วันนี้ (9 ก.พ.2567) นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผอ.สำนักป้องกันปราบปราม และควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ถึงสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ป่าตะวันตก ว่า ขณะนี้กรมอุทยานฯได้ปรับแผนในการเฝ้าระวังและเร่งดับไฟป่าที่ลุกลามในป่าตะวันตก โดยเฝ้าระวังพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ รวมทั้งอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จ.กาญจนบุรี
เนื่องจากพบว่า มีจุดความร้อนจากการเผากระจายในพื้นที่ โดยเฉพาะป่าสลักพระมากกว่า 200 จุดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้ระดมทีมเสือไฟภาคใต้ 100 นายร่วมกับชุดลาดตระเวนอีก 150 นายเข้าตรึงพื้นที่ และใช้เฮลิคอปเตอร์เข้าดับไฟในพื้นที่เขาสูงชัน ล่าสุดจุดความร้อนเริ่มลดลงจาก 200 จุดเป็น 60 จุดและเหลือ 9 จุดในวันนี้
ใช้เฮลิคอปเตอร์ช่วยดับไฟป่าสลักพระ
ใช้เฮลิคอปเตอร์ช่วยดับไฟป่าสลักพระ
ตอนนี้ป่าสลักพระถูกไฟไหม้ 10,000 ไร่ จึงต้องเร่งสกัดไฟให้จบภายใน 1-2 วัน มีการส่งชุดเสือไฟเจ้าหน้าที่เข้าตรึงพื้นที่เสี่ยง 250 นายและจะประสานขอเฮลิคอปเตอร์จากปภ.มาดับไฟอีก 1 ลำ
นายนฤพนธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับปัญหาไฟป่าตะวันตกปี 2566 เฉพาะป่าสลักพระมีพื้นที่เสียหายถึง 230,000 ไร่ ขณะที่ปีนี้ไฟป่ามาเร็วกว่า 2 สัปดาห์เนื่องจากความแห้งแล้ง ประกอบกับการเปิดพื้นที่เพื่อล่าสัตว์และหาของป่าของชาวบ้านในพื้นที่ มันเกิดพร้อมกันหลายจุด ทำให้ขณะนี้มีพื้นที่เสียหายไปแล้ว 10,000 ไร่ จึงต้องคุมเพื่อไม่ให้กระจายลามไปมากกว่านี้
ยอมรับว่าหนักใจอยู่ เพราะสภาพพื้นที่เขาสูง และความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่จากสัตว์ป่าโดยเฉพาะช้างที่ชุดดับไฟป่าไปเจอช้างในแนวที่ต้องไปดับไฟ
สภาพเขาสูงชันที่ชุดเสือไฟต้องเข้าไปดับไฟในป่าสลักพระ
สภาพเขาสูงชันที่ชุดเสือไฟต้องเข้าไปดับไฟในป่าสลักพระ
จิสด้า พบ 9 จังหวัดเสี่ยงไฟป่า
ขณะที่สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) เฝ้าติดตามสถานการณ์ไฟป่าอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณ 17 จังหวัดภาคเหนือ จากการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า ด้วยแบบจำลองระบบสารสนเทศ ระหว่างวันที่ 5-11 ก.พ.นี้
พบว่ามี 9 จังหวัดที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดไฟป่าได้แก่ ตาก ลำปาง เพชร บูรณ์ เชียงใหม่ นครสวรรค์ แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และน่าน
โดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตร พื้นที่เขต สปก.ป่าอนุรักษ์ และป่าสงวนแห่งชาติ ทั้งนี้ สาเหตุอาจเกิดจากการจุดไฟเผาเพื่อหาของป่า หรือการเผาก่อนเตรียมการเพาะปลูก หรือการเผาหลังเก็บเกี่ยวผลผลิต เป็นต้น
โดยข้อมูลดังกล่าวจะถูกส่งต่อให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปวางแผนเพื่อการจัดการเชื้อไฟ และจัดทำแนวกันไฟในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ GISTDA ยังติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่ ท่านสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://fire.gistda.or.th
กาญจนบุรี ยังแชมป์จุดความร้อน
ขณะที่ข้อมูลจุดความร้อนที่รายงานโดย GISTDA ของวันที่ 8 ก.พ.นี้ ไทยพบจุดความร้อนทั้งประเทศ 1,151 จุด ส่วนใหญ่พบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 372 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 308 จุด พื้นที่เกษตร 190 จุด พื้นที่เขต สปก. 157 จุด ชุมชนและอื่นๆ 114 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 10 จุด
โดยจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนสูงสุด 3 อันดับแรก กาญจนบุรียังคงนำอยู่ที่ 247 จุด ชัยภูมิ 169 จุด และ นครราชสีมา 76 จุด
ในส่วนของประเทศเพื่อนบ้าน พบจุดความร้อนมากสุดอยู่ที่ เมียนมา 1,521 จุด ตามด้วย กัมพูชา 524 จุด ลาว 388 จุด และ เวียดนาม 120 จุด
อ่านข่าวอื่นๆ
หวั่นซ้ำรอย ! ตั้ง "มานะ" ควบหัวหน้า ขสป.เร่งคุมไฟป่าสลักพระ