กรมศุลฯ เข้ม กวาดล้างยาเสพติดส่งเข้าไทยกว่า 30 ล้าน

อาชญากรรม
7 ธ.ค. 66
12:50
1,561
Logo Thai PBS
กรมศุลฯ เข้ม กวาดล้างยาเสพติดส่งเข้าไทยกว่า 30 ล้าน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
วันเดียว กรมศุลกากรยึดเฮโรอีน-โคเคน-ยาเค-ยาอี ลอบส่งออกและนำเข้า รวมมูลค่า 30 ล้านบาท พร้อมจับกุมผู้โดยสารชาวไต้หวัน ลอบขนนากเล็กเล็บสั้น-แพรรีด็อก

วันนี้ (7 ธ.ค.2566) นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากรเพิ่มมาตรการติดตามและเฝ้าระวังการลักลอบขนส่งยาเสพติดผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งการขนส่งภายในและภายนอกประเทศ

จากการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการลักลอบขนส่งยาเสพติดระหว่างประเทศ พบว่า ผู้กระทำความผิดยังขนส่งยาเสพติด ผ่านทางพัสดุไปรษณีย์ไปนอกราชอาณาจักร เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่

โดยเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2566 กองสืบสวนและปราบปราม ร่วมกับชุดปฏิบัติการ AITF วิเคราะห์ความเสี่ยงในการลักลอบส่งของต้องห้าม ต้องจำกัด ออกนอกราชอาณาจักร ณ ศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิ พบว่า มีการลักลอบนำยาเสพติดออกนอกราชอาณาจักร ผ่านพัสดุไปรษณีย์ด่วนพิเศษระหว่างประเทศ ปลายทางประเทศ AUSTRALIA ถึง 2 ชิปเม้นท์

ช่วงเวลา 10.30 น. พบพัสดุต้องสงสัย สำแดงชนิดสินค้าเป็น Photo จำนวน 1 หีบห่อ น้ำหนักรวม 8.310 กิโลกรัม

ตรวจสอบพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เฮโรอีน ลักษณะผงสีขาว ซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติกที่เคลือบทับด้วยเรซิน น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 3,000 กรัม มูลค่า 9 ล้านบาท

ต่อมาเวลา 11.30 น. พบพัสดุต้องสงสัย สำแดงสินค้าเป็น Photo จำนวน 1 หีบห่อ น้ำหนักรวม 8.440 กิโลกรัม ตรวจสอบพบเฮโรอีน ซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติกที่เคลือบทับด้วยเรซิน น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 2,993 กรัม มูลค่า 8.979 ล้านบาท

ซึ่งทั้ง 2 ชิปเม้นท์ มีการซุกซ่อนยาเสพติดในลักษณะเดียวกัน การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามมาตรา 242 มาตรา 244 ประกอบมาตรา 252 มาตรา 166 และมาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 และประมวลกฎหมายยาเสพติด

2 เดือน กรมศุลฯ จับยาเสพติดรวม 194 ล้านบาท

นอกจากนี้ กรมศุลกากร และชุดปฏิบัติการ AITF ร่วมกันตรวจสอบผู้โดยสารระหว่างประเทศ ที่มีความเสี่ยงในการลักลอบลำเลียงยาเสพติด เข้ามาในราชอาณาจักร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

จับกุมผู้โดยสารหญิง สัญชาติเคนยา เดินทางมาจากเมืองแอดดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย ปลายทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ผลการตรวจค้นพบยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าถือติดตัวขึ้นเครื่องบินและซุกซ่อนไว้ในร่างกายภายในช่องทวาร น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 1,240 กรัม มูลค่า 3.72 ล้านบาท

ในวันเดียวกัน จับกุมผู้โดยสารชาย สัญชาติอเมริกัน ซึ่งเดินทางมาจากกรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม ปลายทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผลการตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระของผู้กระทำความความผิด พบวัตถุออกฤทธิ์ ประเภท 2 เคตามีน น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 3,100 กรัม

ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาอี น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 1,000 กรัม และ MDA น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 3.1 กรัม และยาเสพติดให้โทษประเภท 4 (2C-B) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 3.1 กรัม มูลค่า 9.1 ล้านบาท

ของกลางทั้งหมดถูกเก็บไว้ในช่องลับที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษในกระเป๋าเดินทางของผู้โดยสาร การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามมาตรา 242 ประกอบมาตรา 252 มาตรา 166 และมาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และประมวลกฎหมายยาเสพติด

สำหรับสถิติการจับกุมยาเสพติดของกรมศุลกากร ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.-5 ธ.ค.2566 มีจำนวน 33 ราย มูลค่ารวมประมาณ 194 ล้านบาท

ลอบขนตัวนาก-แพรรีด็อก

นอกจากนี้ สำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมปศุสัตว์ และบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) จับกุมผู้โดยสารชายชาวไต้หวัน ซึ่งจะเดินทางไปยังกรุงไทเป พยายามลักลอบนำสัตว์มีชีวิตออกไปนอกราชอาณาจักร

ผลการตรวจค้นพบนากเล็กเล็บสั้น ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ห้ามเลี้ยง ล่า หรือค้า จำนวน 2 ตัว และแพรรีด็อก 1 ตัว ของกลางทั้งหมดแยกเก็บไว้ในถุงเท้าแล้วซุกซ่อนไว้กับตัวบริเวณต้นขา โดยสวมใส่กางเกง 3 ชั้น ใช้เทปกาวพันถุงเท้าบรรจุสัตว์มีชีวิตไว้กับกางเกงชั้นในสุด แล้วสวมกางเกงบ๊อกเซอร์และกางเกงยีนส์ทับไว้

การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานพยายามส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ตามมาตรา 242 ประกอบมาตรา 166 มาตรา 167 และมาตรา 252 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 และความผิดฐานพยายามส่งออกสัตว์ป่าควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 และยังเป็นความผิดตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558

อ่านข่าวอื่นๆ

เตือนเผาป่าเปิดพท.เลี้ยงสัตว์ในอุทยานฯจำคุก 20 ปี ปรับ 2 ล้าน

ส่ง "สมศักดิ์" แจงปมฝากตั้ง "ผกก." ไล่บี้ "เศรษฐา" ควรมาเอง

"แพทองธาร" ย้ำตระกูล "ชินวัตร" ไม่ใช่เจ้าของ "เพื่อไทย" แต่เป็นของทุกคน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง