รู้ก่อนไป เที่ยวฮอกไกโด (Hokkaido) ครั้งแรก ต้องเตรียมอะไรบ้าง

ไลฟ์สไตล์
7 ธ.ค. 66
20:35
4,385
Logo Thai PBS
รู้ก่อนไป เที่ยวฮอกไกโด (Hokkaido) ครั้งแรก ต้องเตรียมอะไรบ้าง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ช่วงสิ้นปีถือเป็นช่วงที่ผู้คนกำลังหาที่เที่ยวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ “เกาะฮอกไกโด” ประเทศญี่ปุ่นเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะขึ้นชื่อทั้งเรื่องอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และกิจกรรมที่โดดเด่นอย่างการเล่นสกี

      ฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นเกาะที่ใหญ่สุดอันดับ 2 ตั้งอยู่เหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ฮอกไกโดมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ฮอกไกโดถือเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหาร ในระดับที่เคยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่มีของกินอร่อยที่สุดเป็นอันดับ 1 ไม่ว่าใครมาเยือนก็ต้องมาลิ้มลองอาหารทะเลให้ได้ ส่วนสายท่องเที่ยวนั้นก็ไม่เป็นรองใคร เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายให้เลือกสรรตามความชอบกันได้เลย

กิจกรรมที่สนใจในช่วงฤดูหนาวของฮอกไกโด

ฮอกไกโดถือเป็นเมืองที่โดดเด่นเรื่องกีฬาฤดูหนาว “การเล่นสกี” จึงเป็นกิจกรรม เนื่องจากฮอกไกโดเป็นพื้นที่ที่มีหิมะหนาแน่น และมีฤดูหนาวยาวนานทำให้นักท่องเที่ยวสามารถสนุกไปกับกิจกรรมดังกล่าวได้ยาวนานเช่นเดียวกัน ฮอกไกโดนั้นมีสถานที่เล่นสกีมากมาย เช่น

อ่านข่าว : “เที่ยวสะปัน” ในวันที่แปรเปลี่ยน ฤๅ เสน่ห์ชุมชนจะจางหายไป

     Furano ski resort ลานสกีฟุราโนะ รีสอร์ท

ตั้งอยู่ในเมืองฟุราโนะกลางเกาะฮอกไกโด เป็นสถานที่ที่มีหิมะเบาและแห้งที่สุดในฮอกไกโด รวมทั้งยังมีหิมะสูงถึง 9 เมตร เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนชื่นชอบหิมะเลยก็ว่าได้ ฟุราโนะเป็นลานสกีที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาได้อย่างชัดเจน

นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มเล่นสกี และผู้เล่นสกีมืออาชีพ โดยลานสกีนั้นแบ่งออกเป็นโซนฟุราโนะ ซึ่งเป็นทางลาดกว้างใหญ่ เป็นเส้นทางสกีที่เล่นได้ง่าย และโซนคิตะโนะมิเนะ เป็นโซนที่มีความหลากหลายสูงมาก เหมาะสำหรับผู้ที่เล่นสกีได้คล่อง เนื่องจากมีเส้นทางที่ยากกว่าโซนแรก

นอกจากการเล่นสกีแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการล่องแพหิมะ รถลุยหิมะ พาราเซล สกีวิบาก บ้านลม และขี่สโนว์โมบิล ฯลฯ

เวลาทำการ : 08.30-20.00 น.
การเดินทาง : โดยสารรถบัสจาก Asahikawa Airport (สนามบินอาซาฮิกาว่า) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที หรือนั่งแท็กซี่จาก JR Furano Station 5 กิโลเมตร ประมาณ 10 นาที
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.princehotels.co.jp/ski/furano/winter/ Hoshino Resorts Tomamu

        ลานสกีโฮชิโนะ รีสอร์ท โทมามุ

ตั้งอยู่ตอนกลางของฮอกไกโด มีพื้นที่ห้อมล้อมไปด้วยภูเขา 2 ลูก มีกิจกรรมมากมายไม่ว่าจะเป็น Indoor และ Outdoor สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นสกีหรือกิจกรรมทางหิมะนั้นก็มีให้เลือกสรรตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็น Snow Raft, Snow Mobile, Sled Park และ Snow cart

ไฮไลท์ของรีสอร์ทแห่งนี้คือ Ice Village หรือหมู่บ้านน้ำแข็งโทมามุ ที่มีเฉพาะในฤดูหนาวช่วงปลายเดือนธ.ค.-มี.ค.เท่านั้น ซึ่งมีอุณภูมิต่ำสุดถึง -20 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว โดยภายในหมู่บ้านน้ำแข็งจะมีบ้านที่ทำจากน้ำแข็ง มีร้านอาหารและบาร์ที่ทำจากน้ำแข็ง รวมถึงมีโซน Ice Labo ที่จะเก็บตัวอย่างเกล็ดหิมะเอาไว้ให้ชมเกล็ดหิมะด้วยตาเปล่า โดยไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ

เวลาทำการ : 9.00-19.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถบัสฟรีจากสถานี Tomamu ไปยังสกีรีสอร์ทใช้เวลาเดินทาง 3 นาที
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://hoshinoresorts.com/en/hotels/risonaretomamu/

      KIRORO RESORT

ลานสกีคิโรโระ รีสอร์ท เป็นลานสกีขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านอะไคงาวะใกล้กับเมืองโอตารุ นับเป็นอีกหนึ่งลานสกีที่กว้างใหญ่และสามารถชมวิวสวยงามของภูเขาลูกใหญ่ได้อย่างเต็มตา โดยลานสกีแห่งนี้มีคอร์สสอนเล่นสกีสำหรับผู้ที่เริ่มเล่นสกี เพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่าจะได้รับความสนุกกลับไปแน่นอน

นอกจากการเล่นสกีแล้วรีสอร์ทแห่งนี้ยังมีกิจกรรมอีกมากมาย เช่น กระดานเลื่อน Sledge, Snow Mobile, Snow Segway, Snow Rafting ส่วนเด็กๆ ที่มาพร้อมครอบครัวก็ไม่ต้องกลัวว่าจะนั่งเหงาอยู่เฉย ๆ เพราะทางรีสอร์ทมีโซนสนามเด็กเล่น และSnow Bubble Ball ให้เด็ก ๆ ได้เล่นสนุกกัน

พร้อมเพิ่มความโรแมนติกไปอีกขั้นกับ Kiroro Lover’s Sanctuary Bell ระฆังแห่งความรักอันเลื่องชื่อที่ผู้คนมักจะไปขอพรเรื่องความรักกันบนยอดเขา Asari

เวลาทำการ : 9.00-15.30 น.ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนพฤษภาคม
การเดินทาง : ขึ้นรถบัสของรีสอร์ทจากสถานี Otaruchikko มาลงที่รีสอร์ทโดยใช้เวลา 13 นาที
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.kiroro.co.jp/

อ่านข่าว : รู้จัก "ทุ่งลาวามอส" สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติแห่งไอซ์แลนด์

ไปญี่ปุ่นต้องเตรียมอะไรบ้าง

พาสปอร์ต หรือหนังสือเดินทางที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือนจนถึงวันเดินทางกลับ

1. ลงทะเบียนก่อนเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น

การเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น จะต้องลงทะเบียน Visit Japan Web นักเดินทางทุกคนต้องยื่นข้อมูลผ่านระบบการตรวจคนเข้าเมือง และการตรวจศุลกากร เมื่อถึงสนามบินปลายทางต้องแสดง QR Code ต่อเจ้าหน้าที่

การลงทะเบียนมีเอกสารที่ต้องใช้คือ พาสปอร์ตที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน จนถึงวันเดินทางกลับ โดยการกรอกข้อมูลในส่วนการตรวจคนเข้าเมือง (Immigration) และข้อมูลศุลกากร (Declaration) ผ่าน Visit Japan Web โดยมีขั้นตอนดังนี้

2. ลงทะเบียน Visit Japan Web

  • เข้าไปยังเว็บไซต์ Visit Japan Web เพื่อลงทะเบียน https://vjw-lp.digital.go.jp/en/
    สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเรียบร้อยสามารถ Log in เข้าระบบได้เลย
  • Register user กรอกข้อมูลส่วน Your Details
  • Register planned entry/return สร้างชื่อทริปการเดินทาง พร้อมระบุข้อมูลวันเดินทาง สายการบิน และที่พัก

3. กรอกข้อมูล Preparation for Immigration Clearance สำหรับการตรวจคนเข้าเมือง

  • เลือก Disembarkation Card For Foreigner
  • ระบุประเทศ จังหวัดที่อยู่อาศัย วัตถุประสงค์การเดินทาง และไฟล์ทเที่ยวบินที่เดินทางมาถึง
  • ระบุระยะเวลาที่อยู่ในญี่ปุ่น และที่อยู่/ที่พักในญี่ปุ่น
  • ตอบคำถามตามที่เว็บสอบถาม ประกอบด้วย
    เคยถูกเนรเทศจากญี่ปุ่นหรือถูกปฏิเสธไม่ได้เข้าญี่ปุ่นหรือไม่ ?
    เคยมีความผิดทางอาญาในประเทศญี่ปุ่นหรือไม่ ?
    มียาเสพติด กัญชา ฝิ่น สารกระตุ้น สารควบคุมอื่น ๆ อาวุธปืน หน้าไม้ ดาบ วัตถุระเบิดไว้ในครอบครองหรือไม่ ?
  • หลังตรวจทานคำตอบเรียบร้อยแล้ว กด Register ถือว่ากรอกข้อมูลสำเร็จ

4. กรอกข้อมูล Preparation for Customs Declaration สำหรับศุลกากร 

  • เลือก Declaration of Personal Effects and Unaccompanied Articles
  • เลือกอาชีพ ระบุวันเดินทางถึงญี่ปุ่น หมายเลขไฟล์ทเที่ยวบินที่มาถึงญี่ปุ่น และเมืองต้นทางที่เดินทางมา รวมทั้งระบุจำนวนสมาชิกในครอบครัวที่เดินทางมาด้วยกัน และกรอกที่อยู่/ที่พักในญี่ปุ่นเหมือนในข้อ 2

จากนั้นตอบคำถามเรื่องการพกสิ่งของต้องห้ามเข้ามาในญี่ปุ่น

คุณได้นำสิ่งเหล่านี้เข้ามาในญี่ปุ่นหรือไม่
(1) สิ่งของต้องห้ามนำเข้าญี่ปุ่น เช่น ยาเสพติด อาวุธปืน ระเบิด
(2) วัตถุควบคุม เช่น เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ สัตว์และพืช
(3) ทองคำแท่ง หรือผลิตภัณฑ์ทองคำ
(4) สินค้า ไม่ว่าจะเป็นของซื้อเอง หรือของฝาก ที่เกินจากการได้รับยกเว้นภาษี
(5) สินค้าเชิงพาณิชย์ หรือตัวอย่างสินค้า
(6) สิ่งของที่ได้รับการร้องขอจากผู้อื่นให้นำเข้ามาในญี่ปุ่น
นำเงินสด หรือเช็คที่มีมูลค่าเกิน 1,000,000 เยน หรือโลหะมีค่าน้ำหนักเกิน 1 กิโลกรัม เข้ามาด้วยหรือไม่
(7) มีสัมภาระที่แยกส่งมาทางไปรษณีย์ รวมถึงแพ็คเกจขนย้ายหรือไม่

หลังจากลงทะเบียนเสร็จสิ้นและผ่านการอนุมัติเรียบร้อย จะได้รับ QR Code เพื่อนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่น แนะนำว่าควรแคปหน้าจอเก็บไว้ หรือพรินต์ใส่กระดาษเพื่อความสะดวกรวดเร็วแก่เจ้าหน้าที่

อ่านข่าว : เที่ยวแม่ฮ่องสอน สักการะ "พระธาตุคู่ กองมูเสียดฟ้า"

       การวางแผนจองตั๋วเครื่องบินก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากช่วงไฮซีซั่นอาจทำให้มีค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น สำหรับการจองตั๋วเครื่องบินสามารถเลือกได้ว่า จะบินตรงหรือต่อเครื่อง

ผู้ที่ต้องการความสะดวกและต้องการประหยัดเวลา แนะนำให้บินตรงจากประเทศไทย ลงที่สนามบินชิโตเสะ เมืองซัปโปโร ซึ่งอาจจะมีราคาสูงกว่าแบบต่อเครื่อง แต่สำหรับผู้ที่ต้องการจำกัดงบประมาณ การต่อเครื่องเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ซึ่งประเทศที่ต้องไปต่อเครื่อง ได้แก่ จีน ฮ่องกง มาเก๊า และมาเลเซีย ผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบเที่ยวบิน และราคาได้ที่เว็บไซต์ของสายการบิน โดยราคาเฉลี่ยของตั๋วเครื่องบินไปฮอกไกโดแบบไปกลับอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาท

เพราะฉะนั้นแล้วหากมีแพลนว่าจะมาเที่ยวที่ฮอกไกโดควรวางแผนและจองตั๋วเครื่องบินและที่พักล่วงหน้า เพราะอาจประหยัดงบไปได้ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว

       การเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นควรเตรียมตัวให้พร้อม เพราะของใช้บางอย่างที่นำไปอาจใช้งานที่ญี่ปุ่นไม่ได้ เช่น อุปกรณ์ไฟฟ้า สกุลเงิน

  • หัวแปลงปลั๊กไฟ เพราะปลั๊กไฟที่ญี่ปุ่นจะเป็นรูแบน ซึ่งไม่เหมือนของไทยที่เป็นรูกลม
  • ตัวปรับค่าไฟฟ้า แรงดันไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นและไทยไม่เท่ากัน โดยอุปกรณ์ที่สามารถใช้ได้ต้องมี INPUT:100-240V สามารถรับแรงดันไฟฟ้าได้ 100 – 240 โวลต์ หากไม่ใช้ตัวปรับค่าไฟฟ้าอาจทำให้อุปกรณ์ของเราเสียหายได้

       นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญคือ การแลกเงิน ญี่ปุ่นใช้สกุลเงินเยน (¥) และร้านค้าในประเทศญี่ปุ่นบางร้านรับเฉพาะเงินสดเท่านั้น จึงควรแลกเงินสดติดตัวไว้ด้วย โดยสามารถแลกเงินเยนได้ที่เคาน์เตอร์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคาร หรือร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตรา

รู้ก่อนไป สิ่งของต้องห้ามนำเข้าญี่ปุ่น

  1. เนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น เนื้อ แฮม ไส้กรอก เบคอน ซาลาเปา ฯลฯ ที่ไม่มีใบรับรองการตรวจสอบ รวมถึงชุดปฏิบัติงาน รองเท้าปฏิบัติงาน รองเท้าบูท ฯลฯ ที่เปรอะเปื้อนจากการใช้งานในต่างประเทศเข้ามาในประเทศญี่ปุ่น
  2. ธัญพืช และเมล็ดผักผลไม้ทุกชนิด
  3. ผัก หรือผลไม้
  4. ผลิตภัณฑ์จากนม
  5. ไข่ รวมถึงเปลือกไข่
  6. ฟางจากธัญพืช อาหารสัตว์จากหญ้าแห้ง (ในบางภูมิภาค)
  7. กัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพืชชนิดดังกล่าว
  8. ยารักษาโรคบางชนิด หากผู้ใดมีความจำเป็นต้องนำเข้าต้องมีใบรับรองแพทย์และข้อมูลการใช้ยาอย่างละเอียดเป็นภาษาอังกฤษ
    ซึ่งยาที่ห้ามนำเข้านั้น เป็นยาที่มีส่วนผสมของสารซูโดอีเฟดรีน หรือสารไดเฟนอกไซเลต หากฝ่าฝืนกฎและนำเข้ายาเหล่านี้จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
  9. สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ต่าง ๆ

เช็กสภาพอากาศแล้วเตรียมเสื้อผ้าให้พร้อม

      ช่วงปลายปีของฮอกไกโดอยู่ในฤดูใบไม้ผลิ เป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีทำให้เป็นอีกหนึ่งเดือนที่สวยที่สุดของการเที่ยวฮอกไกโด ซึ่งสภาพอากาศในเดือน พ.ย. จะมีลมเย็นสบายในช่วงต้นฤดู และค่อย ๆ หนาวลงเรื่อย ๆ

อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 19.5 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ -10.1 องศาเซลเซียสเพราะฉะนั้นแล้วควรเตรียมเสื้อแขนยาว ลองจอน หรืออุปกรณ์กันหนาวไปด้วย

      เมื่อเข้าสู่เดือนธ.ค. จะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ฮอกไกโดจะมีอากาศหนาวมาก โดยมีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 12.3 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ -19.2 องศาเซลเซียส ควรเตรียมเสื้อกันหนาว ดาวน์แจ็คเก็ต เสื้อผ้ากันลมอุปกรณ์กันหนาว เช่น ผ้าพันคอ ถุงมือ และหมวก นอกจากนี้ควรเตรียมรองเท้ากันลื่นไปด้วย เนื่องจากช่วงปลายเดือนอาจมีหิมะตกได้

      ส่วนช่วงเริ่มต้นปีใหม่อย่างเดือน ม.ค. มีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 6.7 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ -20.5 องศาเซลเซียส มีอากาศหนาวจัด และมีหิมะตกปกคลุมอยู่ทั่วพื้นที่ หากใครที่ต้องการมาท่องเที่ยวในช่วงนี้ ควรสวมเสื้อผ้าหลายชั้น เตรียมเสื้อกันหนาวหรือเสื้อโค้ท และอุปกรณ์กันหนาว เช่น หมวก ผ้าพันคอ ถุงมือ และถุงเท้ามาให้พร้อม รวมถึงรองเท้าสำหรับเดินบนหิมะไปด้วย

      นอกจากฮอกไกโดจะเป็นสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบสกีและหิมะแล้ว ยังมีสถานที่เที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งเมืองหนึ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนฮอกไกโดคือ เมืองโอตารุ (Otaru) เป็นเมืองที่มีกิจกรรม สถานที่ท่องเที่ยว และร้านค้ามากมายให้เลือกสรร ด้วยวิวทิศทัศน์ที่สวยงาม นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินเที่ยวเพลิดเพลินได้ทั่วทั้งเมือง

คลองโอตารุ (Otaru Canal Area)

คลองโอตารุ คือคลองที่ไหลผ่านใจกลางเมือง ในอดีตเคยเป็นเมืองท่าที่ใช้ขนสินค้าไปยังสถานที่ต่าง ๆ ตามแนวคลอง ปัจจุบันถูกพัฒนาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีพิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร และร้านขายของฝากมากมาย ในช่วงฤดูหนาวจะมีเทศกาลโอตารุ สโนว์สตอรี่ (Otaru Snow Story) มีการจัดตกแต่งไฟตามทางเดินของทุกปีในช่วงเดือนพ.ย.-ก.พ. ของปีถัดไป

การเดินทาง : เดินจากสถานี Otaru ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

คลองโอตารุ (Otaru Canal)

คลองโอตารุ (Otaru Canal)

คลองโอตารุ (Otaru Canal)

พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ (Otaru Music Box Museum)

พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ ตั้งอยู่ในอาคารเก่าแก่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1912 ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์และร้านขายกล่องดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีกล่องดนตรีหลากหลายรูปแบบจัดจำหน่าย สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อของฝากหรือเป็นของที่ระลึก กล่องดนตรีถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะเป็นมาสคอตของเมืองโอตารุ เกาะฮอกไกโดนั่นเอง

นอกจากนี้ด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ยังมีจุดเช็คอินสำคัญของเมืองโอตารุตั้งอยู่คือ นาฬิกาไอน้ำ (Steam Clock) เป็นนาฬิกาไอน้ำโบราณสไตล์อังกฤษที่ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 2 เรือนบนโลก ซึ่งเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา มอบให้เป็นของที่ระลึก ซึ่งนาฬิกานี้เรือนนี้จะพ่นไอน้ำและมีเสียงดนตรีดังขึ้นทุก 15 นาที

เวลาทำการ : 09:00 – 18:00 น.
การเดินทาง : เดินจากสถานี Otaru ใช้เวลาประมาณ 25 นาที

     ฮอกไกโดถือเป็นอีกจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เป็นเมืองที่มีศิลปวัฒนธรรมที่ยาวนาน อีกทั้งยังมีจุดชมวิวธรรมชาติที่งดงาม แหล่งซื้อสินค้า และของฝากมากมาย


ที่มา :
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
Chill Chill Japan

ข่าวอื่นๆ

เช็กอิน 10 วัด ชมความงามยามค่ำ ไหว้พระเสริมสิริมงคลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

เที่ยว "กัลยาณิวัฒนา" อำเภอลำดับที่ 25 ของเชียงใหม่ 878 ของไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง