ปลัด ทส.ยันพื้นที่อุทยาน​ "ชัยวัฒน์"​ มีอำนาจถอดหมุด​ ส.ป.ก. ปัดมีใบสั่ง

สิ่งแวดล้อม
20 ก.พ. 67
10:17
2,617
Logo Thai PBS
ปลัด ทส.ยันพื้นที่อุทยาน​ "ชัยวัฒน์"​ มีอำนาจถอดหมุด​ ส.ป.ก. ปัดมีใบสั่ง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ปลัดกระทรวงทรัพย์ฯ​ ขอรอ​ "พัชรวาท-ธรรมนัส"​ เคลียร์ปม​ ที่ดิน ส.ป.ก.เขาใหญ่ ยัน​ หากเป็นพื้นที่อุทยาน​ "ชัยวัฒน์"​ มีอำนาจถอดหมุด​ ปัดมีใบสั่งการเมือง ยันให้ความเป็นธรรมหลัง ป.ป.ช.​ชี้มูลผิด​

วันนี้ (20 ก.พ.2567) นายจตุพร​ บุรุษพัฒน์​ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​ กล่าวถึงกรณีข้อพิพาทระหว่างกรมป่าไม้​ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต่อการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน​ ส.ป.ก.เขาใหญ่ อ.ปากช่อง​ จ.นครราชสีมา​ ว่า​

ทาง พล.ต.อ.พัชรวาท​ วงษ์สุวรรณ​ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ ร.อ.ธรรมนัส​ พรหมเผ่า​ รมว.เกษตรและสหกรณ์ จะหารือเพื่อให้ได้ข้อยุติในประเด็นนี้ ซึ่งเรื่องนี้มีแนวทางที่เรียกว่าวันแมพ คือการใช้แนวเขตที่ดินของรัฐมากำหนด และก่อนหน้านี้คือการนำแผนที่มาตราส่วนเดียวกันมาปรับให้เป็นแนวเขตเดียวกัน สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นที่เขาใหญ่ รอให้เจ้ากรมแผนที่ทหาร ซึ่งขณะนี้กำลังลงพื้นที่อยู่ได้ดำเนินการ

เมื่อถามว่าก่อนที่จะมีการปักหมุดต้องมีการหารือกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงทรัพย์​ฯ​ ก่อนหรือไม่​ นายจตุพร​ ระบุว่า​ ในส่วนของกระทรวงทรัพย์ฯ​ เขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มีอยู่แล้ว แต่การที่หน่วยงานไหนจะเข้ามา ต้องมาคุยกันก่อน เช่นแนวระดับจังหวัด หรือคณะกรรมการปฏิรูปจังหวัด​ แต่ส่วนนี้เป็นเรื่องของจังหวัดตนไม่ขอก้าวล่วง และเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้วต้องมาคุยกัน เพราะมีอยู่ 3 เรื่องที่ต้องทำ คือเรื่องข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริง และวิทยาศาสตร์​ คือการใช้ภาพถ่ายดาวเทียมซึ่งเรามีอยู่แล้ว​

เมื่อถามว่าการที่นายชัยวัฒน์​ ลิ้มลิขิตอักษร​ ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช​ ถอดหมุดสามารถทำได้หรือไม่​ นายจตุพร​ ระบุว่าสิ่งใดก็ตามที่อยู่ในเขตอุทยาน หากเข้าไปบุกรุก สามารถดำเนินการได้​ ซึ่งถือเป็นเหตุที่มีความละเอียดอ่อน โดยป่าสงวนจะเป็นไข่ขาว อุทยานคือไข่แดง​ แต่จะเข้าขอไปตรวจสอบในรายละเอียด​หากนายชัยวัฒน์​ถูกแจ้งข้อกล่าวหา​

ก่อนยืนยันว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของนายชัยวัฒน์หากอยู่ในพื้นที่อุทยานก็สามารถดำเนินการได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องรักษาไว้ อีกทั้งอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นมรดกโลก จึงต้องไปพิสูจน์ทราบ ว่าการที่เจ้าหน้าที่ไปปักหมุดสามารถทำได้เลยหรือไม่​ และต้องไปดูขั้นตอนของสำนักงานปฏิรูปที่ดิน จะต้องเข้ามาอย่างไร ต้องไปดูภาพรวมทั้งหมด รายการที่จะเข้าไปปักแนวเขตอะไรก็แล้วแต่ มีระเบียบรองรับอยู่แล้ว ว่าจะต้องมีกำนันผู้ใหญ่บ้าน ขั้นตอนละเอียดอยู่ และเชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นานที่จะหาข้อยุติในเรื่องนี้

นายจตุพร​ ระบุว่าสำหรับกรณีที่ นายชัยวัฒน์​ มีการตั้งข้อสังเกต ว่าการปักหมุดบริเวณดังกล่าว มีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่ นั้น ขอไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เพราะทุกฝ่ายก็ทำตามกฎหมายของตัวเอง อยากให้รอคณะกรรมการเข้ามาดู​ ซึ่งเป็นเรื่องแนวเขตที่เราเห็นอยู่แล้วว่ามีปัญหา จึงจำเป็นต้องมีการแก้ไขแนวเขตที่ดินของรัฐ

อ่านข่าว : อุทยานฯ ลั่นไม่เสียป่าเขาใหญ่ รังวัดจุดหมุดนิรนาม ส.ป.ก.18 ก.พ.

ถ้านำที่ดินของรัฐในส่วนของราชการมาดู​ เป็นที่ดินเกินครึ่งหนึ่งของประเทศไทย ทุกฝ่ายมีมาตรฐานที่แตกต่างกันไป ที่เราเรียกว่าโฉนดที่ดิน​ 1 : 4,000 ก็สามารถนำมาเทียบเคียงกันได้หมด และเชื่อว่าไม่น่าจะมีเรื่องการเมืองมาอยู่เบื้องหลัง​ ส่วนจะมีใบสั่งให้ไปปักหมุดจุดนั้นหรือไม่ตนไม่ทราบ​ เพราะทั้ง 2 หน่วยงานยืนยันแผนที่ของตัวเอง ก็ต้องนำมาตรวจสอบ อะไรผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ถูก

ส่วนพื้นที่ที่ปักหมุดจะเตรียมแบ่งไว้ให้ประชาชนทำกินหรือไม่นั้นตนไม่ทราบเนื่องจากเป็นเรื่องของกระทรวงเกษตรฯ​ แต่ยอมรับว่าพื้นที่ดังกล่าวค่อนข้างอุดมสมบูรณ์​

ส่วนจะคาดว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกรมอุทยานหรือไม่นั้น นายจตุพรยืนยันว่ามีพระราชกฤษฎีกาแนวเขตอยู่​ เป็นข้อกฎหมาย​

อ่านข่าว : คาด 3 สัปดาห์รู้ผล ปมพิพาท ส.ป.ก. "รุกป่าเขาใหญ่"

ปลัด​ ทส. ยันให้ความเป็นธรรม "ชัยวัฒน์"​ ปมห้วยคมกฤต

นายจตุพร​ กล่าวถึง​กรณีที่ นายชัยวัฒน์​ ถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ป.ป.ช.​ นำคำตัดสินค้างเก่าคดีก่อสร้างอาคารที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยาน (ห้วยคมกฤต) อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยมิชอบ ชี้ผิดวินัยร้ายแรง และส่งอัยการสูงสุดฟันผิดอาญา ว่า​ ทาง ป.ป.ช.ได้แจ้งเรื่องไปที่ต้นสังกัดของนายชัยวัฒน์​ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางต้นสังกัดก็จะส่งรายละเอียดมาให้สำนักปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งทุกอย่างมีขั้นตอนอยู่ ทั้งเรื่องการร้องขอความเป็นธรรม ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการ และนายชัยวัฒน์​ สามารถอุทธรณ์และร้องขอความเป็นธรรมกับทางกระทรวงได้ ซึ่งยอมรับว่าข้าราชการเรา โดนแบบนี้มาเยอะ ก็เปิดให้เขาร้องขอความเป็นธรรมและเสนอหลักฐานเข้ามา

"เราก็ต้องดูแลคนของเรา คนทำงานก็ต้องยอมรับว่า ต้องมีผิดบ้างถูกบ้าง แต่ถ้าผิดแล้วเป็นปัญหาเราก็ต้องดูแลพื้นเจ้าหน้าที่ของเรา เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงานให้เขา ลูกน้องของผมทุกคนผมดูแลหมด และให้ความเป็นธรรมทุกคน"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด “ชัยวัฒน์” ปมห้วยคมกฤต ขีดเส้นลงโทษภายใน 30 วัน

พิรุธ! ออกโฉนด ส.ป.ก.ในป่าเขาใหญ่ จ่อขึ้นรูปแปลง 2,900 ไร่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง