“แอปเปิล” เปิดให้ใช้ฟรีต่ออีกปี บริการ “ช่วยเหลือฉุกเฉินผ่านดาวเทียม”

Logo Thai PBS
“แอปเปิล” เปิดให้ใช้ฟรีต่ออีกปี บริการ “ช่วยเหลือฉุกเฉินผ่านดาวเทียม”
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
หลังจากเปิดตัวมาพร้อมกับไอโฟน 14 (iPhone 14) การรับส่งสัญญาณฉุกเฉินผ่านดาวเทียมกลายเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยชีวิตคนได้มหาศาล ล่าสุดแอปเปิลประกาศปล่อยให้ใช้ฟรีต่ออีกหนึ่งปี

แอปเปิลเปิดตัวไอโฟน 14 มาได้เป็นเวลาเกินหนึ่งปีแล้ว หนึ่งในคุณสมบัติที่เป็นที่พูดถึงกันก็ยังถูกส่งต่อมาจนถึงไอโฟน 15 รุ่นปัจจุบัน นั่นก็คือการแจ้งขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือพิมพ์ข้อความโต้ตอบฉุกเฉินในกรณีที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ด้วยการสื่อสารผ่านดาวเทียม ปัจจุบันแอปเปิลเปิดให้ใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ก่อนที่จะมีการประกาศรายชื่อประเทศที่รองรับเพิ่มเติมได้แก่ ออสเตรเลีย ออสเตรีย เบลเยียม ฝรั่งเศส เยอรมนี ไอร์แลนด์ อิตาลี ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ โปรตุเกส สเปน สวิตเซอร์แลนด์ และ สหราชอาณาจักร

ล่าสุดแอปเปิลได้ออกมาเปิดเผยผ่าน Apple News Room ว่า แอปเปิลจะปล่อยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวได้ฟรีอีกหนึ่งปี โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้งานไอโฟน 14 ที่ซื้อมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เนื่องจากแอปเปิลนั้นได้ระบุว่า ฟีเจอร์ส่งข้อความฉุกเฉินผ่านดาวเทียมจะปล่อยให้ใช้งานฟรีในสองปีแรก หลังจากที่ไอโฟนได้ถูกเปิดใช้งาน

นั่นหมายความว่าผู้ที่ซื้อไอโฟนในปี 2022 จะสามารถใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวได้จนถึงปี 2025 หรือสามปีหลังจากที่เครื่องถูกเปิดใช้งานนั่นเอง

แอปเปิลกล่าวเสริมว่าฟีเจอร์ดังกล่าวช่วยชีวิตคนจำนวนมาก ตั้งแต่อุบัติเหตุบนท้องถนน ไปจนถึงอุบัติเหตุของนักปีนเขา ซึ่งเกิดขึ้นในบริเวณที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์

อย่างไรก็ดี แอปเปิลเองยังไม่ได้ออกมาประกาศว่าราคาการใช้บริการหลังจากนั้นจะอยู่ที่เท่าไหร่ แต่หากคิดตามความเป็นจริงแล้ว หากผู้ใช้งานซื้อไอโฟนใหม่ทุกสองปี ก็แทบจะไม่ต้องจ่ายค่าบริการเลย และแอปเปิลเองก็ยังไม่เคยพูดถึงว่าจะเก็บค่าใช้บริการปีละเท่าไหร่

ทั้งนี้เทคโนโลยีดังกล่าวถือว่าเป็นการนำเอาเทคโนโลยีดาวเทียมที่ล้ำสมัยมาใช้อย่างกว้างขวาง เนื่องจากในอดีต อุปกรณ์ในลักษณะนี้จะมีขนาดใหญ่ แต่ปัจจุบันวิศวกรสามารถออกแบบเสารับส่งสัญญาณที่มีขนาดเล็กพอที่จะอยู่ในอุปกรณ์ขนาดเล็กได้ และแม้จะมีราคาที่สูง แต่ในอนาคตเป็นไปได้ว่าเราจะได้เห็นการนำเอาเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ในอุปกรณ์อีกหลากหลายชนิด

ที่มาภาพ: Apple
ที่มาข้อมูล: Apple

“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง