ชมฝนดาวตกเจมินิดส์คืน 14-15 ธ.ค. ส่วนดาวหางฮัลเลย์รอ 38 ปี

Logo Thai PBS
ชมฝนดาวตกเจมินิดส์คืน 14-15 ธ.ค. ส่วนดาวหางฮัลเลย์รอ 38 ปี
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สดร. ชี้ไม่เห็นฝนดาวตกโอไรออนิดส์ ร่องรอยของดาวหางฮัลเลย์ มาจากสภาพอากาศ ชี้อีก 38 ปีถึงจะเห็น "ดาวหางฮัลเลย์" รอบใหม่ แนะใครพลาดชม "โอไรออนิดส์" รอชมฝนดาวตกเจมินิดส์คืน 14-15 ธ.ค.นี้

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) ระบุว่า หลังจากเมื่อคืนวันที่ 21 ต.ค. ถึงรุ่งเช้าวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา จะมีปรากฏการณ์ฝนดาวตกโอไรออนิดส์ ร่องรอยของดาวหางฮัลเลย์ เมื่อครั้งเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ โดยจะเริ่มสังเกตได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 22.30 น.ของวันที่ 21 ต.ค.บริเวณกลุ่มดาวนายพราน (Orion) อัตราการตกสูงสุดเฉลี่ยประมาณ 20 ดวง/ชั่วโมง หากฟ้าใสไร้ฝน

ล่าสุดสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ โพสต์ข้อความลงในทวิต X ระบุข้อความว่า “ฝนดาวตก” คือคืนที่มีดาวตกมากกว่าปกติ เกิดจากโลกโคจรตัดผ่านสายธารของฝุ่นดาวหาง ดาวเคราะห์น้อย

ส่วน “ดาวหาง” จะปรากฏอยู่บนท้องฟ้าหลายวัน เนื่องจากจะค่อยๆ เปลี่ยนตำแหน่ง เพราะฉะนั้นเราจะไม่เห็น “ดาวหางฮัลเลย์” ในวันนี้ แต่จะเป็น “ฝนดาวตกโอไรออนิดส์” ที่เกิดจากดาวหางฮัลเลย์

ฝนดาวตกโอไรออนิดส์ (Orionids) มีอัตราการตกเพียง 20 ดวง/ชั่วโมง ประกอบกับมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ อาจทำให้คืนนี้ไม่สามารถสังเกตได้ แต่หากใครอยากลุ้น ให้มองหา “กลุ่มดาวนายพราน” (Orion) ทางทิศตะวันออก สังเกตได้ง่ายจากดาวเรียงเด่นสามดวงที่คนไทยเรียกว่า ดาวไถ

อีก 38 ปีเจอกันรอบใหม่ "ดาวหางฮัลเลย์"

ทั้งนี้ ดาวหางฮัลเลย์ จะโคจรเฉียดดวงอาทิตย์อีกครั้งในช่วงกลางปี พ.ศ. 2604 หมายความว่าเราจะได้เห็นดาวหางฮัลเลย์ในอีก 38 ปีข้างหน้า คืนนี้จะมีเพียง ฝนดาวตกโอไรออนิดส์ ซึ่งเกิดจากโลกโคจรตัดเข้าไปในสายธารฝุ่นที่ดาวหางฮัลเลย์เหลือทิ้งไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2529 เมื่อครั้งโคจรเข้าใกล้ดวงอาทิตย์

สำหรับใครที่พลาดชมฝนดาวตกโอไรออนิดส์ คืนนี้ ขอแนะนำรอชม ฝนดาวตกเจมินิดส์ คืน 14-15 ธ.ค.นี้  ด้วยอัตราการตกสูงสุดมากถึง 120-150 ดวง/ชั่วโมง และเป็นช่วงฤดูหนาวที่ฟ้าใสไม่ต้องลุ้นฝน 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง