เช็กหน่วยบริการ 4 จว. 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตร ปชช.ใบเดียว สปสช.ยันเบิกจ่ายใน 3 วัน

สังคม
8 ม.ค. 67
16:17
9,978
Logo Thai PBS
เช็กหน่วยบริการ 4 จว. 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตร ปชช.ใบเดียว สปสช.ยันเบิกจ่ายใน 3 วัน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สปสช. ยืนยัน 4 จังหวัดนำร่อง นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เบิกจ่ายได้ภายใน 3 วัน การันตีมีระบบตรวจสอบ ป้องกันพฤติกรรมชอปปิงยา พร้อมเช็กรายชื่อหน่วยบริการเอกชน

วันนี้ (8 ม.ค.2567) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวว่า ขอให้ความมั่นใจแก่หน่วยบริการสาธารณสุขวิถีใหม่ ที่เป็นนวัตกรรมช่วยเพิ่มความสะดวก ลดความแออัดในโรงพยาบาล ซึ่งประกอบด้วย ร้านยา คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น คลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น คลินิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่น และรถทันตกรรมเอกชนเคลื่อนที่ ที่ขณะนี้สามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียวเข้ารับบริการได้แล้วใน 4 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ แพร่ ร้อยเอ็ด เพชรบุรี และนราธิวาส

นพ.จเด็จ กล่าวว่า สำหรับคลินิกนวัตกรรมฯ ที่ได้ลงพื้นที่มาเยี่ยมชมในวันนี้ พบว่ามีความพร้อมสามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียวเสียบเข้าระบบของ สปสช. เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าประชาชนมารับบริการ โดยเมื่อรับบริการเสร็จแล้วข้อมูลก็จะวิ่งเข้าไปสู่ระบบกลางของ สปสช. ซึ่งจะเป็นประโยชน์ใน 2 ส่วน คือ

1. ไม่มีประชาชนคนใดจะเข้าไปรับบริการเกินความจำเป็น เพราะมีการดูตลอดเวลา

2. เมื่อพิสูจน์ว่าประชาชนเข้ามารับบริการตามที่ตกลงกันไว้ ทาง สปสช. ก็จะจ่ายเงิน ซึ่งหน่วยบริการสามารถรับเงินค่าบริการได้ภายในไม่เกิน 3 วัน

"กระบวนการเบิกจ่ายจะสามารถดำเนินการได้เลยทันทีตั้งแต่เปิดโครงการ คือเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 7 ม.ค. 2567 ซึ่งระบบการเสียบบัตรประชาชน ทันทีที่ท่านเสียบบัตร ข้อมูลจะวิ่งเข้าไปที่ส่วนกลาง แล้วจะมีการส่งข้อมูลกลับมาให้ สสจ. สสอ. และ สปสช.เขต เพื่อพิจารณาป้องกันการช็อปปิ้งยา หรือ Shopping Around ตามที่บางส่วนอาจมีข้อกังวลว่านโยบายบัตรประชาชนรักษาทุกที่ จะทำให้ประชาชนเข้าใช้บริการไปทั่ว ซึ่งระบบที่ออกแบบไว้นี้เป็นไปเพื่อป้องกันและคลี่คลายข้อกังวลเหล่านั้น" 

นพ.จเด็จ กล่าวต่อว่า จากการลงพื้นที่เยี่ยมชมขั้นตอนการเสียบบัตรประชาชนเข้ารับบริการวันนี้ พบว่าผ่านไปได้โดยง่ายและใช้เวลาไม่นาน ส่วนการจ่ายเงินให้หน่วยบริการภายไม่เกิน 3 วัน ก็ครอบคลุมไปยังโรงพยาบาลรัฐด้วย แต่ทางโรงพยาบาลก็จะต้องมีการเชื่อมข้อมูลกับ สปสช. ซึ่งย้ำว่าเป็นการเชื่อมข้อมูล ไม่ใช่การส่งข้อมูล เพราะขั้นตอนในอดีตคือการที่โรงพยาบาลต้องไปรวบรวมข้อมูลมาก่อนแล้วจึงส่งมาเบิกกับ สปสช. ซึ่งกระบวนการจ่ายจะเริ่มหลังจากที่โรงพยาบาลส่งข้อมูลมา

สำหรับภาพรวมของการให้บริการวันแรก มีหน่วยบริการใน 4 จังหวัด เข้าร่วมให้บริการทั้งหมด 1,130 แห่ง และมีประชาชนเข้ารับบริการแล้วจำนวน 1,751 คน แยกเป็นจังหวัดแพร่ 1,545 คน เพชรบุรี 1,108 คน ร้อยเอ็ด 1,888 คน และนราธิวาส 1,091 คน รวมเป็น 6,292 คน

นพ.จเด็จ ยังกล่าวถึงการออกประกาศฯ สำหรับหน่วยบริการสาธารณสุขวิถีใหม่ฯ อีก 3 รายการ ซึ่งขณะนี้รายละเอียดของประกาศฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบภาษา ถ้อยคำ ก่อนที่จะมีการประกาศลงราชกิจจานุเบกษาต่อไป ซึ่งในตัวประกาศฯ จะมีบทเฉพาะกาลย้อนหลังครอบคลุมการให้บริการตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. เป็นต้นไป ในพื้นที่ 4 จังหวัดนำร่อง ดังนั้นหน่วยบริการสาธารณสุขวิถีใหม่ฯ อีก 3 รายการ จึงสามารถให้บริการไปก่อน แล้วเบิกย้อนหลังกับ สปสช. ได้

นอกจากนี้ นพ.จเด็จ ยังกล่าวถึงความพร้อมภายหลัง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ประกาศเตรียมขยายนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ เพิ่มเติมอีก 8 จังหวัดในเดือน มี.ค. 2567 ว่าทาง สปสช. จะเร่งดำเนินการในส่วนต่างๆ ได้แก่

1. ชักชวนหน่วยบริการสาธารณสุขวิถีใหม่ฯ 8 รายการในจังหวัดนั้นๆ เข้ามาเพิ่มให้มากที่สุด ซึ่งจะช่วยลดความแออัดของโรงพยาบาล
2. จัดระบบการเบิกจ่ายให้เร็วที่สุด
3. จะมีกลไกที่สนับสนุนนโยบาย คือ สายด่วน สปสช. 1330 ที่จะคอยให้คำปรึกษาและช่วยเหลือประชาชนเพื่อให้เข้าถึงบริการ

ทั้งนี้ สปสช. มีความพร้อมในการขยายนโยบายอีก 8 จังหวัดอย่างแน่นอน ส่วน 4 จังหวัดนำร่องที่ดำเนินการแล้ว สปสช. จะประเมินผลดำเนินการอย่างใกล้ชิด เริ่มตั้งแต่วันแรกที่ให้บริการ ผ่านระบบแดชบอร์ดที่จะแสดงให้เห็นจำนวนผู้เข้ารับบริการ ปริมาณงานที่เกิดขึ้น ตลอดจนอุปสรรคที่พบในระบบ เช่น ระบบอินเตอร์เนทขัดข้องหรือไม่ เป็นต้น ซึ่งเชื่อว่าพี่น้องประชาชนจะได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และหน่วยบริการก็จะได้รับเงินเร็วขึ้น

นอกจากนี้ในปี 2567 สปสช. ยังเตรียมขยายร้านยาบริการดูแลเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 กลุ่มอาการ โดยจะเพิ่มจำนวนร้านยาที่เข้าร่วมโครงการ จากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 2,000 แห่ง ให้เป็น 5,000 แห่งภายในปี 2567 จากร้านยาที่มีทั้งหมดทั่วประเทศราว 1.5 หมื่นแห่ง ขณะเดียวกันหน่วยบริการทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น คลินิกทันตแพทย์ 5,000 แห่ง คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น 5,000 แห่ง ฯลฯ ก็จะต้องเอาเข้ามาในระบบให้ได้ทั้งหมด ซึ่งหากทำได้เชื่อว่าพี่น้องประชาชนจะไม่เข้าไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลเพียงอย่างเดียว

ลงทะเบียนใช้สิทธิ 30 บาท รักษาทุกที่เพชรบุรีคึกคัก

บรรยากาศ Kick off นโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว จ.เพชรบุรี ซึ่ง เป็น 1 ใน 4 จังหวัด นำร่อง วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดรับบริการ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีประชาชนให้ความสนใจเดินทางมาลงทะเบียนยืนยันตัวตน

โดยมีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลคอยให้บริการและให้คำแนะนำทุกขั้นตอน ตั้งแต่ขั้นตอนแรกด้วยการโหลดแอปลิเคชันหมอพร้อม และเข้าไปกดสมัครยืนยันตัวตนเพื่อลงทะเบียนก่อนนำไปใช้บริการที่โรงพยาบาลทั้งภาครัฐ และเอกชน

นายแพทย์พิเชษฐ พัวพันกิจเจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี เปิดเผยว่า นโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่สิทธิตามหลักประกันสุขภาพแห่งชาติถ้วนหน้า เป็นสิทธิที่คนไทยกว่า 47 ล้านคน ใช้เพื่อการรักษาพยาบาล ที่ผ่านมายังพบความไม่สะดวกสบายจากการใช้บริการในหลายประเด็น

เช่น หากจะใช้สิทธิข้ามเขต จะต้องขอใบส่งตัว ซึ่งผู้ป่วยจะต้องเดินทางไปยังโรงพยาบาลประจำอำเภอ จับบัตรคิว รอคิว และรอออกใบส่งตัวกว่าครึ่งวัน หรือการใช้สิทธิบัตรทองสามารถใช้สิทธิได้เฉพาะในสถานพยาบาลของรัฐเท่านั้น

ทั้งนี้จะเริ่มนำร่องใน 4 จังหวัด คือ แพร่ ร้อยเอ็ด เพชรบุรี และ นราธิวาส

รายชื่อหน่วยบริการเอกชน บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่

จ.แพร่ เช็กหน่วยบริการได้ที่นี่ https://www.nhso.go.th/page/Innovative-services-Phrae-Province

จ.เพชรบุรี เช็กหน่วยบริการได้ที่นี่ https://www.nhso.go.th/page/Innovative-services-Phetchaburi-Province

จ.ร้อยเอ็ด เช็กหน่วยบริการได้ที่นี่ https://www.nhso.go.th/page/Innovative-services-RoiEt-Province

จ.นราธิวาส เช็กหน่วยบริการได้ที่นี่ https://www.nhso.go.th/page/Innovative-services-Narathiwat-Province

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

สปสช.เตรียมประเมิน 30 บาท รักษาทุกที่ รายสัปดาห์เพื่ออุดช่องโหว่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง