ต้นตอวิกฤต "หญ้าทะเล" จ.ตรัง ระบบนิเวศเปลี่ยน หรือ มือมนุษย์

สิ่งแวดล้อม
19 ก.พ. 67
13:48
785
Logo Thai PBS
ต้นตอวิกฤต "หญ้าทะเล" จ.ตรัง ระบบนิเวศเปลี่ยน หรือ มือมนุษย์
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมทะเลฯ ระดมนักวิชาการสำรวจหญ้าทะเล สัตว์ทะเลหายาก และ สมุทรศาสตร์ เร่งสรุปหาสาเหตุหญ้าทะเลเสื่อมโทรม ในพื้นที่ จ.ตรัง พร้อมแนวทางการอนุรักษ์ฟื้นฟู ขณะที่ชาวบ้านห่วงรายได้ นักท่องเที่ยวหด พะยูนย้ายถิ่น

"หญ้าทะเล" เป็นแหล่งอาหารสำคัญของสัตว์ทะเลนานาชนิด ทั้งขนาดเล็ก และสัตว์ทะเลขนาดใหญ่อย่างพะยูน และเต๋าทะเล รวมทั้งเป็นแหล่งอนุบาลตัวอ่อนสัตว์น้ำ 

จ.ตรัง และ จ.กระบี่ ถือเป็นแหล่งหญ้าทะเลขนาดใหญ่ของทะเลอันดามัน แต่ตั้งแต่ปี 2562 แหล่งหญ้าทะเลมีความเสื่อมโทรม กินพื้นที่กว่า 10,000 ไร่ จนถึงวันนี้ยังหาวิธีป้องกันและฟื้นฟูไม่ได้

ความเสื่อมโทรมนี้เกิดจากผลกระทบการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและจากมนุษย์เอง

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) โดยคณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินงานและแก้ไขปัญหาการเสื่อมโทรมของแหล่งหญ้าทะเลในบริเวณ จ.ตรัง และ จ.กระบี่ ลงพื้นที่ติดตามและสำรวจสถานภาพหญ้าทะเล พื้นที่เกาะลิบง และเกาะมุกด์ จ.ตรัง เพื่อติดตามสถานการณ์หญ้าทะเลเสื่อมโทรม พร้อมเก็บตัวอย่างน้ำทะเล หญ้าทะเล และตะกอนดิน นำไปตรวจสอบหาสาเหตุความเสื่อมโทรมของแหล่งหญ้าทะเล

โดยแบ่งทีมออกสำรวจระบบนิเวศทางทะเล ประกอบด้วย

  • ทีมสำรวจหญ้าทะเล
  • ทีมสำรวจสัตว์ทะเลหายาก
  • ทีมสำรวจสมุทรศาสตร์และสิ่งแวดล้อม

อ่านข่าว : “บิ๊กป๊อด” เคาะ 3 มาตรการเร่งด่วน โซนนิ่ง-คุมท่องเที่ยว แก้หญ้าทะเลตรังเสื่อมโทรม

เกาะลิบง พบตะกอนดินทรายเพิ่ม

จากการลงพื้นที่สำรวจแหลมจูโหย เกาะลิบง ได้ข้อสรุปว่าหญ้าคาทะเลมีสภาพเสื่อมโทรม มีร้อยละการปกคลุมพื้นที่น้อย โดยหญ้าคาทะเลมีลักษณะปลายใบขาดสั้น และบางส่วนยืนต้นตาย สาเหตุหลักอาจมาจากการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนของอนุภาคตะกอนดิน พบพื้นทะเลมีลักษณะขนาดอนุภาคตะกอนดินโคลนลดน้อยลง ตะกอนทรายเพิ่มมากขึ้น

ตลอดจนมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านสมุทรศาสตร์ คือ ระดับน้ำทะเลมีการลดระดับมากกว่าปกติและมีระยะเวลานานขึ้น จึงทำให้เกิดการผึ่งแห้งของหญ้าทะเลนานมากกว่าปกติ ซึ่งอาจทำให้หญ้าทะเลอ่อนแอลงได้

เกาะมุกด์หญ้าใบมะกรูดสมบูรณ์

สำหรับพื้นที่เกาะมุกด์ บริเวณด้านใกล้ชายฝั่งเกาะมุกด์ มีหญ้าใบมะกรูดสมบูรณ์ มีการปกคลุมพื้นที่ 70-80% พบรอยกินของพะยูน แต่พบหญ้าคาทะเลเสื่อมโทรมลง ใบขาดสั้นเช่นเดียวกับหญ้าทะเลบริเวณเกาะลิบง

อช.ระดมนักวิชาการหาสาเหตุ

สันนิษฐานสาเหตุของหญ้าทะเลเสื่อมโทรม คือการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่เชื่อมโยงกับการขึ้นลงของระดับน้ำทะเล

นางสุมนา ขจรวัฒนากุล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่าช่วงที่ผ่านมา มีการลงของน้ำทะเลค่อนข้างมาก ระยะน้ำลงจากฝั่งหากเพิ่มขึ้น 5-6 เมตร ระยะเวลาน้ำลงจะนานขึ้น ทำให้การผึ่งแห้งของหญ้าทะเลได้รับแสงแดดนานขึ้นอาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หญ้าอ่อนแอ อาจจะทำให้ติดโรคและเกิดการเสื่อมโทรมได้

จากเหตุที่หญ้าผึ่งแห้งนาน ส่งผลให้เกิดอาการอ่อนแอ โอกาสที่จะติดโรคอาจจะมีมากขึ้น ซึ่งเชื้อโรคจำพวกนี้มีตามปกติอยู่แล้ว

นางสุมนา ยังกล่าวว่าการฟื้นฟูหญ้าทะเลไม่ใช่เรื่องง่าย ยังมีปัจจัยภายนอกที่ทำให้สภาวะไม่เหมาะสม และต้องหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดความเสื่อมโทรม

แต่สิ่งที่ต้องดำเนินการควบคู่ คือการแหล่งหญ้าทะเลในพื้นที่อื่นๆ ใน จ.ตรัง ที่สามารถที่เป็นแหล่งอาหารรองรับให้กับสัตว์ทะเลหายาก

ปัญหาที่เกิดขึ้น ยังส่งผลกระทบกับชาวบ้าน ที่ขาดแคลนรายได้จากการทำประมง ซึ่งต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะส่งเสริมอาชีพของชาวประมงเพื่อให้มีรายได้มาทดแทน

ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่า พ.ศ.2566 ในพื้นที่ จ.ตรัง พบพะยูนเกยตื้นทั้งหมด 23 ตัว เจ้าหน้าที่สามารถช่วยชีวิตได้ 4 ตัว จากการตรวจสอบพะยูนที่ตาย พบร่างกายแข็งแรง ในกระเพาะพบหญ้าทะเล ซึ่งสาเหตุไม่ได้เกิดจากการอดอาหาร แต่เป็นการป่วยตาย

ปรากฏการณ์ IOD เรื่องใกล้ตัว

ผศ.ดร.ธนัสพงษ์ โภควนิช ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิจัย คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่าอีกหนึ่งสมมุติฐานที่อาจเป็นสาเหตุของหญ้าทะเลเสื่อมโทรม ที่เกี่ยวกับปรากฏการณ์ Indian Ocean Dipole (IOD) มีสถานะเป็นบวก (positive) กับเอลนีโญ ที่มหาสมุทรแปซิฟิก IOD Positive ที่มหาสมุทรอินเดีย ซึ่งจะส่งผลให้น้ำทะเลต่ำ ซึ่งจะผลเป็นลูกโซ่ จะทำให้น้ำจากใต้ดินไหวรุนแรงมากขึ้น จึงทำให้สารพิษที่ฝังอยู่ใต้ดิน ขึ้นมาใกล้ผิวน้ำมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หญ้าอ่อนแอ และตายได้ ซึ่งสเต็ปต่อไปก็ต้องพิสูจน์สมมุติฐาน

นอกจากนี้ IOD Positive กับ ENSO ไม่ได้ส่งผลแค่ระดับน้ำอย่างเดียวยังส่งผลต่อระดับน้ำ อาจส่งผลทำให้ฝนตกมากขึ้นซึ่งปริมาณฝนที่ตกมากขึ้นทำให้น้ำทะเลที่จืดลง

เมื่อน้ำทะเลจืดลงก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อหญ้าทะเลด้วย ซึ่งต้องไปทำข้อมูลย้อนหลังเก็บข้อมูลทุติยภูมิ 

อ่านข่าว : ส่อหายนะ "หญ้าทะเล" อาหารพะยูนเสื่อมโทรม 5,000 ไร่

เสียงสะท้อนจากชาวบ้าน

ช่วงนี้ของทุกปี จะเป็นช่วงที่น้ำลง แต่ปีนี้น้ำลงเยอะและกว่าน้ำจะขึ้นอีกรอบใช้เวลานานกว่าทุกปี

ชาวบ้านเกาะลิบง เปิดเผยว่า สมัยก่อนหน้านี้ 4-5 ปี พื้นที่นี้ชาวบ้านยังสามารถเก็บหอยชักตีน หอยแครง ปลิงดำ สร้างรายได้ แต่ในปัจจุบันสัตว์น้ำดังกล่าว ลดน้อยลง อย่างการเก็บหอยชักตีนจะสามารถเก็บได้ 5-6 กิโลกรัมต่อ 1 ชั่วโมง แต่ตอนนี้ได้วันละไม่ถึงครึ่งกิโลกรัม

ส่วนนักท่องเที่ยวในปีนี้ลดลง 20% เพราะเกาะลิบงขึ้นชื่อเรื่องปลาพะยูน เมื่อหญ้าทะเลหดหายไป นักท่องเที่ยวก็จะไม่มาท่องเที่ยว ทำให้ปีนี้นักท่องเที่ยวลดลง 20%

หญ้าทะเลในปัจจุบันในพื้นที่มีจำนวนน้อยมาก ซึ่งกลัวว่าจะส่งผลให้พะยูนย้ายถิ่นหากิน

ทั้งนี้ชาวบ้านกังวลกับปัญหาที่เกิดขึ้น อยากจะให้เร่งหาเหตุที่แท้จริง ซึ่งทางชาวบ้านพร้อมช่วยกันฟื้นฟูและอนุรักษ์แหล่งหญ้าทะเลด้วย

สำหรับสถานการณ์หญ้าทะเลในพื้นที่ เกาะลิบง มีพื้นที่หญ้าทะเล 15,457 ไร่ จากการสำรวจเมื่อปี 2563 มีพื้นที่หญ้าทะเลเสื่อมโทรม 7,997 ไร่ ทั้งนี้เมื่อ ก.พ.2566 เปอร์เซ็นต์การปกคลุมลดลงจาก 24% ในเดือน ธ.ค.2566เหลือเพียง 9%

ส่วนพื้นที่เกาะมุกด์ มีพื้นที่หญ้าทะเล 9,017 ไร่ จากการสำรวจเมื่อปี 2566 มีพื้นที่หญ้าทะเลเสื่อมโทรม 6,910 ไร่ ทั้งนี้เมื่อ ก.พ.2566 เปอร์เซ็นต์การปกคลุมลดลงจาก 51% ในเดือน ธ.ค.2566เหลือเพียง 14%

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง