สอบพยานคดี "ลุงเปี๊ยก" แล้ว 7 คน อัยการ-DSI หารือเข้าข่าย พ.ร.บ.อุ้มหาย

อาชญากรรม
1 มี.ค. 67
18:02
387
Logo Thai PBS
สอบพยานคดี "ลุงเปี๊ยก" แล้ว 7 คน อัยการ-DSI หารือเข้าข่าย พ.ร.บ.อุ้มหาย
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
พนักงานอัยการสูงสุดร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เพื่อกำหนดแนวทางการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีตำรวจ สภ.อรัญประเทศ บังคับหรือทรมานให้ "ลุงเปี๊ยก" รับสารภาพในคดี "ป้าบัวผัน" ยืนยันทำสำนวนด้วยความเป็นธรรม

วันนี้ (1 มี.ค.2567) เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ถือเป็นการประชุมครั้งแรก ระหว่างเจ้าหน้าที่อัยการสำนักการสอบสวนและเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมประชุมแนวทางการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีตำรวจ สภ.อรัญประเทศ บังคับหรือทรมานให้นายปัญญา หรือ "ลุงเปี๊ยก" รับสารภาพในคดี "ป้าบัวผัน" ถูกเยาวชารุมทำร้ายจนเสียชีวิต เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่าขณะนี้ทางคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงได้ใช้อำนาจตามกฎหมายให้อัยการเข้ามากำกับการสอบสวนกำหนดให้กรมสอบสวนคดีพิเศษตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้เข้าสอบปากคำลุงเปี๊ยกที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์ ภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์ที่ให้การรักษา พร้อมลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สอบปากคำพยานในคดีไปแล้ว 7 ปาก ทั้งตำรวจ และพลเรือน

อ่านข่าว : เด้ง ผกก.สภ.อรัญประเทศ ปมคลิปเสียงขู่ "ลุงเปี๊ยก" คดีฆาตกรรม "ป้าบัวผัน" 

จากข้อมูลการสอบสวนมีความคืบหน้าไปมากและเป็นประโยชน์ และ ประสานไปยังตำรวจสถานีตำรวจภูธรอรัญญประเทศส่งสำนวนการสอบสวนในคดีเอาผิดตำรวจตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย ให้กับคณะพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว ซึ่งตำรวจ สภ.อรัญประเทศต้องหยุดการสอบสวนในคดีนี้ทันที เพื่อความโปร่งใส

ส่วนแนวทางการสอบสวนนั้น เนื่องจากข้อเท็จจริงปรากฏชัดเจนแล้วว่าเป็นการควบคุมตัวลุงเปี๊ยกไม่ใช่การเชิญตัวตามที่ตำรวจกล่าวอ้าง ดังนั้นแนวทางการสอบสวนตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ จะต้องเริ่มจากการตรวจสอบว่ามีการแจ้งการควบคุมตัวไปยังนายอำเภอหรืออัยการจังหวัดตามกฎหมายหรือไม่ เมื่อควบคุมตัวแล้วได้พาลุงเปี๊ยกไปที่ใด มีการบันทึกภาพระหว่างการสอบปากคำหรือไม่ และจะทำการตรวจสอบการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐว่าเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.อุ้มหายฯเพื่อให้ได้มาซึ่ง คำรับสารภาพจากลุงเปี๊ยกหรือไม่ เช่น บังคับให้สารภาพ ย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

ส่วนผู้บังคับบัญชาจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ด้วยหรือไม่นั้นจะต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติมว่ารู้เห็นการกระทำ และได้ยับยั้งเพื่อไม่ให้เกิด การกระทำนั้นหรือไม่ หากพบว่ามีความผิด ผู้บังคับบัญชาจะต้องรับโทษกึ่งหนึ่ง นายวัชรินทร์ย้ำว่าขอให้ประชาชนมั่นใจ เรื่องนี้ไม่มีการกันแกล้งหรือให้การช่วยเหลือผู้ใด แม้แต่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือผู้ที่รู้เห็นเหตุการณ์แต่ไม่ยับยั้งการกระทำก็จะถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

ดีเอสไอรับคดี "ลุงเปี๊ยก" เป็นคดีพิเศษ เข้าข่าย พ.ร.บ.อุ้มหายฯ

วงเสวนา มธ.ถอดรหัส "ลุงเปี๊ยก" สะท้อนระบบยุติธรรม แนะ 4 แนวทางปฏิรูปตำรวจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง