ย้อนปมเหตุวิวาทต่างสถาบัน ปัญหา "รอแก้ไข"

อาชญากรรม
21 ธ.ค. 66
19:48
444
Logo Thai PBS
ย้อนปมเหตุวิวาทต่างสถาบัน ปัญหา "รอแก้ไข"
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

วันนี้ (21 ธ.ค.2566) ตำรวจนำตัวนายอนาวิน หรืออั้ม อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาที่เป็นคนลงมือยิงทั้งครูเจี๊ยบ และนายธนสรณ์ หรือที่ถูกเรียกว่า "น้องหยอด" นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ไปชี้จุดถึงแผนที่เกิดเหตุตั้งแต่จุดยิงจุดอำพรางรถ ก่อนหลบหนี และบ้านซึ่งเป็นสถานที่รวมตัว โดยคำให้การของนายอนาวิน อ้างถึงแรงจูงใจมาจากการตอบโต้สถาบันคู่ขัดแย้ง

เมื่อไทยพีบีเอส ย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ตามคำกล่าวอ้าง ทำให้พบว่าปัญหาวิวาทระหว่างคู่ขัดแย้งต่างสถาบันการศึกษา อาจเป็นปัญหาร้าวลึกจนบ่มเพาะสิ่งที่ตำรวจเรียกว่า "กลุ่มองค์กรอาชญากรรม" ทั้งที่คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ยังอยู่ในวัยนักศึกษา

นายอนาวิน ตอบคำถามผู้สื่อข่าวสั้น ๆ อ้างถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุว่า ไม่มีใครสั่ง แต่ก่อเหตุเพราะต้องการตอบโต้ให้นายศตวรรษ เพื่อนนักศึกษาสถาบันเดียวกันที่ถูกยิงเสียชีวิตย่านจรัญสนิทวงศ์ ในคืนวันที่ 2 เม.ย. แต่ที่น่าสนใจในคำตอบนั้นคือ เขาไม่สนใจว่าใครเป็นเป้าหมาย แต่ต้องการตอบโต้นักศึกษาในสถาบันคู่ขัดแย้ง

เมื่อย้อนดูภาพนาทีบุกจับกลุ่มผู้ต้องหาในคดีของนายศตวรรษ เห็นได้ว่ากลุ่มผู้ต้องหานั้น เช่าบ้านพักขนาดใหญ่เพื่อรวมกลุ่มพักอาศัยอยู่ด้วยจำนวนมาก

ตำรวจใช้เวลา 1 สัปดาห์ จนพบแหล่งพักอาศัยในพื้นที่คูคต จ.ปทุมธานี และจับผู้ต้องหาพร้อมเครือข่ายได้ทั้งหมด 14 คน มีลักษณะอาศัยรวมตัวกันใน้บานเช่า

ตรวจค้นในบ้านพัก พบปืน 3 กระบอก กระสุนปืนมากกว่า 80 นัด เมื่อตำรวจตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ต้องหา 2 คน คดีก่อเหตุยิงนายศตวรรษ เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้ ในพื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เมื่อปี 2565

ที่น่าสังเกต คือทั้ง 2 ฝ่าย ใน 2 คดี มีความเป็นอยู่ที่คล้ายคลึงกัน แม้ว่านายอนาวิน จะยืนยันว่าการอาศัยอยู่รวมกันไม่ใช่การมั่วสุม เพื่อทำกิจกรรมปลูกฝังค่านิยมสร้างความรุนแรง

แต่ข้อมูลการสืบสวนของตำรวจที่พบจากข้อความในกลุ่มไลน์ ภาพกิจกรรมการรวมตัวคล้ายเรียกรายงานตัว รวมถึงคำรับสารภาพของนายอนาวิน ที่ยอมรับว่า วางแผนเพื่อก่อเหตุ อำพรางตัว ตลอดถึงการหลบหนี ทำให้ตำรวจยืนยันว่า เป็นกลุ่มองค์กรอาชญากรรม

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ระบุถึงสถาบันการศึกษาทั้ง 2 แห่ง ว่า ควรให้ความร่วมมือแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ เพราะผลการจับกุมผู้ต้องหาชัดเจนแล้วว่า หลายคนยังมีสถานภาพเป็นนักศึกษา

"แผนประทุษกรรมของคนร้ายก่อเหตุในลักษณะเป็นองค์กร มีการช่วยเหลือทั้งคดีความ การจัดหารถ อุปกรณ์ อาวุธปืน เป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดเล็ก ไม่ได้มองว่านี่คือนักศึกษาแล้ว ซึ่งจะเป็นโมเดลป้องกันเหตุที่จะเกิดกับสถาบันอื่น"

หลังเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น และมีผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องถูกลูกหลง เช่น ครูเจี๊ยบ วิธีการของตำรวจ คือ เสนอแนวทาง "มีนบุรีโมเดล" เข้ามาจัดการ ซึ่งแนวทางนี้จะต้องดึงทั้งสถาบัน นักศึกษา ตำรวจ และชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

นาทีรวบ “วิน” มือยิงครูเจี๊ยบ-นศ.อุเทนฯ คาเต็นท์บนดอยปุย 

14 ผู้ต้องหาเอี่ยวคดียิงครู-นศ.ยังปฏิเสธ - ตร.เร่งจับมือยิง 

จับเพิ่มอีก 14 คน ผู้ต้องหาเอี่ยวคดียิงครูเจี๊ยบ-นศ.เสียชีวิต 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง