"ไข้เลือดออก" ม.ค.พุ่ง 1.9 เท่าป่วย 8,197 คนตาย 13 คน

สังคม
7 ก.พ. 67
13:05
312
Logo Thai PBS
"ไข้เลือดออก" ม.ค.พุ่ง 1.9 เท่าป่วย 8,197 คนตาย 13 คน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมควบคุมโรค ชี้เดือนม.ค.นี้ ไข้เลือดออกเพิ่มขึ้น 1.9 เท่าของปีที่ผ่านมา พบผู้ป้วย 8,197 คนตาย 13 คน เสียชีวิตทุกสัปดาห์ แนะช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ทายากันยุงป้องกันการกระจายเชื้อ

วันนี้ (7 ก.พ.2567) นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เดือนม.ค.ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกแล้ว 8,197 คน มากกว่าปี 2566 ถึง 1.9 เท่า สถติ 4,286 คน และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

พบผู้ป่วยสูงสุดในกลุ่มอายุ 5-14 ปี พบมากทางภาคใต้ และภาคกลาง รายงานผู้เสียชีวิตยืนยันแล้ว 13 คน กระจายใน 11 จังหวัด และเสียชีวิตมากสุดในกลุ่มที่อายุมากกว่า 65 ปี

กรมควบคุมโรค ขอเน้นย้ำให้ประชาชนทายากันยุง เพื่อป้องกันตนเองจากการถูกยุงกัด โดยเฉพาะผู้ป่วยไข้เลือดออก เพื่อป้องกันการกระจายเชื้อไข้เลือดออกในตัวผู้ป่วยสู่ชุมชน เพราะผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกหากถูกยุงลายกัดสามารถส่งต่อเชื้อไข้เลือดออก (หลังผ่านระยะฟักตัวในยุง) ให้ผู้อื่นได้

การทายากันยุงในผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกจะช่วยตัดวงจรดังกล่าว และลดการระบาดของโรคไข้เลือดออก นอกจากนี้ต้องขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกันสำรวจ และทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายตามมาตรการ 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค อย่างต่อเนื่องเพื่อลดจำนวนยุงลายรุ่นต่อไป

พญ.จุไร วงศ์สวัสดิ์ โฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า หากประชาชนมีอาการสงสัยโรคไข้เลือดออก เช่น มีอาการไข้สูงลอย ร่วมกับอาการปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา หน้าแดง คลื่นไส้ อาเจียน อาจมีผื่นหรือมีจุดเลือดออกที่ลำตัว แขน ขา 

ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง ยาลดไข้ที่ปลอดภัยคือยาพาราเซตามอล ตามขนาดยาที่กำหนด ควรหลีกเลี่ยงยาลดไข้ในกลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค แอสไพริน รวมถึงยาชุด ซึ่งอาจมีผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่นเลือดออกในทางเดินอาหารและยากต่อการรักษา

ทั้งนี้หากรับประทานยาลดไข้หรือเช็ดตัวแล้วไข้ไม่ลดภายใน 1-2 วัน (นับจากวันที่เริ่มมีไข้) ควรรีบไปพบแพทย์ทันที ซึ่งโรคไข้เลือดออกหากได้รับการรักษาเร็วจะสามารถป้องกันอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้  

อ่านข่าวอื่นๆ

"กัญจนา" ปะหน้า "พังดัมมี่" ช้างขี้บ่น แม่ๆ ส่งใจอาหารเต็มพุง

จับตา "ทักษิณ" กลับบ้าน 22 ก.พ.นี้ ห่วง ขรก.เสี่ยงคุก

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง