“พิธา” กลับเข้าสภาฯ ในรอบครึ่งปี บอกคิดถึงไออุ่นที่คุ้นเคย

การเมือง
25 ม.ค. 67
12:39
3,966
Logo Thai PBS
“พิธา” กลับเข้าสภาฯ ในรอบครึ่งปี บอกคิดถึงไออุ่นที่คุ้นเคย
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
“พิธา” สีหน้าชื่นมื่น สวมชุดเดิมเข้าสภาในรอบครึ่งปี บอกคิดถึงไออุ่นที่คุ้นเคย เสียดายไม่ได้โหวตนายกรัฐมนตรีรอบ 2 ชี้เข้าสภาครั้งนี้ไม่ออกแล้ว ครั้งหน้าจะไปทำเนียบอย่างเดียว

วันนี้ (25 ม.ค.2567) เวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางเข้าสภาเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ สส.เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2566 กรณีถือหุ้นไอทีวี ก่อนจะมีคำวินิจฉัยไม่พ้นสภาพ สส.เมื่อวานนี้ (24 ม.ค.) ซึ่งนายพิธาใส่เนคไทเส้นเดิมที่ใส่เมื่อหยุดปฏิบัติหน้าที่เข้ามาด้วยสีหน้าชื่นมื่น โบกมือทักทายสื่อมวลชน โดยทันทีที่เดินทางมาถึงได้มีกลุ่มแฟนคลับ สส.พรรคก้าวไกล ประมาณ 10 คน มารอด้านหน้าทางเข้าอาคารรัฐสภา เพื่อให้กำลังใจ ก่อนที่นายพิธาจะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

นายพิธา กล่าวถึงความรู้สึกของก้าวแรกในสภาฯ ว่า เป็นไออุ่นที่คุ้นเคย ตั้งแต่เดือน ก.ค.2566 เป็น 6 เดือน ที่ไม่ได้มีโอกาสแถลงข่าวต่อสื่อและประชาชนที่สภา ยังรู้สึกว่าสภาเป็นพื้นที่รวมตัวของประชาชน คิดถึงบรรยากาศนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งใจใส่เนคไทมาเป็นลูกเล่นใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่ใช่กิมมิค เมื่อเช้ารีบไปรายการ จึงเอาเนคไทเส้นที่มองซ้ายมองขวา และจำได้ว่าตอนที่เราชูกำปั้น เราใส่เนคไทเส้นนี้ เลยนึกสนุกขึ้นมา

คงไม่ใช่กิมมิคอะไรพิเศษ ออกไปด้วยแบบไหนก็กลับมาแบบนั้น แต่เป้าหมายในการเดินทางของเรายังต้องทำต่อ แม้ว่าจะหายไป 6 เดือนก็ตาม

เมื่อถามว่าเสียดายเวลา 6 เดือนที่หายไปหรือไม่นั้น นายพิธา กล่าวว่า เสียดายที่ไม่มีโอกาสในการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ซึ่งคงไม่มีใครบอกได้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร หรือถ้ามีครั้งที่ 2 แล้วดีขึ้น จะกลายเป็นครั้งที่ 3 หรือไม่ แต่เราบริหารจัดการเวลาได้ ใช้เวลา 6 เดือนในการพบปะพี่น้องประชาชน ทำงานกับเพื่อน สส.ที่อยู่ข้างหลังในการลงพื้นที่ขณะถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยจะใช้ข้อมูลที่ได้จากการประชุมกับผู้นำท้องถิ่นมาอภิปรายในวันที่ 26 ม.ค.นี้ เรื่องปัญหาขยะล้นเมือง และการจัดการขยะ จ.สมุทรปราการ และ จ.ภูเก็ต ในญัติติของพรรคภูมิใจไทย เพราะฉะนั้นไม่เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย

ส่วนภารกิจแรกในการกลับมาเป็น สส. นายพิธา กล่าวว่า คุยกับเพื่อน สส. ทักทายกันให้หายคิดถึง อาจแวะไปพูดคุยกับนักศึกษาที่มาสภาในวันนี้ รอจังหวะที่ไม่รบกวน สส.ที่อภิปรายอยู่ และเตรียมตัวอภิปรายแถลงแผนงานของพรรคก้าวไกลในวันพรุ่งนี้ (26 ม.ค.) ว่าเป้าหมายและการทำงานในเชิงปฏิบัติของพรรคในปีนี้คืออะไร ประชาชนและสมาชิกจะได้มีส่วนร่วมในการทำงาน

