารกิจค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารที่พังถล่มลงมา ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับโรคระบาดที่อาจเกิดขึ้นจากศพที่เน่าเปื่อย รวมทั้งมีผู้ประสบภัยหลายคน เข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บจากเหตุน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง

ยอดเสียชีวิตทะลุ 11,300 คน

นอกจากนี้ ยังมีองค์กรและกลุ่มอาสาสมัครจำนวนมากรวมตัวกัน เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ทั้งคัดแยกเสื้อผ้า สิ่งของจำเป็น และอาหารที่ได้รับบริจาค เพื่อนำไปแจกจ่ายไปยังผู้ประสบภัย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน อีกทั้งยังช่วยตามหาญาติที่สูญหายไปอีกด้วย

ล่าสุด สภาเสี้ยววงเดือนแดงของลิเบีย เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตในเมืองเดอร์นาเพิ่มขึ้นเป็น 11,300 คน โดยมีรายงานผู้สูญหายอีก 10,100 คน และต้องกลายเป็นคนไร้บ้านอย่างน้อย 30,000 คน

ชี้สาเหตุ 2 เขื่อนแตก ขาดการบำรุงรักษา

ขณะที่นายกรัฐมนตรีของรัฐบาลปรองดองแห่งชาติ ที่ปกครองพื้นที่ทางตะวันตกของประเทศ ยอมรับในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า เขื่อน 2 แห่งในเมืองเดอร์นา ที่สร้างขึ้นในช่วงทศวรรษ 1970 พังถล่มจากเหตุฝนตกหนัก เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องการบำรุงรักษา โดยเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องมีส่วนรับผิดชอบในการจัดการ รวมถึงการดูแลและซ่อมบำรุงเขื่อน

จากรายงานเมื่อปี 2021 ชี้ว่าเขื่อนทั้ง 2 แห่ง ไม่ได้รับการบำรุงรักษา แม้ในปี 2012 และ 2013 จะมีการจัดสรรงบประมาณไว้มากกว่า 76 ล้านบาท เพื่อการซ่อมบำรุงเขื่อน

ขณะที่องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก แห่งสหประชาชาติ ระบุว่า หากหน่วยงานด้านสภาพอากาศในลิเบียสามารถทำงานได้ตามปกติ เช่น ประกาศเตือนภัยล่วงหน้า จะทำให้หน่วยงานจัดการเหตุฉุกเฉินอพยพประชาชนได้ และจำนวนผู้เสียชีวิตอาจน้อยลงกว่านี้

ขณะที่ Bill Hare ซีอีโอของ Climate Analytics สถาบันระดับโลกที่มุ่งศึกษาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ระบุว่า ภัยพิบัติในลิเบียจะไม่เกิดขึ้น หากไม่มีฝนตกหนักเนื่องจากภาวะโลกร้อน ซึ่งภัยพิบัติในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะทำให้สถานการณ์ต่า งๆ ยากลำบากมากขึ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศร่วมมือสนับสนุนกลุ่มประเทศที่มีความเปราะบาง และไม่สามารถรับมือกับความเสี่ยงนี้ได้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "ลิเบีย" เขื่อนแตก-น้ำท่วม เสียชีวิต 5,000 คน 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง