วันนี้ (9 มี.ค.2567) น.ส.นิภา นิรันดร์นุต กงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ กล่าวถึง กรณีคนไทยที่ทำงานในดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ (UAE) จำนวนกว่า 12,000 คน แต่ทำงานถูกกฎหมายเพียง 4,500 คน ทำให้ทราบว่าคนไทยที่ลักลอบมาทำงานผิดกฎหมายมีจำนวนมาก
อ่านข่าว : ทูตไทย ณ กรุงอาบูดาบี แย้มเล็งหารือฟรีวีซา "ไทย-ยูเออี" ผลักดันการค้าการลงทุน
คนไทยที่ลักลอบทำงานผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะตั้งใจมาทำงานผิดกฎหมายหรือถูกล่อลวง กงสุลใหญ่จะพยายามประชาสัมพันธ์ ให้ละเว้นการเดินทางมาทำงานแบบผิดกฎหมาย เพราะ UAE มีกฎหมายที่รุนแรง ทั้งปรับและจำคุก
ส่วนกรณีที่ถูกล่อลวงมานั้นจะมี 3 ประเภท คือ 1.ล่อลวงมาค้าประเวณีในรูปของนวดแฝง หรือ นวดเทา 2.ถูกล่อลวงมาทำงาน เว็บพนัน สแกมเมอร์ออนไลน์ และ 3.ถูกหลอกว่า มีงานวิศวกร มีงานวิชาชีพในโรงงาน หรือบริษัทน้ำมันขุดเจาะ แต่เมื่อมาถึงแล้วถูกลอยแพ
แต่อัตราที่คนไทยถูกหลอกมากที่สุดคือ หญิงไทยที่มาทำงานในกรณีถูกล่อลวง บังคับให้ค้าประเวณี โดยสถานกงสุลใหญ่ หรือ สถานทูต จะได้รับการร้องขอให้เข้าไปช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง จากหญิงไทยที่ถูกกักขัง ถูกยึดพาสปอร์ต
อย่างไรก็ตาม แม้สถานกงสุลใหญ่ หรือ สถานทูต จะได้รับการร้องขอให้ช่วยเหลือออกมาจากที่กักขัง แต่ไม่สามารถเข้าไปช่วยโดยตรงได้ เนื่องจากผู้เสียหายจะต้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจ
อ่านข่าว : "พิมล" ยันดูแลร่างกาย "เทนนิส" เต็มที่ พร้อมป้องแชมป์โอลิมปิก
ทั้งนี้มีระบบให้สามารถขอความช่วยเหลือด้วย 3 รูปแบบ คือ โทร 999 ไม่ต้องมีซิมการ์ดก็สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ โดยตำรวจจะสามารถทราบตำแหน่งที่อยู่ (Location)ได้ จากนั้นจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือ หรือ 2 ผ่านทาง แอบพลิเคชัน Dubai Police ซึ่งจะมีการให้ความช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์
รวมถึง ติดต่อผ่านเฟซบุ๊ก ทั้งนี้ที่ผ่านมาสามารถเข้าไปช่วยได้ อย่างไรก็ตาม หากสามารถผู้เสียหายช่วยออกมาได้จะเกิดปัญหาที่ต้องถูกดำเนินคดีต่อไป ขณะเดียวกันจะถูกทางการไทยขึ้นแบล็กลิสต์ เพื่อไม่ให้เดินทางไปต่างประเทศอีก
น.ส.นิภา นิรันดร์นุต กงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ
น.ส.นิภา นิรันดร์นุต กงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ
น.ส.นิภา ระบุว่า ได้มีการสำรวจแรงงานไทยผิดกฎหมาย โดยความร่วมมือระหว่างสถานกงสุลใหญ่ กับตำรวจในพื้นที่ทำงานใกล้ชิด มีกลไกทั้งทางการและอินเตอร์โพล สกัดได้ตั้งแต่ต้นทาง
พร้อมยอมรับว่า การเดินทางเข้ามาทำงานแบบผิดกฎหมายส่งผลต่อภาพลักษณ์ประเทศไทย จึงเป็นที่มาที่สถานกงสุลใหญ่ มีมาตรการส่งเสริมภาพลักษณ์ของ “นวดไทย” เพราะถือเป็นมรดกโลกที่ยูเนสโก ประกาศขึ้นทะเบียน ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี 2562 ซึ่งจะดำเนินการภายในปีงบประมาณนี้ โดยจะดึงร้านนวดที่ถูกกฎหมาย และหมอนวดที่อยู่ในร้านต่าง ๆ อยากให้เขาได้รับการยกย่อง มีความภูมิใจ ต้องทำให้เห็นว่า "นวดไทย" ไม่ใช่ "นวดเทา"
อ่านข่าวอื่น ๆ
กต.เผย 5 คนไทยบาดเจ็บ เหตุจรวดต่อต้านรถถังยิงเข้าตอนเหนืออิสราเอล