ตั้งแผงป้องกันโบราณสถาน "วัดไชยวัฒนาราม" รับน้ำล้นตลิ่ง

ภัยพิบัติ
11 ต.ค. 66
18:48
1,184
Logo Thai PBS
ตั้งแผงป้องกันโบราณสถาน "วัดไชยวัฒนาราม" รับน้ำล้นตลิ่ง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมศิลปากร เร่งตั้งแผงป้องกันน้ำท่วมโบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม-วัดธรรมมาราม อุทยานประวัติ ศาสตร์พระนครศรีอยุธยา รับน้ำล้นตลิ่ง ส่วน รพ.อภัยภูเบศวร-สระแก้ว วางแนวกระสอบทราย

วันนี้ (11 ต.ค.2566) นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จ.พระนคร ศรีอยุธยา และสั่งการให้กรมศิลปากร บูรณาการการในการดูแลโบราณสถานสำคัญกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เบื้องต้นยังไม่มีโบราณสถานในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 

อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ในปี 2566 ประเทศไทยมีปริมาณน้ำฝนไม่มาก เขื่อนต่างๆ เพิ่งเริ่มระบายน้ำช่วงปลายเดือน ก.ย.นี้ ประกอบกับฝนที่ตกบริเวณใต้เขื่อนขนาดใหญ่ที่กักเก็บน้ำ จึงทำให้ปริมาณน้ำในภาพรวมไม่เท่ากับปี 2565

ล่าสุดเขื่อนเจ้าพระยายังระบายน้ำอยู่ที่ปริมาณไม่ต่ำกว่า 1,600 ลบ.ม.ต่อวินาที อีกทั้งยังมีฝนตกในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายต่างๆ ที่ผ่านจ.พระนครศรีอยุธยาสูงขึ้นต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ต่างๆ

ส่วนการป้องกันโบราณสถาน อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ตั้งแผงป้องกันน้ำท่วมโบราณสถานแล้ว 2 แห่ง ได้แก่ วัดไชยวัฒนารามแล้ว ซึ่งเป็นโบราณสถานริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีระดับต่ำที่สุด เพื่อป้องกัน เหตุหากมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน

ทำให้ระดับน้ำสูงสุดอยู่ต่ำกว่าตลิ่งวัดไชยวัฒนาราม 70 ซม.ส่วนอีกจุดวัดธรรมมาราม ซึ่งเป็นโบราณสถานริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีกแห่งที่มีระดับต่ำ โดยปัจจุบันระดับน้ำสูงสุดอยู่ต่ำกว่าตลิ่งวัดธรรมาราม 80 ซม.

ขณะนี้อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา กำลังเร่งติดตั้งแผงป้องกันน้ำท่วม ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 12 ต.ค.

นอกจากนี้ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบระดับน้ำจากแม่น้ำลำคลอง ที่ผ่านตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา ตรวจสอบโบราณสถานต่างๆ ที่เคยได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในปีก่อน และเตรียมความพร้อมของวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ เช่น เครื่องสูบน้ำ เครื่องจักรหนักเตรียมป้องกัน

รพ.อภัยภูเบศวร-สระแก้ว น้ำทะลัก 

สำหรับสถานการณ์น้ำหลากโดยเฉพาะเทศบาลเมืองปราจีนบุรี ปริมาณน้ำเริ่มไหลเข้าท่วมบริเวณโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งวางแนวกระสอบทรายเขื่อนริมแม่น้ำป้องกันน้ำเอ่อเข้าท่วมโรงพยาบาล

ส่วนพื้นที่ท้ายน้ำในตำบลบ้านสร้าง อ.บ้านสร้าง ที่น้ำได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมวัดบ้านสร้างสูงกว่าครึ่งเมตร คาดว่าจะกินเวลานาน เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำทั้งหมดของ จ.ปราจีนบุรี

ไม่ต่างกับหมู่บ้านนาอ้อม หมู่ 2 ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี ถนนเข้าออกถูกน้ำท่วมสูงรถเล็กผ่านไม่ได้ ทำให้ประชาชนเดือดร้อนหนัก โดยเฉพาะคนชรา คนพิการ และเด็กเล็ก ติดอยู่ภายในไม่สามารถออกไปซื้ออาหารได้

ส่วนที่จ.อ่างทอง กรมโยธาธิการและผังเมือง เร่งรื้อพื้นคอนกรีตและฝังเหล็กชิพพลายเทคอนกรีต บนเขื่อนเรียงหินฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาท้ายตลาดอ่างทอง ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ หลังจุดดังกล่าว มีการซึมของน้ำเข้ามาด้านล่าง ชาวบ้านวิตกว่าจะส่งผลกระทบหากระดับนน้ำสูงขึ้น

เตือนเรือลากจูงระวังน้ำเชี่ยว

นอกจากนี้ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายพีรธร นาคสุข ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา ได้ออกประกาศเขตควบคุมการจราจรทางน้ำ ในแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่บริเวณแยกวัดพนัญเชิงวรวิหาร อ.นครหลวง ต่อเนื่องไปถึง จ.อ่างทอง ให้เรือลากจูง เรือสินค้าได้ไม่เกินพวงละ 3 ลำ และห้ามบรรทุกสินค้าเกินกว่าที่เจ้าท่าอนุญาตไว้ รวมทั้งให้ผู้ควบคุมเรือ ต้องสวมใส่เสื้อชูชีพตลอดเวลาขณะปฏิบัติงาน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง