เสียงค้านสนั่น “ขยายเวลาปิดผับ”ได้ไม่คุ้มเสีย

สังคม
7 พ.ย. 66
11:43
427
Logo Thai PBS
เสียงค้านสนั่น “ขยายเวลาปิดผับ”ได้ไม่คุ้มเสีย
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

15 ธ.ค. 2566 รัฐบาลเตรียมวางเดตไลน์ ขยายเวลาปิดผับและสถานบันเทิงนำร่องจังหวัดท่อง เที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยโครงการนี้ไม่ได้ทำทั่วประเทศ แต่มีการจัดแบ่งโซนนิ่ง ซึ่งหลายฝ่ายแสดงความวิตกกังวลว่า ในระยะยาวอาจส่งกระทบต่อปัญหาสังคม อาชญากรรม หรือการทะเลาะวิวาท อุบัติเหตุและอื่นๆตามมา  โดยเฉพาะปัญหาการทะเลาะวิวาท และอุบัติเหตุที่มีสาเหตุเกิดจากการดื่มสุรา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ระบุว่า แม้จะขยายเวลาปิดสถานบันเทิง-สถานการบริการ แต่จะไม่ขยายเวลาให้ดื่มสุราได้มากขึ้น แต่นักท่องเที่ยวจะอยู่ในร้านและมีเวลาพูดคุยกันได้นานขึ้น เพราะเจตนาของการออกมาตรการนี้คือเพื่อให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น รวมถึงการขายสินค้าและบริการที่ไม่ใช่แอลกอฮอล์ ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว

ขณะที่“เศรษฐา ทวีสิน “นายกรัฐมนตรี บอกว่า การขยายเวลาเปิดผับและสถานบันเทิง ไม่ได้หวังเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเดียว แต่จะทำให้ผู้ประกอบการและผู้ค้าขายจะมีเวลาเปิดให้บริ การมากขึ้น ส่งผลให้มีการใช้จ่ายได้มากขึ้นเช่นกัน ส่วนการป้องกันปัญหาอาชญากรรม อุบัติเหตุ และการทะเลาะวิวาทจะมีการติดกล้อง CCTV เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง

ผับ-บาร์ กระตุ้นเศรษฐกิจ“กระทบ”สังคมปลอดภัย

ในรอบ 10 เดือนที่ผ่านมา ข้อมูลจากศูนย์รับแจ้งเหตุ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด และเครือข่ายรับแจ้ง ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตสะสมจากอุบัติเหตุทางถนนในไทย ตั้งแต่(ม.ค.-ต.ค.2566 ) จำนวน 11,734 คน บาดเจ็บสะสม 669, 262 คน

นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ

นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ

นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ

นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) เชื่อว่า การขยายเวลาปิดสถานบันเทิง 04.00 น. จะทำให้สถิติอุบัติเหตุค่อยๆไต่ระดับสูงขึ้น ตั้งแต่ช่วงเวลา 17.00 น. และสูงสุดช่วงเวลา 02.00 น. และหยุดลงประมาณ 05.00 น.ขณะที่สถานการณ์การจราจรจะกลับมาปกติเวลา 09.00 น. แต่ถ้าขยายเวลาเปิดยาวนานขึ้นถึง 04.00 น. จะส่งผลกระทบกับคน 4 กลุ่ม คือ คนที่ต้องออกไปทำงานตั้งแต่เช้ามืด พ่อค้า แม่ค้า คนที่ต้องไปรับสินค้ามาขายในช่วงเช้า, พระภิกษุสงฆ์ ที่ออกไป บิณฑบาต, นักเรียน และกลุ่มคนที่ต้องออกไปทำงานช่วงเช้า

นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการเครือข่ายมูลนิธิเมาไม่ขับ

นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการเครือข่ายมูลนิธิเมาไม่ขับ

นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการเครือข่ายมูลนิธิเมาไม่ขับ

ด้าน นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการเครือข่ายมูลนิธิเมาไม่ขับ มองว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการขยายเวลาปิดผับ-บาร์ ไม่ใช่มุกใหม่ แต่เคยมีมาแล้วสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่ทำไม่ได้ในที่สุดก็ต้องล้มเลิกจึงอยากถามว่า ใครคือผู้ที่ได้ผลประโยชน์ที่แท้จริงผู้ได้ประโยชน์ไม่ใช่ทำงานกลางคืน แต่เป็นผู้ประกอบร้านเหล้า ผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหม่ ส่วนตัวไม่รู้ว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวิธีการนี้ถูกต้องหรือไม่ เพราะไม่มีอะไรพิสูจน์

แต่ที่ชัดๆ คือ ตอนโควิด ปิดผับตอน 04.00 น. นักเที่ยวที่มามาก ก็ไม่ใช่คนต่างชาติ แต่ส่วนใหญ่เป็นคนไทย และนักเรียน นักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งใจมากินเหล้าอย่างเดียวหรือ และเหล้าไทยดีกว่าเหล้าบ้านเขาตรงไหน 
สถิติการเสียชีวิตในแต่ละช่วงเวลา   จากศูนย์รับแจ้งเหตุ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด

สถิติการเสียชีวิตในแต่ละช่วงเวลา จากศูนย์รับแจ้งเหตุ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด

นพ.แท้จริง ย้ำว่า ปัญหาที่น่าเป็นห่วงคือ อุบัติเหตุที่ยังไม่มีความชัดเจนว่ากรณีที่นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ หากถูกใครขับรถชน หรือขับรถไปชนใคร หน่วยงานใดจะเป็นผู้รับผิดชอบ จะนำเงินจากส่วนไหนมาดูแลชดเชย หากเกิดการเสียชีวิตหรือ พิการ รวมทั้งผลกระทบต่อเนื่องกับผู้ที่ต้องออกจากบ้านตั้งแต่ 04.00 น. ทั้ง เด็กนักเรียน คนทำงาน คนออกกำลังกาย พระบิณฑบาตที่ อาจได้รับอุบัติเหตุ ดังนั้นรัฐควรเร่งทำความเข้าใจกับสังคมว่าใครจะรับผิดชอบ แม้รัฐอ้างว่าให้ขยายเวลาปิด แต่ไม่ขายเหล้า จึงเป็นไปไม่ได้ที่นักท่องเที่ยวจะเข้าไปนั่งเฉยๆ โดยไม่สั่งเหล้า

ขยายเวลาปิดผับ-สถานบันเทิง “ได้ไม่คุ้มเสีย”

ผศ.ดร.บุญอยู่ ขอพรประเสริฐ อนุกรรมการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายหรืออนุบัญญัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551

ผศ.ดร.บุญอยู่ ขอพรประเสริฐ อนุกรรมการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายหรืออนุบัญญัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551

ผศ.ดร.บุญอยู่ ขอพรประเสริฐ อนุกรรมการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายหรืออนุบัญญัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551

ในขณะที่ ผศ.ดร.บุญอยู่ ขอพรประเสริฐ อนุกรรมการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายหรืออนุบัญญัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 เห็นว่า การขยายเวลาเปิดสถานบันเทิง ก็เท่ากับขยายเวลาดื่มเหล้า เพราะตามปกติการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีช่วงเวลาจำกัด แต่กฎหมายของสถานบันเทิง มีข้อยกเว้น ให้สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ตามระยะเวลาเปิด – ปิดของสถานบันเทิง

ปิด 02.00 น. ก็ขายได้ถึง 02.00 น. เมื่อขยายเวลาปิด 04.00 น. ก็ขายได้ถึง 04.00 น. เมื่อขยายเวลาเพิ่ม ก็หมายความว่า คนเมายิ่งเพิ่มขึ้น เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ ทะเลาะวิวาท ก่อเหตุอาชญากรรม และอุบัติเหตุทางถนนมากขึ้น”

ผศ.ดร.บุญอยู่ กล่าวว่า หากสังเกตจำนวนอุบัติเหตุพบว่า ครึ่งหนึ่งเกิดในช่วงกลางคืน ส่วนกลางวันไม่มีค่อยมีอุบัติเหตุ เพราะไม่มีคนดื่มเหล้า หากรัฐบาลต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการขยายเปิดผับบาร์ เพิ่มรายได้ 15,000 ล้านบาท แต่หากนำไปเปรียบเทียบกับตัวเลขค่าใช้จ่ายด้านเศรษฐกิจ หากเกิดอุบัติเหตุ หรือ พิการ รัฐบาลต้องจ่ายเงินดูแลรวม 1 แสนล้านบาท ซึ่งก็จะพบว่าได้ไม่คุ้มเสียเลย

 ผู้ได้รับประโยชน์จากการขยายเวลาการเปิดสถาบันเทิง คือ ผู้ประกอบการ บริษัทเหล้า เบียร์ขนาดใหญ่ ส่วนคนระดับล่างที่เป็นรากฐานของเศรษฐกิจ กลับไม่มีส่วนได้เสียในเรื่องดังกล่าว จึงอยากตั้งข้อสงสัยว่ามีการต่างตอบแทนอะไรหรือไม่ 

ผ.ศ.ดร.บุญอยู่ ทิ้งท้ายว่า ประเด็นสำคัญที่รัฐบาลต้องเตรียมการตั้งรับ คือ ปัญหาอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น หากนักท่องเที่ยวขับรถชนคนไทย  ต้องมีคดีความการจ่ายเงินเยียวยา ดูแล หากพิการ หรือ เสียชีวิต ก็หนีไม่พ้นรัฐต้องจ่ายเงินชดเชยเยียวยา

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ระยะเวลาการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในสถานบันเทิงถูกกำหนดไว้ใน พระราชบัญญัติสถานบริการ 2546 และ กฎกระทรวงมหาดไทยกำหนดวันเวลาเปิดปิดสถานบริการ พ.ศ. 2547 โดยสถานบริการที่ให้เปิดตาม มาตรา 3 (1) ที่เปิดให้บริการ ระหว่างเวลา 21.00 - 02.00 น.ของวันรุ่งขึ้น สำหรับสถานบริการที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา เท่ากับว่าการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังขายได้ถึงเวลา 02.00 น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง