ไทม์ไลน์ 18 วัน "เสี่ยแป้ง นาโหนด" หลบหนี ปิดล้อมป่าไล่ล่า

อาชญากรรม
9 พ.ย. 66
17:27
23,588
Logo Thai PBS
ไทม์ไลน์ 18 วัน "เสี่ยแป้ง นาโหนด" หลบหนี ปิดล้อมป่าไล่ล่า
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ไทม์ไลน์ 18 วัน "เสี่ยแป้ง นาโหนด" หลบหนีออกจาก รพ. ก่อนรู้เบาะแส นำไปสู่ปฏิบัติการปิดล้อมเทือกเขาบรรทัดเพื่อล่าตัว ยังจับตัวไม่ได้

กว่าครึ่งเดือนที่  "แป้ง นาโหนด" หรือ นายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี ผู้ต้องขังหลบหนีระหว่างการเข้ารับการรักษา ใน รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช โดยปลดพันธนาการที่เจ้าหน้าที่ใส่ไว้ เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ทั้งที่มีผู้คุมเฝ้าอยู่ แต่ใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมง ถึงจะแจ้งตำรวจว่าผู้ต้องขังหลบหนี

อ่านข่าว ผบช.ภ.9 ยันยังไม่ได้วิสามัญฯ "เสี่ยแป้ง" ฝ่าวงล้อมหนีเข้าป่า

"แป้ง นาโหนด" ก่อคดีอะไร

"แป้ง นาโหนด" เป็นชาว ต.ท่าแค อ.เมือง จ.พัทลุง อาชีพเดิมเปิดอู่ซ่อมรถ เมื่อปี 2562 เคยเล่นการเมืองท้องถิ่น ลงสมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง (ส.อบจ.) แต่ไม่ได้รับเลือก

เคยต้องโทษหลายคดี ตั้งแต่ปี 2552-2562 ส่วนใหญ่เกิดในท้องที่ จ.พัทลุง เช่น คดีบุกรุกในยามวิกาล, พ.ร.บ.ราชทัณฑ์, คดีฆ่าผู้อื่น, คดีพยายามฆ่าผู้อื่น, คดีพยายามฆ่าตำรวจ และตำรวจทางหลวง

สำหรับการต้องโทษในครั้งนี้ ในคดีความผิดคดีปล้นทรัพย์ ความผิดต่อเสรีภาพ พ.ร.บ.อาวุธปืน กำหนดโทษรวม 21 ปี 3 เดือน 25 วัน มีกำหนดพ้นโทษ วันที่ 6 พ.ค.2586

"เสี่ยแป้ง" ถูกย้ายพฤติการณ์จากเรือนจำกลางพัทลุง มายังเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 7 ส.ค.2566 เนื่องจากพบว่าเป็นผู้มีอิทธิพล

สรุปไทม์ไลน์ ก่อนหลบหนี

"เสี่ยแป้ง นาโหนด" ถือเป็นผู้มีอิทธิพลและกว้างขวางในพื้นที่ มีประวัติพัวพันคดีร้ายแรง ทั้งคดีบงการ และคดีฆ่า หากไล่ตามไทม์ไลน์ก่อนหลบหนี ตามข้อมูลจากราชทัณฑ์ ระบุว่า

  • วันที่ 19 ต.ค. มีอดีตนักการเมืองจากพัทลุง และตำรวจ เดินทางไปเยี่ยม "เสี่ยแป้ง" ที่เรือนจำ
  • วันที่ 20 ต.ค. "เสี่ยแป้ง" เข้ารักษาด้านทันตกรรมตามแพทย์นัด แต่เมื่อไปถึงแพทย์แจ้งเลื่อนนัด
  • วันที่ 20 ต.ค. "เสี่ยแป้ง" ได้ถูกส่งออกไปรักษาทางทันตกรรม ณ โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช แต่กลับมีอาการวูบหมดสติและขาอ่อนแรง แพทย์จึงอนุญาตให้แอดมิทที่โรงพยาบาล
  • วันที่ 21 ต.ค. "เสี่ยแป้ง" นอนรักษาตัวที่ตึกอายุรกรรมชั้น 6 รพ.มหาราช โดยมีกำหนดการเตรียมส่งตัวกลับเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชในช่วงเช้า 22 ต.ค.
  • วันที่ 22 ต.ค. ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน "เสี่ยแป้ง" ก่อเหตุใช้กุญแจสะเดาะตรวน และได้ลงลิฟท์จากชั้น 6 โดยมี "บอย" ลูกน้องรอรับ โดย "เสี่ยแป้ง" ใส่เสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงรัดรูป ไม่มีเครื่องพันธนาการ และไม่ปกปิดใบหน้า
  • วันเดียวกัน 22 ต.ค. ใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมง กว่าผู้คุมจะแจ้งตำรวจว่ามีผู้ต้องขังหลบหนี 

อ่านข่าว : แกะเส้นทางหนี "เสี่ยแป้ง นาโหนด" ซ่อนไทย -ไปต่างแดน

ยิ่งสาวยิ่งเจอ ขบวนการพา "เสี่ยแป้ง" หลบหนี

เหตุการณ์ที่เกิดกลายเป็นคำถามถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ซึ่งเพิ่งแจ้งตำรวจหลังเกิดเหตุถึง 3 ชั่วโมง ตำรวจเร่งสืบสวนไล่ล่าจับกุมผู้เกี่ยวข้องพาเสี่ยแป้งหลบหนี รวม 10 คน เป็นลูกน้องเสี่ยแป้งและพวก 7 คน และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์อีก 3 คน ต่อมาทั้ง 3 คน ถูกดำเนินคดีอาญา มาตรา 157 ปล่อยปละละเลยในการควบคุมตัวผู้ต้องขัง จนเป็นเหตุให้ผู้ต้องขังหลบหนี โดยให้ออกจากราชการไว้ก่อน 

เหตุการณ์ในคือวันที่ 22 ต.ค. ยังมีตัวละครที่อยู่เบื้องหลังการหลบหนี คือ น.ส.วิลาวัลย์ หรือ ไหม ที่ รับจ้างเฝ้าไข้ "เสี่ยแป้ง" โดยไหมระบุว่าหมวยเป็นคนติดต่อให้เฝ้าไข้เสี่ยแป้ง และโอนเงินค่าจ้างให้

ต่อมาเสี่ยแป้งติดสินบนไหมโดยเสนอค่าจ้างและบ้านใน จ.ภูเก็ต ให้ 1 หลัง และให้ "ปอย" ลูกน้องเสี่ยแป้งปะปนมากับญาติคนผู้ป่วยรายอื่น ๆ และซุกซ่อนปืน และคีมมาให้เสี่ยแป้งเพื่อใช้ตัดตรวนที่ข้อเท้า โดยใช้ผ้าห่มคลุมเอาไว้ แต่ครั้งนั้นทำไม่สำเร็จ

และในช่วงดึก "ปอย" ซึ่งเป็นลูกน้องปะปนกับญาติคนไข้ เป็นคนไปเอากุญแจจาก "นายบิ๊ก" ลูกน้องอีกคนมาให้ "เสี่ยแป้ง" จากนั้น "เสี่ยแป้ง" ใช้ผ้าห่มคลุมไว้ และใช้กุญแจปลดเครื่องพันธนาการจนสำเร็จ

ต่อมา "เสี่ยแป้ง" เปลี่ยนชุดใส่เสื้อแขนยาวสีดำ-กางเกงรัดรูป ไม่มีเครื่องพันธนาการแล้ว และไม่ได้ปกปิดใบหน้า ลงลิฟท์จากชั้น 6 โดยมีนายบอย มารอรับ

อ่านข่าว : กางผลงาน 1 เดือน "บิ๊กต่อ" จับกุมคดีอาญาเกือบ 4 หมื่นคดี

ช่วยเหลือ หนีจาก รพ.

เหตุการณ์ในคืนหลบหนีนำไปสู่การออกหมายจับ 4 คน ที่ให้การช่วยเหลือและสนับสนุน แยกทำหน้าที่ติดต่อว่าจ้าง เฝ้าไข้ จัดหาอุปกรณ์ และยานพาหนะหลบหนี ดังนี้

  • นางจิรวุฒิ หรือ ปอย เป็นคนเข้าไปเยี่ยมไข้ โดยทำที ปะปนไปกับญาติคนไข้คนอื่น ๆ
  • นายจักรี หรือ บิ๊ก เป็นคนจัดหา นำอาวุธปืน และกุญแจ ไปส่งให้นายบอยเพื่อนำไปให้ "เสี่ยแป้ง"
  • นางยุวเรศ หรือ หมวย ภรรยาของนายบิ๊ก เป็นคนประสานงาน และจ่ายเงินค่าเฝ้าไข้ ให้ "ไหม" โอนเงินซื้อโทรศัพท์ให้เสี่ยแป้ง  
  • น.ส.วิลาวัลย์ หรือ ไหม คือ ผู้รับจ้างเฝ้าไข้

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น "ไหม" ผู้รับจ้างเฝ้าไข้ ยอมรับว่า ได้รับค่าจ้าง 2,000 บาท โดย "หมวย" เป็นคนโอนให้ ซึ่งช่วงที่ "เสี่ยแป้ง" หลบหนีนั้น "ไหม" บอกว่า รู้สึกตกใจ และนั่งอยู่ที่เตียงคนไข้ชั้นบน จนกระทั่งตำรวจเข้ามาพบ

เช็กกล้องเส้นทาง "เสี่ยแป้ง" หลบหนี

จากกล้องวงจรปิดคืนเกิดเหตุ 22 ต.ค. พบเมื่อ "เสี่ยแป้ง" ออกจากโรงพยาบาลแล้ว มีนายปอยมารอรับ และพาเสี่ยแป้งขึ้นรถยนต์กระบะสีขาวออกไป ซึ่งตรวจสอบแล้ว เป็นรถของแม่บอย โดยรถต้องสงสัย 3 คัน ขับฝ่าไฟแดงบริเวณสี่แยกหัวถนน มุ่งหน้า ขับหลบหนีมุ่งไปทาง จ.ตรัง-พัทลุง

  • คันที่ 1 รถเก๋งสีดำ
  • คันที่ 2 เป็นรถกระบะสีขาวของแม่บอย และคาดว่าเสี่ยแป้งจะนั่งอยู่ในรถคันนี้
  • คันที่ 3 รถกระบะสีขาว ขับตามหลัง

หลังจากนั้นตำรวจเร่งสืบสวนขยายผล เพื่อติดตามจับกุมเสี่ยแป้งต่อเนื่อง

อ่านข่าว : ตร.ส่งทีมปิด “เทือกเขาบรรทัด” ไล่ล่า “เสี่ยแป้ง”

แกะรอยสัญญาณมือถือ รู้พิกัดซ่อนตัว

ในวันที่ 23 ต.ค. ตำรวจแกะรอยสัญญาณโทรศัพท์มือถือของ "เสี่ยแป้ง" พบสัญญาณโทรศัพท์ ในพื้นที่ภูเขารอบต่อระหว่าง จ.พัทลุง และ สตูล ท่ามกลางกระแสข่าวการหลบหนีออกนอกประเทศ

มาถึงตรงนี้คดี "เสี่ยแป้ง" หลบหนีออกจากโรงพยาบาลเริ่มเป็นที่จับตาของสังคมมากขึ้น เพราะการหลบหนีของเสี่ยแป้งดูจะยิ่งไม่ธรรมดา มีการวางแผนกันเป็นขั้นเป็นตอน มีผู้ร่วมก่อเหตุหลายคน

ขนาดที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กำชับให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะกำกับดูแลกรมราชทัณฑ์ ให้สืบให้ได้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

การสืบสวนตามจับ เสี่ยแป้งยังคงดำเนินไปหลายสัปดาห์ยังตามจับตัวไม่ได้ จนกรมราชทัณฑ์ ได้เพิ่มค่าหัวนำจับ เป็น 1,000,000 บาท จากช่วงแรกที่มีค่าหัวอยู่ที่ 100,000 บาท  

18 วัน "เสี่ยแป้ง" หลบหนี จับ "2 ลูกน้อง" สู่เบาะแสสำคัญ

กระทั่งมาถึงวันที่ 8 พ.ย. รวมแล้ว 18 วัน ที่ "เสี่ยแป้ง" ได้หลบหนีไป มีเบาะแสสำคัญในการไล่ล่า "เสี่ยแป้ง" มาจากการจับกุมลูกน้องเพิ่มอีก 2 คน มีรายงานว่าเป็นคนที่อยู่ในกลุ่มที่หลบหนีขึ้นเทือกเขาบรรทัด 

คนแรก คือ นายมนัส หรือ "บังเขียว" อายุ 33 ปี ชาว จ.พัทลุง อ้างว่าเป็นคนพา "เสี่ยแป้ง" เดินเข้าป่า ขึ้นเทือกเขาบรรทัดไปทางทิศตะวันออก เดินเลยหมู่บ้านในตระ ข้ามไปฝั่ง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง โดย "บังเขียว" อ้างว่าตอนนั้น มีปืนแค่ 3 กระบอก และผู้ติดตามจำนวนหนึ่ง

วันที่ 7 พ.ย. เสบียงใกล้หมด "บังเขียว" ถูกสั่งให้ลงเขามาหาเสบียง กระทั่งถูกตำรวจจับ และนัดส่งเสบียงให้ "เสี่ยแป้ง"

ในวันที่ 8 พ.ย. ระหว่าง "บังเขียว" นำเสบียงไปส่งที่จุดนัดพบ ตามรายงานคือพบตัว "เสี่ยแป้ง" แล้วเกิดการปะทะกัน

ลูกน้องคนที่ 2 คือ นายภานุวัฒน์ อายุ 25 ปี ชาว อ.ปะเหลียน จ.ตรัง โดยนายภานุวัฒน์ เข้าป่าไปกับเสี่ยแป้ง มีหน้าที่ทำอาหาร เขาอ้างว่า วันที่ 7 พ.ย. ไปตัดฟืนหุงข้าว แล้วมีดโดนตัวเอง "บาดเจ็บ" จึงลงเขาไปโรงพยาบาลพัทลุง อ้างกับแพทย์ว่าถูกตำรวจตามล่า

ด้านแม่ของนายภานุวัฒน์ กล่าวว่า นายภานุวัฒน์ เดินป่าบ่อย แต่ขึ้นลงทาง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง แต่ครั้งนี้เดินลงมาฝั่งพัทลุง และรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยทราบจากแพทย์ว่า นายภานุวัฒน์ อ้างว่าหนีตำรวจได้รับบาดเจ็บ ตำรวจจึงแจ้งตนให้มาหาที่โรงพยาบาล

ปิดล้อมป่าเขาบรรทัด ไล่ล่าเสี่ยแป้ง

ช่วงบ่ายวันที่ 8 พ.ย. หลังจากที่มีรายงานว่า "เสี่ยแป้ง" และลูกน้องคนสนิทหลบหนีเทือกเขาบรรทัด ในเขตรอยต่อของ จ.พัทลุง และตรัง

ระหว่างนั้น เจ้าหน้าที่พบตัวเสี่ยแป้ง แล้วเกิดการยิงปะทะกัน และมีข้อมูลข่าวบางกระแสที่ระบุว่า เสี่ยแป้งอาจถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรม เสียชีวิตไปแล้ว แต่ต่อมามีการรายงานว่า เสี่ยแป้งหลบหนีการติดตามของตำรวจไปได้ เพราะสุนัขที่เลี้ยงไว้เห่าเตือน ก่อนที่ตำรวจจะเข้าไปถึง

มีรายงานว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่ปะทะกับ "เสี่ยแป้ง" พบปืน M16 จำนวน 1 กระบอก , ปืน HK 1 กระบอก ปืนพกสั้น 9 มม. 1 กระบอก กระสุนอีก 600 นัด ตำรวจไม่ยืนยันว่า กลุ่มเสี่ยแป้งมีกี่คน แต่ค่อย ๆ ปิดล้อมและกระชับพื้นที่ ยืนยันไม่มีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ

พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ จ.ตรัง เพื่อบัญชาการติดตามตัวเสี่ยแป้ง โดยระบุว่า เสี่ยแป้งได้เตรียมการล่วงหน้ามาเป็นอย่างดี ในการเลือกกบดานซ่อนตัวบริเวณใกล้บ้านตระ ซึ่งอยู่ใจกลางเทือกเขาบรรทัด เนื่องจากที่พักชั่วคราว และเชื่อว่ามีผู้ให้ความช่วยเหลืออีกหลายคน

เย็นวันเดียวกัน ตำรวจภาค 8 ตำรวจภาค 9 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันติดตามตัวเสี่ยแป้ง ที่คาดว่าน่าจะหลบหนีอยู่ในพื้นที่บ้านตระ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเท้าระหว่างตรัง-พัทลุง มีเส้นทางเข้าออกด้วยการเดินเท้า 4 เส้นทาง คือ

เส้นทางขึ้นจากควนไม้ดำ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง

เส้นทางอ่างเก็บน้ำคลองหัวช้างอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หมู่ 6 ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง

เส้นทางบ้านตระ-บ้านราวปลา และเส้นทางบ้านตระ-ภูผาเพชร อ.มะนัง จ.สตูล

พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมที่กองอำนวยการร่วม น้ำตกโตนเต๊ะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ว่า เชื่อว่าเสี่ยแป้งยังหลบซ่อนตัวอยู่บนเขาบรรทัด ยืนยันว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้วิสามัญเสี่ยแป้งแต่อย่างใด และยังหลบหนีอยู่ในบริเวณนี้ และอยากขอให้มอบตัว

อ่านข่าว : "เสี่ยแป้ง" กบดาน "บ้านตระ" ไข่แดงเทือกเขาบรรทัด

กระจายกำลัง "ปิดล้อม-กระชับพื้นที่" ไล่ล่า

ล่าสุด วันนี้ 9 พ.ย. เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังเข้าปิดล้อมกระชับพื้นที่บ้านตระ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง แต่ยังมีอุปสรรค โดยเฉพาะเส้นทางที่ห่างไกลและยากลำบาก

ชาวบ้านบ้านตระบางคน ให้ข้อมูลว่า หลายคนเคยรู้จักนายแป้ง และคุ้นเคยในพื้นที่เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเคยมาอาศัยที่นี่นานนับเดือน ก่อนจะถูกดำเนินคดีจึงไม่แปลกใจที่จะหนีมาซ่อนตัวในป่าลึกบริเวณนี้  

นอกเหนือจากปฏิบัติการติดตามนายแป้งบนเทือกเขาบรรทัดแล้ว ตำรวจก็ได้ตั้งด่านตรวจสกัดตามแนวเชิงเขาบรรทัดทั้งใน จ.ตรัง สตูล และ จ.พัทลุง

จ.พัทลุง ตำรวจตั้งจุดตรวจจุดสกัดเส้นรอยต่อริมเทือกเขาบรรทัด ระหว่าง อ.ตะโหมด อ.กงหรา อ.ป่าบอน และ อ.ศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อถึงบ้านตระ บนเทือกเขาบรรทัดในฝั่ง จ.ตรัง เพื่อปิดเส้นทางการหลบหนีของนายแป้งนาโหนด

อย่างไรก็ตามขณะนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัว "เสี่ยแป้ง นาโหนด" และต้องจับตาว่าการปฏิบัติการครั้งนี้ จะสามารถจับเสี่ยแป้งได้ เมื่อไร และสถานการณ์ท้ายที่สุดแล้วจะจบลงเช่นไร 

อ่านข่าวอื่น ๆ

รวบ "หนอน ทุ่งลาน" ลูกน้องที่พา "เสี่ยแป้ง" หลบหนี

ค้นบ้าน-คุมตัวภรรยา "บิ๊ก" ลูกน้องเสี่ยแป้ง สอบหาแหล่งหลบซ่อน

จ่อออกหมายจับคนช่วย "เสี่ยแป้ง" หลบหนี คาดใช้เส้นทางตรัง-พัทลุง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง