"หมอล็อต" เตือนเที่ยวเขาใหญ่ อย่าขับจี้ "ตูดช้าง" อันตรายมาก

สิ่งแวดล้อม
17 ธ.ค. 66
10:05
419
Logo Thai PBS
"หมอล็อต" เตือนเที่ยวเขาใหญ่ อย่าขับจี้ "ตูดช้าง" อันตรายมาก
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"หมอล็อต" เตือนขึ้นเขาใหญ่อย่าขับรถจี้ "ตูดช้าง" ชี้เว้นระยะห่าง 50 เมตรไม่พอ คนข้างหน้าตกที่นั่งลำบาก เตือนรถด้านหลังช้างต้องหยุดรถ รอสัญญาณจากเจ้าหน้าที่ เพราะช้างจะรู้สึกถูกกดดัน

กรณีเกิดเหตุระทึก "ช้างป่าเขาใหญ่" เดินเจ้าหารถเก๋ง แล้วดันจนรถโยก กระจกแตก ก่อนใช้งวงควานหาอาหาร โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนอีกเคสเป็นช้างที่ขี่วิ่งไล่รถจักรยาน

วันนี้ (17 ธ.ค.2566) นายสัตวแพทย์ภัทรพล ล็อต มณีอ่อน หรือหมอล็อต โพสต์เฟชบุ๊ก ภัทรพล ล็อต มณีอ่อน เตือนนักท่องที่ยวที่ขึ้นปเจอโขลงช้าง โดยระบุว่า ขับรถชิดตูดระวังชนท้าย ขับรถจี้ตูดช้างลำบากคันหน้า

หมอล็อต บอกว่า เป็นเหตุการณ์ที่นำมาเป็นแนวปฎิบัติได้ดี มองเผินๆ จะเห็นว่า ช้างป่าวิ่งไล่จักรยาน แต่พอดูไปสักพัก จะเห็นรถยนต์ขับตามหลังช้างป่า เมื่อขับรถแล้วเจอช้างป่า

ถ้าเราอยู่ด้านหลังช้างให้เว้นระยะห่างให้มากที่สุด ไม่ใช่แค่ 50 เมตร ที่สำคัญ ควรหยุดรถทันที รอดูสัญญาณจากเจ้าหน้าที่เพราะถ้าเราขับรถตามช้างจะเป็นการเร่ง และกดดันให้ช้างต้องเดินไปข้างหน้าเร็วมากขึ้น

คนที่ลำบาก จะเป็นรถที่อยู่หน้าช้างป่า ดังเช่น กรณีของนักปั่นจักรยานท่านนี้ ฟังจากเสียงจาน และโซ่ชัดเจนมาก ถ้าช้างจะไล่จักรยาน จะมีเพียงตัวสองตัวเท่านั้นที่ออกมาวิ่งไล่ ตัวอื่นๆ จะอยู่กับบฝูงคอยจัดขบวนระวังภัยให้กัน

แต่นี้ ช้างป่าเดินเกาะเป็นกลุ่ม ทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ รอกัน ตัวเล็กก็จะเหนื่อยหน่อย กว่าช้างป่า จะเจอด่านข้างทางที่หลบรถได้ รถคันข้างหน้า เจ้าหน้าที่ก็เหนื่อยมาก สนุกเรา ลำบากเพื่อน ไม่เช่นนั้นช้างก็จะถูกกล่าวหาว่าดุ ไล่รถ นักปั่นก็จะถูกเข้าใจผิดได้

จำไว้เป็นความรู้และแนวปฎิบัติ อย่าขับรถจี้ตูดช้าง มาร่วมกันรณรงค์และขอให้เที่ยวอุทยานอย่างมีความสุขและปลอดภัย

โดยคลิปดังกล่าว น่าจะถ่ายจาก Go pro พบว่ามีช้างป่าจำนวน 7 ตัว วิ่งจ้ำอ้าว ถนนเขาใหญ่ ส่วนด้านหลังมีรถอย่างน้อย 2-3 คันขับตามหลังช้างอย่างกระชั้นชิด ซึ่งคาดว่าด้านหน้าของช้างน่าจะเป็นคนขี่จักรยาน เนื่องจากมีเสียงโซ่และจานล้อสีกันเสียงดัง แสดงว่าเร่งปั่นสุดชีวิต

อ่านข่าว 10 ข้อปฏิบัติเมื่อเจอช้างป่าบนถนนเขาใหญ่   

ขณะที่กรมอุทยาน ออกคำเตือน 10 ข้อถ้าต้องเผชิญช้างป่า เช่น ให้หยุดรถให้ห่างจากช้างอย่างน้อย 30-50 เมตร  อย่าใช้แตรรถ หรือส่งเสียงดังรบกวนช้างหรือไล่ช้าง  งดการใช้แฟลชถ่ายรูป เพราะอาจทำให้ช้างตกใจ ตรงเข้ามาทร้ายได้ และทำให้ช้างเกิดการสนใจเดินเข้ามาหา เพราะช้างตกใจแล้วตกใจเลย หายยาก ไม่ควรจอดรถดูช้าง 

นอกจากนี้ ให้ติดเครื่องรถยนต์ไว้เสมอ เพื่อให้สามารถเคลื่อนรถหนีได้ทันท่วงที และเสียงเครื่องยนต์รถที่ติดเครื่องดังทุ้มๆ จะไม่ทำให้ช้างนั้นตกใจ ไม่เครียด และคุ้นเคย เพราะได้ยินเสียงและรู้ว่านี่คือรถยนต์

 


 

โพสต์

 
ตัวกรอง
 
 
 
LotterAlternatives:”ขับรถชิดตูดระวังชนท้าย ขับรถจี้ตูดช้างลำบากคันหน้า“
เป็นเหตุการณ์ที่นำมาเป็นแนวปฎิบัติได้ดี มองเผินๆจะเห็นว่า ช้างป่าวิ่งไล่จักรยาน แต่พอดูไปสักพัก จะเห็นรถยนต์ขับตามหลังช้างป่า
เมื่อขับรถแล้วเจอช้างป่า ถ้าเราอยู่ด้านหลังช้างให้เว้นระยะห่างให้มากที่สุด ไม่ใช่แค่ 50 เมตร และที่สำคัญ ควรหยุดรถทันที รอดูสัญญาณจากเจ้าหน้าที่เพราะถ้าเราขับรถตามช้าง จะเป็นการเร่ง และกดดันให้ช้างต้องเดินไปข้างหน้าเร็วมากขึ้น คนที่ลำบากก็จะเป็นรถที่อยู่หน้าช้างป่า ดังเช่นกรณีของนักปั่นจักรยานท่านนี้ ฟังจากเสียงจานและโซ่ชัดเจนมาก
ถ้าช้างจะไล่จักรยาน จะมีเพียงตัวสองตัวเท่านั้นที่ออกมาวิ่งไล่ ตัวอื่นๆจะอยู่กับบฝูงคอยจัดขบวนระวังภัยให้กัน แต่นี้ ช้างป่าเดินเกาะเป็นกลุ่ม ทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ รอกัน ตัวเล็กก็จะเหนื่อยหน่อย กว่าช้างป่าจะเจอด่านข้างทางที่หลบรถได้ รถคันข้างหน้า เจ้าหน้าที่ก็เหนื่อยมาก สนุกเรา ลำบากเพื่อน มิฉนั้น ช้างก็จะถูกกล่าวหาว่าดุ ไล่รถ นักปั่นก็จะถูกเข้าใจผิดได้
จำไว้เป็นความรู้และแนวปฎิบัติ “อย่าขับรถจี้ตูดช้าง” มาร่วมกันรณรงค์และขอให้เที่ยวอุทยานอย่างมีความสุขและปลอดภัย
ปล.ขอบพระคุณเจ้าของคลิบที่น่าจะถ่ายจาก Go pro เป็นประโยชน์มากๆครับ
 
 
 
 
 
 
 
0:03 / 0:14
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ความรู้สึกทั้งหมด
2.5 พัน2.5 พัน
 
11 ความคิดเห็น
แชร์ 217 ครั้ง
 
ถูกใจ
 
 
 
แชร์
 
 
 
ดูความคิดเห็นเพิ่มเติม
 
นก ศิริจรรยา
วิ่งแข่งกัน <img class="xz74otr" src="https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/t1a/1.5/16/1f62e.png" alt="
ข่าวที่เกี่ยวข้อง