31 ต.ค. กับ 31 เรื่องน่ารู้ของ "วันฮาโลวีน"

ไลฟ์สไตล์
22 ต.ค. 66
21:08
4,511
Logo Thai PBS
31 ต.ค. กับ 31 เรื่องน่ารู้ของ "วันฮาโลวีน"
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
มาลองเดากันดูว่ารู้จัก "ฮาโลวีน" มากน้อยแค่ไหน หลายคนรู้ว่าสีประจำคือ ส้มและดำ แต่มีกี่คนที่รู้ว่า ก่อนที่คำว่า Trick or Treat จะถูกใช้ อาจจะมีคำอื่นมาก่อนหรือเปล่า แล้วคำนั้นออกเสียงยังไง? มาลองอ่านกันดูสิ!

ฮาโลวีน 2023 ตรงกับวันที่ 31 ตุลาคม 2566 

ตำนานฮาโลวีน เกิดขึ้นเมื่อ 2,000 ปีก่อน ตามความเชื่อชาวเซลท์ (Celt) ที่เชื่อว่า วันที่ 31 ต.ค. ของทุกปี จะเป็นวันที่ประตูนรกเปิด และเหล่าวิญญาณจะกลับมาสู่โลกปัจจุบัน

 วันที่ 31 ต.ค. ของทุกปี เป็นวันฮาโลวีน จะเป็นวันที่ประตูนรกเปิด และเหล่าวิญญาณจะกลับมาสู่โลกปัจจุบัน

วันที่ 31 ต.ค. ของทุกปี เป็นวันฮาโลวีน จะเป็นวันที่ประตูนรกเปิด และเหล่าวิญญาณจะกลับมาสู่โลกปัจจุบัน

วันที่ 31 ต.ค. ของทุกปี เป็นวันฮาโลวีน จะเป็นวันที่ประตูนรกเปิด และเหล่าวิญญาณจะกลับมาสู่โลกปัจจุบัน

1.ที่มาคำว่า Halloween

มาจากภาษาอังกฤษ 2 คำรวมกันคือ Hallows ที่แปลว่าศักดิ์สิทธิ์, การบูชา และคำว่า Even ที่ย่อมาจาก Evening แปลว่า คืนก่อนวันสมโภชนักบุญทั้งหลาย หรือ All Hallows' Eve ตามความเชื่อของชาวคริสต์

2.วันฮาโลวีน-ชาวเซลติค

ชาวเซลติค ชาวพื้นเมืองของไอร์แลนด์ วันขึ้นปีใหม่ตรงกับวันที่ 1 พ.ย. พวกเขาจึงเชื่อกันว่าในคืนวันที่ 31 ต.ค.จะเป็นวันที่ประตูโลกมนุษย์เปิดเชื่อมกับโลกวิญญาณ จะมีวิญญาณบรรพบุรุษกลับมาหาครอบครัว แต่ก็จะมีวิญญาณเร่ร่อนตามมาสิงร่างอีกด้วย

3.แต่งผีไปหลอกผี

คนในยุคนั้นจึงปิดบ้าน ดับไฟให้มืด เพื่อบ่งบอกวิญญาณที่กลับมาในโลกมนุษย์ว่าที่นี่ไม่มีใครอยู่ และแต่งตัวเป็นผีเพื่ออำพรางตัวเองให้ผีเหล่านั้นจำไม่ได้ว่าเป็มนุษย์ และชุดที่คอสตูมที่ได้รับความนิยมในหมู่เด็กๆ ยุคปัจจุบัน อันดังแรกคือ มนุษย์แมงมุม Spider man ตามมาด้วยเจ้าหญิงดิสนีย์ และ มนุษย์ค้างคาว Batman  

4.Jack-o’-Lanterns ไม่ใช่ฟักทอง

แรกเริ่มเดิมที "Jack-o’-Lanterns" หรือตะเกียงฟักทอง ทำมาจากหัวผักกาด หรือ หัวบีตรูต แต่เมื่อความเชื่อวันฮาโลวีนกระจายไปถึงสหรัฐฯ ชาวอเมริกันจึงเปลี่ยนมาใช้ฟักทองแทน เพราะหาง่ายกว่า และเจ้าตะเกียงฟักทองก็ไม่ได้มีแต่สีส้ม แต่มีหลากหลายสี เช่น สีเขียว สีขาว สีแดง สีเหลือ หรือ แม้แต่สีน้ำตาล

5.ตำนานตะเกียงฟักทอง

ตำนานของ Jack-o’-Lanterns มีหลากหลายมาก ในที่นี้ขอเลือกตำนานจากไอร์แลนด์ เป็นเรื่องของชาวนาจอมเจ้าเล่ห์ที่ชื่อ แจ็ก โอ แลนเทิร์น ไปหลอกซาตานให้ติดกับดัก ก่อนปล่อยซาตานไป แจ็กบังคับซาตานให้สัญญาว่าจะไม่นำวิญญาณของเขาลงนรก ต่อมาเมื่อแจ็กตาย ซาตานก็แก้แค้นไม่นำวิญญาณแจ็กลงนรกตามคำสัญญา และปล่อยให้วิญญาณแจ็กเดินเร่ร่อนพร้อมตะเกียงไฟที่ครอบด้วยหัวผักกาด  

อ่านข่าว : เตือนภัย "วันฮาโลวีน" มิจฉาชีพหลอกล้วงข้อมูลอ้างแจกของ

6.Trick or Treat 

จากตำนานที่น่ากลัว ถูกเปลี่ยนเป็นเทศกาลแห่งความสนุกไปตามกาลเวลา ผู้ใหญ่จะแต่งหน้า-แต่งตัวให้เด็กๆ เป็นผี จากนั้นเหล่าแก๊งผีเด็กน้อยก็จะไปเคาะตามประตูบ้าน พร้อมตะโกน "Trick or Treat " หากเจ้าของบ้านตอบ Treat แปลว่ายอมแพ้แล้วต้องให้ขนม ลูกกวาด แก่เด็กๆ แต่ถ้าตอบว่า Trick แปลว่ายอมให้เด็กๆ หลอก แต่สุดท้ายก็จะให้ขนมอยู่ดี 

แต่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐฯ เคยงดเทสกาลนี้ เพราะต้องการประหยัดน้ำตาลเพื่อส่งเป็นเสบียงในหารรบ กระทั่งสงครามสิ้นสุด เทศกาลนี้ก็ค่อยๆ กลับมา 

7.Soul Candy

แต่ก่อนที่ผู้ใหญ่จะแจกขนมหวาน ลูกกวาดสีสันสดใสให้เด็กๆ นั้น ในยุคก่อนชาวบ้านจะทำขนม "Soul candy" หรือขนมสำหรับวิญญาณ เอาไว้แจกในคืนฮาโลวีน ด้วยความเชื่อที่ว่ายิ่งแจกให้คนอื่นมากเท่าไหร่ ก็ถือว่าได้ทำบุญให้กับผู้ที่จากไปมากเท่านั้น 

8.ร้านขนมรับทรัพย์

ยอดขายสินค้าประเภทของหวาน ขนมหวาน ลูกอม จะสูงขึ้นมาก เพราะเป็นที่นิยมในช่วงเทศกาลฮาโลวีน ข้อมูลด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เทศกาลฮาโลวีนสร้างรายได้เป็นอันดับ 2 รองจากเทศกาลคริสต์มาส และก็เป็นช่วงที่เด็กๆ มีความสุขเช่นกัน เพราะจะได้กินขนมหวานอย่างไม่อั้น โดยที่พ่อแม่ไม่ดุ แต่ก็ต้องไม่ลืมแปรงฟันก่อนนอนกันด้วยนะ

อ่านข่าว : ฮาโลวีน เที่ยว “เกาะผี” อช.หมู่เกาะลันตา

จากการสำรวจของสหพันธ์การค้าปลีกในสหรัฐฯ พบว่า ฮาโลวีน 2565 สร้างรายได้ 10,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าปี 2564 ที่สร้างรายได้ 10,140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยที่รายได้ส่วนใหญ่มาจากเครื่องแต่งกายที่หลายคนเลือกซื้อมาแต่งตัว

9.ส้ม-ดำ สีประจำฮาโลวีน

เพราะช่วงวันฮาโลวีนตรงกันช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือช่วงเทศกาลเก็บเกี่ยว ลองนึกถึงทุ่งนาที่พร้อมเก็บเกี่ยวเต็มไปด้วย "สีส้ม" เป็นสัญลักษณ์ ส่วน "สีดำ" ก็หมายถึงความตาย 

10.พระอาทิตย์ฟักทอง 

เมื่อวันที่ 29 ต.ค.2563 "นาซา" ร่วมฉลองเทศกาลฮาโลวีนด้วยการเผยภาพ ดวงอาทิตย์ที่คล้ายตะเกียงฟักทอง ภาพดังกล่าวเป็นภาพถ่ายดวงอาทิตย์จากห้วงอวกาศมีแสงสว่างวาบเป็นช่วงๆ คล้ายกับตะเกียงฟักทอง ภาพนี้ถูกบันทึกไว้เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2557 

อ่านข่าว : ฮาโลวีนทั้งชีวิต "หมอนิติเวช" อาชีพพูดแทนคนตาย

ที่มา : NASA

ที่มา : NASA

ที่มา : NASA

11.The Day of The Dead

เป็นชื่อเรียกเทศกาลฮาโลวีนของชาวเม็กซิกัน ซึ่งได้รับแนวคิดนี้ในช่วงที่ชาวอาณานิคมสเปนนำอารยธรรมเข้ามาผสมผสานกับความเชื่อท้องถิ่น ในช่วงศตวรรษที่ 16 ต่อมาทางเม็กซิโกได้กำหนดให้วันที่ 31 ต.ค. - 2 พ.ย. เป็นวันเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความตาย

12.Apple Bobbing

นอกจากการแกล้งแต่งตัวเป็นผี แล้วเคาะประตูหลอกตามบ้านแล้ว ที่อังกฤษยังมีการละเล่นที่เรียกว่า Apple Bobbing ที่ผู้เล่นต้องพยายามงับผลแอปเปิลในถังน้ำด้วยปากออกมาให้ได้ ระหว่างเล่นต้องเอามือไขว้หลังไว้ตลอดเวลา ถ้าใครทำได้สำเร็จก่อนถือว่าเป็นผู้ชนะ และถือว่าเป็นคนโชคดีตลอดปี 

13.แมวดำสัญลักษณ์ซาตาน

คนในยุคกลางมีความเชื่อว่า "แมวดำ" เกี่ยวข้องกับซาตาน บางคนเชื่อว่าเป็นสมุนของแม่มด หรือเป็นแม่มดที่แปลงกายเป็นสัตว์ แมวดำจึงถูกตีตราเป็นเป็นสัตว์อัปมงคลในแง่ของความเชื่อเรื่องภูติผีปีศาจ กระทบให้หลายที่พักในช่วงเทศกาลฮาโลวีน ไม่อนุญาตให้นำแมวดำเข้าพักด้วย แต่ในยุคนี้ หลากสถานที่เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส ร้านที่ไม่เชื่อก็รับทรัพย์ไปเต็มๆ 

14.แม่มดตัวเป็นๆ  

มีอีกความเชื่อที่ว่า ก่อนเที่ยงคืนของวันฮาโลวีน หากใส่เสื้อผ้ากลับด้าน เดินถอยหลังภายในบ้าน จากนั้นรอจนถึงเวลาเที่ยงคืน ก็จะปรากฏแม่มดตัวจริงเสียงจริงออกมาให้ได้เห็นกัน แต่จะมาที่ไหนต้องรอดูอีกที

15.ปีศาจวันฮาโลวีน

ความเชื่อชาวยุโรป เชื่อว่า แวมไพร์, มนุษย์หมาป่า, แฟรงเกนสไตน์, ซอมบี และ แม่มด เป็นปีศาจที่ชอบออกมาเพ่นพ่านในค่ำคืนฮาโลวีน โดยปีศาจเหล่านี้ถูกสะท้อนออกมาด้วยการแต่งตัวเลียนแบบของผู้ใหญ่ในวันฮาโลวีน

16.เทศกาลรวมญาติ

แม้จะเป็นเทศกาลรื่นเริง สร้างเสียงหัวเราะ แต่ฮาโลวีนก็ถือเป็นเทศกาลที่ทำให้คนในครอบครัวได้กลับมาเจอกัน ร่วมรับประทานอาหารค่ำ เล่นเกม และเมื่อตกดึกก็ตั้งวงนั่งเล่าเรื่องสยองขวัญหรือเรื่องตำนานผี ในอดีตการรวมตัวกันของเพื่อนๆ จะร่วมกันทำนายรูปลักษณ์ของคู่ครองในอนาคตจากการโยยนเปลือกแอปเปิลไปข้างหลัง ให้ออกมาเป็นอักษรนำหน้าชื่อ หรือการจุดเทียนหน้ากระจก เพื่อส่องดูหน้าตาของคู่ครอง 

17.ฮาโลวีนเกิดก่อนคริสต์มาส

มีบันทึกไว้ว่า 600 ปีก่อนคริสตกาล มีการจัดงานในยุโรปที่ชื่อ Samhain ที่แปลว่า งานสิ้นสุดฤดูร้อน โดยมีความเชื่อว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่โลกมนุษย์กับโลกแห่งความตายอยู่ใกล้กันมากที่สุด ส่วนบันทึกของวันคริสต์มาส ระบุว่าหลักฐานเก่าแก่ที่สุดของการเฉลิมฉลองวันที่ 25 ธ.ค. เป็นงานสมโภชการประสูติของพระเยซูตามพิธีกรรมแบบคริสต์นั้นปรากฏใน "ปฏิทินแห่ง ค.ศ. 354" 

18.แกะสลักฟักทองไวที่สุดในโลก  

Stephen Clarke นักแกะสลักชาวสหรัฐฯ เขาสร้างสถิติโลกแข่งขันแกะสลัก Jack-o’-Lanterns หรือตะเกียงฟักทอง ด้วยการแกะวลักตา จมูก ปาก และใส่เทียนไว้ข้างใน ด้วยเวลา 16.47 วินาที

19. ประกวดฟักทองใหญ่ที่สุดในโลก

แน่นอนว่าสัญลักษณ์ฮาโลวีนที่ทุกคนนึกถึงคือ ฟักทอง และมีการแข่งขันประกวดฟักทองขนาดใหญ่เป็นประจำทุกปีที่สหรัฐฯ จนประทั่งปัจจุบัน ฟักทอง "Tiger King" เป็นฟักทองที่ครองแชมป์ฟักทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยน้ำหนัก 1,065.9 กก. หรือกว่า 2,350 ปอนด์ สูง 6 ฟุต กว้าง 6 ฟุต  ปลูกโดย Travis Gienger จากรัฐมินเนสโซตา 

20.นิวแฮมเชียร์สร้างสถิติโลกจุดไฟฟักทอง

แม้จะไม่ชนะในการประกวดฟักทอง แต่ชาวนิวแฮมป์เชียรืกลับสร้างสถิติโลกใหม่ ด้วยการจุกไฟใน Jack-o’-Lanterns สว่างมากที่สุดในโลก ในเทศกาลฟักทองประจำปีของเมืองเมื่อวันที่ 19 ต.ค.2556 โดยชาวเมืองร่วมใจกันจุกฟักทองแกะสลักกว่า 30,581 อัน 

21.แคนาดามีเคอร์ฟิววันฮาโลวีน 

เด็กๆ แต่งตัวเป็นผีไล่เคาะประตูบ้านในวันฮาโลวีน เป็นเรื่องที่เห็นได้ทั่วไปในทวีปยุโรป และ สหรัฐฯ แต่ที่แคนาดา มีกฎหมายห้ามผู้ที่อายุเกิน 16 ปีเล่น Trick or treat หลังเวลา 20.00 น. โดยอ้างว่าเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัย และป้องกันเหตุอันตรายที่อาจเกิดขึ้น 

22.Black Halloween

ค่ำคืนแห่งการแกล้งกันในเทศกาลรื่นเริงแต่ก็ไม่ร่าเริงเสียทั้งหมด การแกล้งของเด็กวัยรุ่นในยุคนั้น ค่อยๆทวีความรุนแรงและทำให้ทรัพย์สินสูญเสียมากขึ้น เช่น เด็กชายประมาณ 200 คนในรัฐเคนตักกี้แกล้งเอาศพปลอมไปวางไว้บนรางรถไฟ ทำให้รถไฟต้องหยุดวิ่ง, นักศึกษาแพทย์จากมหาวิทยาลัยมิชิแกนขโมยศพไปวางไว้หน้าอาคารเพื่อหลอกคน

กระทั่งในปี ค.ศ.1933 เด็กผู้ชายหลายร้อยคนช่วยกันทำลายรถยนต์ เลื่อยเสาไฟ ก่อกวนประชาชนไปทั่ว มูลค่าความเสียหายทางทรัพย์สินที่เกิดขึ้นมีมากกว่าหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยที่พวกเขาคิดว่า ค่ำคืนแห่งฮาโลวีน จะสามารถแกล้งคนมากเท่าไหร่ก็ได้ เหตุการณ์ในครั้งนั้นถูกบันทึกและเรียกว่า Black Halloween 1933 

23.ชาวอเมริกันชอบชุดฮาโลวีนสำหรับสัตว์เลี้ยง

ไม่ใช่แค่การแต่งตัวให้กับคนในครอบครัวเท่านั้น แต่การตกแต่งบ้าน และการแต่งตัวให้สัตว์เลี้ยงก็เป็นความสุขอีกอย่างเช่นกัน ข้อมูลของสหพันธ์การค้าปลีกแห่งชาติ ระบุว่า 1 ใน 5 คน วางแผนที่จะแต่งตัวสัตว์เลี้ยงของตนสำหรับวันฮาโลวีน 2564 และในปี 2565 เงินสะพัดในส่วนการซื้อเครื่องแต่งกายสัตว์เลี้ยงมีมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

24.คู่มือฮาโลวีน

ฮาโลวีนไม่ใช่เรื่องเล่าปากต่อปากเพียงเท่านั้น แต่ชาวอเมริกันมีหนังสือคู่มือ ที่บอกวิธีปฏิบัติสำหรับวันฮาโลวีนประจำปี โดยที่คู่มือปาร์ตี้ฮาโลวีนอย่างเป็นทางการฉบับแรกชื่อ "วันฮาโลวีน : วิธีเฉลิมฉลอง" (Halloween : How to celebrate it) ได้รับการตีพิมพ์อย่าวเป็นทางการในปี พ.ศ. 2440

25.สคส.ฮาโลวีน

ในช่วง ค.ศ.1905-1920 มีผู้คนนิยมส่งการ์ดวันฮาโลวีนมากกว่า 3,000 ชิ้น หลายคนส่งเพื่อทักทายกันเหมือนกับเทศกาลส่งความสุขอื่นๆ และมีแม้กระทั่งการโทรศัพท์หาครอบครัว เพื่อน เพื่อส่งคำอวยพร Happy Halloween!

26.ฮาโลวีนไม่ใช่เรื่องของเด็กเท่านั้น

วันฮาโลวีนเคยเป็นเทศกาลของเด็กๆ และผู้ใหญ่ก็อาจมีส่วนร่วมบ้าง แต่จากข้อมูลของ NRF (National reserch foundation) พบว่าประมาณร้อยละ 55 ของครัวเรือนที่ไม่มีลูก วางแผนที่จะเฉลิมฉลองวันฮาโลวีนในปี ค.ศ.2021 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 49 ปี 2020 และในปี 2022 คาดการณ์ว่าการใช้จ่ายซื้อชุดฮาโลวีนสำหรับผู้ใหญ่จะสูงถึง 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

27. M&Ms คือขนมฮาโลวีนที่นิยมที่สุด

จากการวิจัยของ YouGov ขนมหวานสำหรับเทศกาลฮาโลวีนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ M&Ms ตามมาด้วย แครกเกอร์เนยถั่วของ Reeseโดยทั้ง 2 อย่างขายดีมากในเด็กอายุช่วง 8-14 ปี

28.ก่อนจะจบที่ฟักทอง

ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1800 ข้อมูลจากคู่มือแนะนำวันฮาโลวีนระบุว่า คนพยายามที่จะแกะสลักผัก ผลไม้ชนิดอื่น เช่น แอปเปิล แตงกวา หรือแม้กระทั่ง มะระ แต่สุดท้ายก็จบลงที่ "ฟักทอง" 

29.พระจันทร์เต็มดวงในวันฮาโลวีน

แต่มันไม่ได้เกิดขึ้นทุกปี! ตามสถิติของ NASA บอกว่าทุกๆ 19 ปี มนุษย์จะได้เห็น บลู มูน (Blue Moon) ด้วย แต่บลูมูนในที่นี้ไม่ได้แปลว่า พระจันทร์สีฟ้า แต่หมายถึงพระจันทร์เต็มดวง และวันฮาโลวีนครั้งล่าสุดที่พระจันทร์เต็มดวงก็คือปี 2020 ที่ผ่านมา นั่นหมายความว่าต้องรอไปจนถึงปี 2039 กว่าจะได้เห็นพระจันทร์เต็มดวงในวันฮาโลวีนอีกครั้ง

<"">

"ฮาโลวีน" เกิดขึ้นเมื่อ 2,000 ปีก่อน ตามความเชื่อชาวเซลท์ (Celt) ที่เชื่อว่า วันที่ 31 ต.ค. ของทุกปี จะเป็นวันที่ประตูนรกเปิด และเหล่าวิญญาณจะกลับมาสู่โลกปัจจุบัน

30.คืนขอทานของชาวดิมอยน์

แม้ว่าหลายๆ เมืองจะเฉลิมฉลองวันฮาโลวีนในวันที่ 31 ต.ค.อย่างมีความสุข แต่ชาวเมืองดิมอยน์ รัฐไอโอวาก็มีประเพณีอีกอย่างหนึ่งที่เรียกว่า "คืนขอทาน" ที่เริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายทศวรรษที่ 1930 เป็นกิจกรรมเชิงบวกที่จะจัดขึ้นในวันที่ 30 ต.ค. เพื่อให้ชาวเมืองได้รู้จักการให้และรับ

ในคืนนั้นเด็กๆ จะเดินไปตามบ้าน เคาะประตูแล้วพูดว่า Trick or Treat แต่เจ้าของบ้านจะให้เด็กๆ เล่าเรื่องตลกเพื่อแลกกับขนม โดยจะไม่มีการหลอกหรือแกล้งใดๆ ทั้งสิ้น

31.Belnickeling 

ข้อมูลหอสมุดแห่งชาติ ระบุว่า สมัยโบราณเคยมีประเพณีเก่าแก่ของชาวเยอรมัน-อเมริกันที่เรียกว่า Belsnickeling ซึ่งเป็นประเพณีที่เด็กๆ แต่งตัวในเครื่องแต่งกายสำหรับคริสต์มาสและไปเยี่ยมเพื่อนบ้านของพวกเขา ทำให้นักประวัติศาสตรืเชื่อมโยงเหตุการณ์ว่า เทศกาล Belnickeling อาจเป็นหนึ่งในต้นกำเนิดการเล่น Trick or Treat ในปัจจุบันก็ได้ 

แต่ลองนึกภาพว่าแทนที่จะพูดว่า "Trick or Treat" แต่ให้เด็กๆ กดกริ่งประตูแล้วตะโกนว่า "Belnickeling เบลสนิกเกิล!" ดูสิ

คงไม่มีใครออกมาแน่นอน

31 ต.ค. กับ 31 เรื่องน่ารู้ของ

31 ต.ค. กับ 31 เรื่องน่ารู้ของ

31 ต.ค. กับ 31 เรื่องน่ารู้ของ "วันฮาโลวีน"

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ฮาโลวีน 2023” กับเทศกาลผีนานาชาติ “พูด ผี-ปีศาจ”

หวั่นซ้ำรอย "อิแทวอน" เกาหลีใต้ซ้อมแผนรับมือ ฮาโลวีน 2023

ข่าวที่เกี่ยวข้อง