เมื่อถามถึงข้อครหาต่าง ๆ ที่ผ่านมาของพรรคก้าวไกล จะมีการเดินหน้าต่ออย่างไร นายพิธา กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจ และขอโทษประชาชน ยืนยันว่าไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่นายชัยธวัช ตุลาธน สส.แบบบัญชีรายชื่อ เป็นหัวหน้าพรรค ตนเองก็ไม่อยากเป็นสถาบันที่มีหัวหน้า 2 คน ต้องรู้หน้าที่ของตนเองว่าเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ต้องให้คำปรึกษากับนายชัยธวัช ซึ่งได้มีการพูดคุยกันตลอด ทั้งในมุมที่จะป้องกันสถานการณ์แบบนี้ไม่ให้เกิดขึ้น หรือเมื่อเหตุเกิดแล้วก็แสดงท่าทีอย่างรวดเร็ว เช่น ให้นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรค ออกมาชี้แจงในส่วนของความเข้าใจผิดต่าง ๆ

จะเรียนรู้จากความผิดพลาด และปรับปรุงโดยที่ไม่แก้ตัว ยอมรับว่าเรายังต้องพัฒนากันอีกเยอะ ประชาชนคงสัมผัสได้ถึงพัฒนาการความเป็นสถาบันการเมืองของเรา

ส่วนจะดำเนินคดีกับนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะเป็นผู้ร้องคดีข้างต้นหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่มี เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้วในอดีต ตอนนี้จะใส่ใจกับปัจจุบัน ใช้สมาธิ ทรัพยากรเวลา กับการทำงานในปัจจุบัน และอนาคตที่จะถึง ตามแผนการดำเนินงานที่จะแถลงในวันพรุ่งนี้ (26 ม.ค.)

เมื่อถามว่าจะกลับไปเป็นหัวหน้าพรรค และผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่นั้น นายพิธา กล่าวว่า คำตอบนี้ต้องแยกเป็นสองส่วน หัวหน้าพรรคก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการ คือการประชุมวิสามัญของพรรคช่วงเดือน เม.ย.2567 ในส่วนที่สอง ตนไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง นายชัยธวัชก็ทำหน้าที่ได้ดี ตนเองไม่มีความจำเป็นที่จะเป็นหัวหน้าพรรค ก็แล้วแต่สมาชิกพรรค เพราะไม่มีใครยึดติดในตำแหน่ง ส่วนจะมีการเลื่อนประชุมวิสามัญของพรรคหรือไม่นั้น ไม่มีเหตุจำเป็นอะไร และเดือน เม.ย.เหมาะสมที่กรรมการบริหารพรรคก้าวไกลทำงานครบ 4 ปีตามวาระ ก็จะต้องมีการเปลี่ยน ไม่เกี่ยวข้องกับคดีของตนเอง

เมื่อถามถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดฟังคำวินิจฉัยในคดีนโยบายแก้ ม.112 ของพรรคก้าวไกล มีความกังวลบ้างหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ความรู้สึกเหมือนตอนคดีไอทีวี เราแยกแยะได้ว่าอะไรควบคุมได้หรือไม่ได้ ทั้งนี้ ส่วนที่เราควบคุมได้เราก็ได้ทำเต็มที่

นายพิธา ยังกล่าวถึงความคาดหวังที่ให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาตอบกระทู้ถามสภาผู้แทนราษฎร ว่า หากจะคาดหวังกับใครก็จะต้องเริ่มทำที่ตัวเราด้วย หากวันใดวันหนึ่งที่เข้าเป็นรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรี ก็จะต้องกลับเข้ามาตอบกระทู้ด้วยตัวเอง จึงหวังว่าถ้าเป็นมาตรฐานที่วางไว้ให้กับตัวเอง ก็เป็นบรรทัดฐานที่คาดหวังจากคนอื่นได้

นายพิธา ยังตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่าเข้าสภาครั้งนี้แล้วไม่มีออกใช่หรือไม่ ว่า “รอไปทำเนียบอย่างเดียว”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

"พิธา" รอด! ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน สมาชิกภาพ สส.ไม่สิ้นสุด ชี้ไอทีวีไม่ใช่สื่อ 

เปิดมติตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 8:1 ตัดสิน "พิธา" ไม่พ้น สส.คดีหุ้นไอทีวี 

ศาล รธน.ตัดสิน “พิธา” ไม่พ้น สส. จับตา ”ก้าวไกล” จัดทัพใหม่ 

"อ.ปริญญา" เผย 3 แนวทางตัดสินคดี "พิธา-ก้าวไกล" หาเสียงยกเลิก ม.112 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง