ส.ป.ก. ยัน ที่ดินพิพาทเขาใหญ่ได้กรรมสิทธิ์ตาม กม.

สิ่งแวดล้อม
2 มี.ค. 67
12:30
813
Logo Thai PBS
ส.ป.ก. ยัน ที่ดินพิพาทเขาใหญ่ได้กรรมสิทธิ์ตาม กม.
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ส.ป.ก. ออกแถลงการณ์ ย้ำที่ดินข้อพิพาทเขาใหญ่ที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯรื้อหมุด ส.ป.ก. เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์เพื่อใช้ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมโดยชอบตามกฎหมาย

วันนี้ (2มี.ค.2567) เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ออกแถลงการณ์ ระบุว่าสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กรณีพิพาท ระหว่างแนวเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมากับแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ตามที่ได้ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

เข้าทำการรื้อถอนหมุดหลักฐานซึ่งเจ้าหน้าที่ของ ส.ป.ก.ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ภายใต้กฎหมายยว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ในท้องที่หมู่ 10 บ้านเหวปลากั้ง ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่ก่อให้เกิดเป็นประเด็นพิพาทในระหว่างส่วนราชการด้วยกัน

ส.ป.ก. ยืนยันว่า ที่ดินในบริเวณพิพาทเป็นที่ดินที่ ส.ป.ก. เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์เพื่อใช้ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามมาตรา 26 (3) และมาตรา 36 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 และพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน และอ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งกรมแผนที่ทหารได้ตรวจสอบข้อมูล Field book ซึ่งเป็นการบันทึกการรังวัดขอบเขตของกรมอุทยานฯ เอง ตามมาตรฐานแผนที่และการรังวัดสากลแล้วยืนยันพื้นที่ข้อพิพาทไม่ได้อยู่ในเขตอุทยานฯ แต่ประการใด

โดยที่ดินในบริเวณพิพาท ส.ป.ก. ได้รับมาจากการนำที่ดินที่จำแนกออกจากป่าเขาใหญ่เฉพาะพื้นที่ที่อยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติและเขตป่าสงวน (พื้นที่อยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ตามพระราชกฤษฎีกาที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2505) เนื้อที่ประมาณ 33,896 ไร่

ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2530 มอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับไปดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามข้อเสนอของคณะกรรมการพัฒนาที่ดินครั้งที่ 6/2527 เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2527

ที่มีกรมป่าไม้ (ผู้รับผิดชอบงานอุทยานแห่งชาติในขณะนั้น) และส.ก. ร่วมเป็นกรรมการ ซึ่งได้สำรวจเป็นที่ยุติแล้วว่า พื้นที่ที่ส่งมอบให้ส.ป.ก. ข้างต้นมีสภาพการใช้ประโยชน์โดยการประกอบเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่กว่า 86.25 %

อย่างไรก็ตาม ส.ป.ก. จึงมีอำนาจหน้าที่นำที่ดินเนื้อที่ประมาณ 33,896 ไร่ ที่ได้รับมอบมาข้างต้น (รวมถึงที่ดินบริเวณพิพาท มาจัดให้แก่เกษตรกร ตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518โดยไม่มีประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการทับซ้อนของแผนที่แสดงแนวเขตในบริเวณพื้นที่พิพาทระหว่าง ส.ป.ก. กับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช แต่ประการใด

ในกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีนโยบายให้ปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐตามโครงการ One Map เพื่อให้ที่ดินที่ ส.ป.ก. ได้รับมาในบริเวณพิพาทไปอยู่ในแนวเขตอุทยานแห่งชาตินั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการปรับปรุงกฎหมายในระดับพระราชบัญญัติ

และช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรผู้สุจริตซึ่งเสียสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจากผลกระทบดังกล่าวเพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนจากการดำเนินงานปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ จำนวน 10 ข้อ ตามข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติต่อไป

สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น นั้น ส.ป.ก. ยังคงยึดมั่นในหลักการว่า หากปรากฏข้อเท็จจริงใด ๆ ว่า มีเจ้าหน้าที่ของ ส.ป.ก. ได้ดำเนินการรังวัดจัดที่ดินในพื้นที่ที่ยังมีสภาพป่า ย่อมเป็นกรณีที่ไม่ชอบด้วยระเบียบและข้อตกลงอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ในกรณีดังกล่าว ส.ป.ก.ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตลอดจนย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่เพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายด้วยแล้วและหากพบว่าเจ้าหน้าที่ของ ส.ป.ก. ผู้ใดได้กระทำความผิดหรือมีการจัดที่ดิน

โดยฝ่าฝืนเจตนารมณ์แห่งกฎหมายหรือกระทำการใด ๆ ที่ไม่ถูกต้องอันก่อให้เกิดความเสียหายกับการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ส.ป.ก. จะดำเนินการตามกฎหมายทั้งทางวินัย ทางแพ่ง และทางอาญา กับผู้เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด และในทางกลับกัน

หากตรจสอบแล้วพบว่า ส.ป.ก. ได้ดำเนินการจัดที่ดินที่ชอบด้วยระเบียบและกฎหมาย ก็เป็นกรณีสมควรที่เกษตรกรจะต้องได้รับการคุ้มครองสิทธิกฎหมายและมีความชอบธรรมในการถือครองที่ดินของ ส.ป.ก. ต่อไป โดยไม่ควรที่จะมีหน่วยงานใดก็ตามรบกวนหรือรอนสิทธิของประชาชนเหล่านี้

อย่างไรก็ตาม ส.ป.ก. ยืนหยัดในการปฏิบัติหน้าที่ในการคุ้มครองสิทธิของเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อเกษตรกรรมให้เป็นไปตามเจตนารมณ์แห่งกฎหมายทุกประการและจะดำเนินการตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของ ส.ป.ก. ที่ปฏิบัติหน้าที่มิชอบเพื่อพิสูจน์ทราบ และหากพบการกระทำความผิด จะดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัดต่อไป

อ่านข่าวอื่นๆ:

กรมอุทยานฯ ยืนยันแผนที่แนวเขตเขาใหญ่ถูกต้อง

มากกว่า “หมุด ส.ป.ก.” วันแมป “ชัยวัฒน์” ท้าชน “ธรรมนัส”

"ชัยวัฒน์-ชีวภาพ" ไล่ตรวจพื้นที่สงสัย ออกสิทธิ์ ส.ป.ก.ติดป่าเขาใหญ่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง