"เศรษฐา" ใช้ทั้งไม้แข็ง -ไม้อ่อน แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ

การเมือง
8 ธ.ค. 66
12:39
1,065
Logo Thai PBS
"เศรษฐา" ใช้ทั้งไม้แข็ง -ไม้อ่อน แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
นายกฯ Kick off สั่ง มหาดไทย ก.คลัง สตช. บูรณาการแก้หนี้นอกระบบ ใช้ทั้งไม้แข็งและไม้อ่อน ทำให้สำเร็จอย่ายอมแพ้ กำหนด KPI ตั้งเป้าให้ชัดใช้ทั้งศาสตร์ และศิลป์ ย้ำยกเป็นวาระแห่งชาติปลดการค้าทาสยุคใหม่ให้หมดจากสังคมไทย

วันนี้ (8 ธ.ค.2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุม และมอบนโยบายเรื่องวาระแห่งชาติการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ โดยมีฝ่ายปกครอง ระดับผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัดนายอำเภอ ปลัดจังหวัด ตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการคลัง สถาบันการเงิน ประมาณ 3,000 คน เข้าร่วม

นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยแก้ปัญหาอย่างจริงจัง วันนี้ไม่ได้เชิญทุกท่านมากระชับอำนาจแต่มาขอแรงให้ทำประโยชน์ให้กับประชาชน ช่วยกันกำจัดการค้าทาสยุคใหม่ให้หมดจากสังคมไทย ในฐานะนายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องพึ่งพาความสามารถของทุกคนช่วยพี่ประชาชนของเราเป็นอิสระหลุดพ้น พันธนาการ จากหนี้นอกระบบนี้

รัฐบาลกำหนดแก้ปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจกัน แก้ไขปัญหาหนี้ให้กับคนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเรียกเก็บดอกเบี้ยที่สูงเกินความเป็นธรรม

การทวงหนี้มีลักษณะคุกคามข่มขู่ประทุษร้ายส่งผลต่อการใช้ชีวิตและความสงบเรียบร้อยของสังคม จึงได้แถลงนโยบายที่ทำเนียบรัฐบาลไปแล้วและคณะรัฐมนตรีมีคำสั่ง ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพร่วมสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการขับเคลื่อนและประสานงานร่วมกัน เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหานี้ไปในทิศทางเดียวกัน

อ่านข่าว : "อนุทิน" ยันแก้หนี้นอกระบบ ไม่ใช่ยกหนี้ เน้นไกล่เกลี่ย-เป็นธรรม 2 ฝ่าย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวาระสำคัญของชาติ ไม่ใช่การแก้ปัญหาเพื่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลของตนหรือของหน่วยงาน แต่เป็นการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนสามารถพลิกฟื้นกลับมาใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องหวาดระแวง และคืนรอยยิ้มสู่ใบหน้าของประชาชนทุกคน

นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า วันนี้ทำต่างจากที่เคยทำในอดีตเพราะบูรณาการช่องทางหลากหลายเพื่อให้ประชาชนเลือกเข้าไปในช่องทางที่สะดวก และเชื่อว่ามีความปลอดภัย

สำหรับช่องทางแรก คือ กระทรวงมหาดไทย เปิดให้ลงทะเบียนลูกหนี้นอกระบบผ่านศูนย์ดำรงธรรม ทั้งในระดับจังหวัดและระดับอำเภอรวมถึงเบอร์ติดต่อ 1567 ตั้งแต่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา วันนี้มีผู้มาลงทะเบียนแล้วกว่า 70,000 คนรวมหนี้นอกระบบเกือบ 4,000 ล้านบาท

ขณะที่ทางตำรวจ 1599 ประชาชนเข้าถึงโรงพัก สำนักนายกรัฐมนตรีมีศูนย์สายด่วน 1111 ที่ประชาชนทั่วประเทศสามารถร้องเรียนความเดือดร้อนปัญหาหนี้นอกระบบได้

เมื่อเรื่องร้องเรียนแล้วข้อมูลจะถูกประสานเชื่อมโยงฐานข้อมูลทุกช่องทางเข้าด้วยกันเพื่อไม่ให้เกิดความซับซ้อนได้รับการดูแลไม่ตกหล่นและเป็นข้อมูลที่ถูกต้องไม่ผิดเพี้ยนคนที่ลงทะเบียน สามารถติดตามความคืบหน้าได้ตลอดเวลา

หลังเรื่องร้องเรียนเข้าในระบบแล้วส่วนกลางจะวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อจะประเภทเรื่องร้องเรียน ก่อนส่งไปให้แต่ละพื้นที่ดำเนินการต่อ ซึ่งหากพบว่ากรณีองค์ประกอบความผิดครบทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่มีอำนาจสามารถดำเนินการจับกุมและดำเนินการได้ทันที

เริ่มจัดหาทางออกได้สันติวิธีจัดทำสัญญาประนีประนอมตามฟอร์มที่กระทรวงมหาดไทยจัดเตรียมไว้ และกำหนดอัตราดอกเบี้ยระยะเวลา และงวดผ่อนชำระหนี้ที่เหมาะสมกับศักยภาพของการชำระหนี้ของลูกหนี้แต่ละรายซึ่งตนเชื่อว่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับลูกหนี้และเจ้าหนี้ทุกคน

ช่องทางติดตามผลการไกล่เกลี่ย 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจะติดตามผลโดยสำนักนายกรัฐมนตรี 1111 จะทำตามติดตามผล เพื่อดูว่า เจ้าหนี้และลูกหนี้จะสามารถดำเนินการตามข้อตกลงที่ทำไว้ได้หรือไม่ หากยังพบปัญหาไม่สามารถดำเนินการทำสัญญาใหม่ได้จะเชิญลูกหนี้และเจ้าหนี้มาแก้ไขข้อตกลงกันอีกครั้ง

และหากพบว่ามีการข่มขู่เจ้าหนี้ไม่ปฏิบัติตามสัญญาจนเป็นเหตุให้ลูกหนี้เดือดร้อนพนักงานฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเร่งรัดใช้กฎหมายต่อไป ประชาชนสามารถติดตามผลการดำเนินการไกล่เกลี่ยได้ 5 ช่องทางตั้งแต่ศูนย์ดำรงธรรม 1567 เว็บไซต์เบอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 เบอร์สำนักนายกรัฐมนตรี 1111 กระบวนการ

ทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นการตัดสิทธิ์ลูกหนี้หรือเจ้าหนี้ในการใช้สิทธิ์อื่น ๆ ตามกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมแห่งรัฐ แต่ขอย้ำว่ากระบวนการลูกหนี้เจ้าหนี้สมัครใจหาทางออกร่วมกันโดยมีรัฐยินดีช่วยเหลือไกล่เกลี่ยให้คำแนะนำและช่วยเหลือจากสถาบันการเงินของรัฐ เข้าใจดีว่าในหลายครั้งลูกหนี้ตั้งใจจะฟื้นฟูศักยภาพและต้องการช่องทางแหล่งเงินอื่น ๆ กระทรวงการคลังและสถาบันการเงินของรัฐจะให้ความช่วยเหลือตามโครงการที่ได้จัดเตรียมไว้

ขั้นตอนดังกล่าวมีความสำคัญในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ประชาชนที่ตกเป็นทาสของหนี้นอกระบบ ขอให้ทุกคนศึกษากระบวนการปฏิบัติงานให้เป็นมาตรฐาน ตั้งแต่เรื่องรับเรื่องช่วยเหลือไกล่เกลี่ยการบังคับทางกฎหมาย และอื่น ๆ

กำหนด KPI ตั้งเป้าให้ชัดใช้ทั้งศาสตร์ และศิลป์

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้เจ้าหน้าที่มหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงการคลัง ร่วมกันศึกษาในรายละเอียดของกันและกัน ทำให้เข้าใจถึงหน้าที่ความรับผิดชอบ ของทุกภาคส่วนเพื่อทำงานได้อย่างไม่ซ้ำซ้อน บูรณาการได้จากทุกฝ่าย 

สำหรับขั้นตอนที่ท้าทาย คือ การไกล่เกลี่ยประนีประนอมข้อพิพาท ซึ่งเป็นทั้งศาสตร์ในการคำนวณการคิดดอกเบี้ยหนี้สินและเป็นทั้งศิลปะที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาระหว่างลูกหนี้และเจ้าหนี้ ปัญหาที่พบอาจคือทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยจึงต้องออกไปพบพูดคุยเชื้อเชิญเป็นมาตรการไม้อ่อนให้สมัครใจเข้าสู่กระบวนการ และในหลายครั้งอาจต้องใช้อำนาจทางกฎหมายในการบังคับซึ่งเป็นไม้แข็งในการที่จะให้เจ้าหนี้และลูกหนี้เข้าสู่ระบบ 

พร้อมระบุว่า ขอให้ไม่ยอมแพ้ไม่ท้อถอยไม่หยุดช่วยเหลือประชาชน เน้นย้ำต้องจัดการคนที่ทำผิดกฎหมาย ไม่ต้องเกรงกลัวผู้มีอิทธิพล โดยไม่ละเว้น

นายกรัฐมนตรี ยังประกาศเป้าหมายหนี้นอกระบบต้องจัดการโดยเด็ดขาดต้องกำหนดตัวชี้วัด หรือ KPI ที่เหมาะสมกรอบเวลาไทม์ไลน์ที่ชัดเจน โดยเป้าต้องไม่ง่ายเกินไปจนไม่สามารถวัดผลอะไรได้ และต้องไม่ยากเกินไปจนเป็นเหตุให้ผู้ปฏิบัติงานรู้สึกไม่อยากทำ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องกำหนดระยะเวลาในการจับกุมทำสำนวนสอบสวนกระทรวงมหาดไทยฝ่ายปกครองต้องกำหนดสัดส่วนเรื่องที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย เรื่องเจ้าหนี้ลูกหนี้ทำสัญญาร่วมกันประนีประนอมให้สำเร็จ กำหนดระยะเวลาในการดำเนินงานแต่ละขั้นตอนทั้งรับเรื่องร้องเรียนถึงการเข้าสู่ระบบไกล่เกลี่ย และการทำสัญญาประนีประนอมไม่ให้นานเกินไป ซึ่งเป็นกรอบกว้างๆที่ผู้บริหารจะต้องย่อยเป็น เป้าเล็ก ๆ ซึ่งถ้าทำได้เชื่อว่าปัญหาหนี้นอกจะลดน้อยลงไป

อ่านข่าวอื่น ๆ

21 สส.ดัน "เฉลิมชัย" นั่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9

นายกฯ หวังกดค่าไฟงวดใหม่ 4.10 บาทต่อหน่วย

ส่ง "สมศักดิ์" แจงปมฝากตั้ง "ผกก." ไล่บี้ "เศรษฐา" ควรมาเอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง