จับกระแสการเมือง:วันที่ 14 พ.ย.2566 กว่า"ปชป."ได้หัวหน้าพรรคคนใหม่ สส.จากไปไม่คืนรัง

การเมือง
14 พ.ย. 66
17:19
2,682
Logo Thai PBS
จับกระแสการเมือง:วันที่ 14 พ.ย.2566 กว่า"ปชป."ได้หัวหน้าพรรคคนใหม่ สส.จากไปไม่คืนรัง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

วุ่นไม่เลิก ยังเลือกหัวหน้าพรรคไม่ได้ “ค่ายสีฟ้า” ประชาธิปัตย์ (ปชป.) แม้เจ้าของนามปากกา "อู๊ดด้า" จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ สส. บัญชีรายชื่อ ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะแจ้งลาออกจากตำแหน่งรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผ่านกลุ่มไลน์พรรคฯ เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา

นัยว่าเพื่อป้องกันปัญหาข้อกฎหมาย เพราะการแจ้งลาออกส่งผลให้คณะกรรมการบริหารพรรคทั้ง 32 คนต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งหมด ขณะที่เอกสารกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองประกาศ วันที่ 21 กันยายน 2566 มีชื่อ "นราพัฒน์ แก้วทอง"เป็นรักษาการหัวหน้า พรรคฯ และเป็นรองหัวหน้าพรรคภาคเหนือในลำดับแรก อาจทำให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน โดยพรรคฯแจ้งให้ "แสวง บุญมี" เลขาธิการกกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองทราบแล้ว

หลังทำหนังสือทักท้วงการรายงานผลเดือนต.ค. ก็ไม่มีชื่อ"นราพัฒน์" อยู่ในตำแหน่งรักษาการณ์หัวหน้าพรรค ปชป.และการประชุมรักษาการณ์กรรมการบริหาร จะต้องเลือกรักษาการหัวหน้าพรรคคนใหม่ ทำหน้าที่ ก่อนจะกำหนดวันประชุมเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ต่อไปได้

เป็นอันได้ข้อยุติเรื่องประเด็นข้อกฎหมาย ขณะที่ ”นราพัฒน์ “ยังประกาศเดินหน้าสู้ต่อ ย้ำความตั้งใจเดิมที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคปชป.คนใหม่ แม้ที่ผ่านมาองค์ประชุมไม่ครบและล่มมาแล้ว 2 ครั้งก็ตาม

...ยังไม่รู้ใครจะอยู่ใครจะไประหว่าง "นราพัฒน์ แก้วทอง" และ "เดชอิศม์ ทองขาว" รองหัวหน้าพรรค ปชป. คู่ท้าชิง ซึ่งกว่าค่ายแม่พระธรณีบีบมวยผมจะได้หัวหน้าพรรคคนใหม่ หลายคนที่เดินจากไปก็ไม่มีใครหวนคืนรัง

กลับมาที่กระทรวงพญา เมื่อ "ผู้กองธรรมนัส" ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ งดเปิดศึกภาย ในชั่วคราวกลับมาเอาใจชาวนาทั่วประเทศ แจ้งข่าวให้ได้เฮ! กันถ้วนหน้าว่า ครม.อนุมัติเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ วง เงิน 5.6 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าให้เงินถึงมือชาวนาในวันที่ 20 พ.ย.นี้

ยังไม่พอแถมโปรยยาหอมต่อว่า รัฐบาลไม่เคยทิ้งชาวนา พร้อมขับเคลื่อนมาตรการรักษาเสถียรภาพข้าว ดึงราคาหอมมะลิเกี่ยวสดให้ได้ตันละ 12,000 บาท

ปรับราคาขึ้น"น้ำตาลทราย" พรุ่งนี้ (15 พ.ย.) แล้ว แม้ "เนเน่" รัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกรัฐมนตรี จะออกมาแถลงว่า ประกาศให้น้ำตาลทรายเป็นสินค้าควบคุม แต่ราคาที่ควบคุมไม่สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรไร่อ้อยลำบาก จึงมีการหารือกับตัวแทนที่เกี่ยวข้อง 

และได้ขอสรุปว่า ครม.มีมติเห็นชอบให้ปรับขึ้นราคาน้ำตาลหน้าโรงงาน 2 บาท ซึ่งไม่ใช่ราคาค้าปลีก โดยปรับราคาขึ้นใน 2 ประเภท คือราคาน้ำตาลทรายขาว จากเดิมกิโลกรัมละ 19 บาท เพิ่มเป็น 21 บาท

ส่วนน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ จากเดิมกิโลกรัมละ 20 บาท ขึ้นเป็น 22 บาท และคาดว่าจะสามารถปรับขึ้นราคาได้ในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ย.) แต่หากไม่ทันก็จะขึ้นราคาในวันถัดไป

ขณะที่ การแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาทของรัฐบาล ได้ข้อสรุประดับหนึ่งในเรื่องสิทธิ และเงื่อนไขของผู้ที่จะได้รับแจกเงินดังกล่าว แต่ยังมีปัญหาแหล่งทุนที่นำมาใช้ จึงมีแนวโน้มสูงที่รัฐบาลอาจจะต้องหาแหล่งเงินกู้ ควบคู่กับการเร่งออก พ.ร.บ.เงินกู้ ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าอาจจะผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 40

และพ.ร.บ.วินัยการเงิน การคลัง มาตรา 53 ระบุชัดว่า การออกกฎหมายพิเศษกู้เงิน กระทำได้เฉพาะกรณีมีความจำเป็นเร่งด่วน ต้องใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้วิกฤติของประเทศ โดยไม่สามารถตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ทัน

ล่าสุด คำนูณ สิทธิสมาน สว. ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน สมาชิกวุฒิสภา บอกว่า การบรรจุเงินที่จะใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตลงไปในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปลอดภัยกว่าและอยู่ในวิสัยที่สามารถทำได้ทัน

การที่ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2567 ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา แล้วมาออกพ.ร.บ.กู้เงินอีก 5 แสนล้านบาท อาจจะเป็นการเสี่ยงต่อการขัดต่อพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง มาตรา 53 มากกว่า

อย่างไรก็ตาม แม้ในอดีตจะเคยมีปัญหาการใช้เงินนอกงบประมาณ เช่น โครง การไทยเข้มแข็ง สมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ปี 2552 จนถึงพรรคเพื่อไทยในปี 2554 และ 2556 ทั้งหมดจึงเป็นที่มาของรัฐธรรมนูญมาตรา 140 และกฎหมายวินัยการเงินการคลัง

..แต่กว่าโครงการนี้ จะผลบังคับชื้ยังอีกนาน ดังนั้นหนังม้วนนี้ จึงเป็นภาพยนตร์เรื่องยาวที่ต้องติดตามกันต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง