แพทย์เตือน "ไรโนไวรัส" ระบาด เชื้อรุนแรงเสี่ยง "ปอดอักเสบ" ได้

สังคม
15 มี.ค. 67
08:23
4,519
Logo Thai PBS
แพทย์เตือน "ไรโนไวรัส" ระบาด เชื้อรุนแรงเสี่ยง "ปอดอักเสบ" ได้
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
หมอมนูญโพสต์เตือนประชาชน "ไรโนไวรัส" ระบาดหนัก พบเชื้อมีความรุนแรงกว่าอดีต ส่วนผู้ป่วยโควิด หากไม่มีอาการ ไม่ต้องกักตัว 5 วัน แต่บุคลากรทางการแพทย์ยังต้องหยุดงานกักตัว 5 วัน

เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2567 นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์​ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC  เตือนประชาชนให้ระมัดระวังการแพร่ระบาดของ "ไรโนไวรัส" ที่ปัจจุบันมีความรุนแรงมากขึ้น พร้อมยกตัวอย่างฟิล์มเอกซ์เรย์ของคนไข้หญิงสูงวัยอายุ 90 ปี ที่ติดเชื้อและมาทำการรักษา 

ช่วงนี้ไรโนไวรัส (Rhinovirus) กำลังแพร่ระบาดทั้งในเด็กและผู้ใหญ่รองจากไวรัสโควิดและไข้หวัดใหญ่ ที่น่าแปลกคือ ไรโนไวรัสไม่ใช่เล่นงานแต่ทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้ป่วยเป็นโรคหวัดธรรมดาเหมือนแต่ก่อน ปัจจุบันไรโนไวรัสมีความรุนแรงมากขึ้น บางคนไอมากจนนอนไม่ได้ บางคนตาแดง บางคนเชื้อไรโนไวรัสเล่นงานทางเดินหายใจส่วนล่างลงหลอดลมและลงปอด ทำให้เกิดปอดอักเสบได้

ผู้ป่วยหญิงอายุ 90 ปี มีไข้ น้ำมูก เจ็บคอ ไอมาก มีเสมหะ 5 วัน ไม่เหนื่อย อยู่ใกล้ชิดกับลูกชายอายุ 70 ปี ป่วยเป็นไข้หวัด ผู้ป่วยมีโรคประจำตัว ความดัน ไขมัน โรคไตเสื่อม ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่

ตรวจร่างกาย อุณหภูมิ 38 องศาเซลเซียส ระดับออกซิเจนปกติ 96% ฟังปอดปกติ ส่งตรวจรหัสพันธุกรรม 22 สายพันธุ์ พบเชื้อไรโนไวรัส (Rhinovirus) เพียงตัวเดียวเอกซเรย์ปอดพบฝ้าขาวที่ปอดด้านขวาล่าง (รูปวันที่ 4 มี.ค.2567) เจาะเลือด เม็ดเลือดขาวปกติ ส่งเพาะเชื้อในเลือดไม่ขึ้นเชื้อแบคทีเรีย

ที่มา : หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC

ที่มา : หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC

ที่มา : หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC

วินิจฉัย : ปอดอักเสบจากเชื้อไรโนไวรัส (Rhinovirus) ให้ยาสเตียรอยด์ขนาดต่ำๆ 5 วัน ผู้ป่วยดีขึ้น ไม่มีน้ำมูก ไม่เจ็บคอ ไม่มีไข้ ไอลดลง เอกซเรย์ปอดฝ้าขาวลดลง (รูปวันที่ 8 มี.ค.2567) นอนในโรงพยาบาลทั้งหมด 5 วัน ติดตามหลังจากออกจากรพ. 5 วัน ไอน้อยลงมาก เอกซเรย์ปอดฝ้าขาวด้านขวาล่างลดลงอีก (รูปวันที่ 13 มี.ค.2567)

นอกจากนี้ นพ.มนูญ ยังเผยแพร่ข้อมูลระบาดวิทยา ในเดือน ก.พ.2567 ที่ผ่านมา ข้อมูลของ รพ.วิชัยยุทธ พบว่า

  • ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดลดลงเหลือ 235 ราย
  • ผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่เดือนที่แล้วลดลงเหลือ 145 ราย
  • เชื้อไรโนไวรัส (Rhinovirus) พบ 17 ราย
  • เชื้อฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัส (hMPV) ลดลงเหลือ 10 ราย
  • เชื้ออาร์เอสวี (RSV) ลดลงเหลือ 4 ราย
  • โรคไข้เลือดออกที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี่ลดลงเหลือ 13 ราย
  • ไม่พบโรคชิคุนกุนยาหรือไข้ปวดข้อยุงลาย
  • โรคไวรัสโนโร (Noro) และโรตา (Rota) ทำให้เกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรงทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ เดือน ก.พ. พบโนโรไวรัสยังสูง 29 ราย พบโรตาไวรัส 2 ราย 

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไข้หวัดใหญ่ ไรโนไวรัส ไข้เลือดออก และโนโรไวรัสยังมีต่อเนื่อง ไวรัสโควิด-19 ยังแซงหน้าไวรัสไข้หวัดใหญ่ ส่วนไวรัส hMPV และ RSV ลดลงต่อเนื่อง

ช่วงนี้แนะนำคนทั่วไป ยกเว้นบุคลากรทางการแพทย์ หากป่วยด้วยโรคโควิด-19 ถ้าไม่มีไข้ 1 วัน โดยไม่ได้กินยาลดไข้ อาการดีขึ้นมากหรือไม่มีอาการเลย สามารถออกนอกบ้าน ไปทำงาน ไปเรียนหนังสือได้ ไม่จำเป็นต้องกักตัว 5 วัน แต่ยังต้องใส่หน้ากากอนามัยต่ออีก 5 วัน หมั่นล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง เวลามือเปื้อนน้ำมูก ละอองเสมหะ เพื่อลดการแพร่เชื้อโรคไวรัสทางเดินหายใจให้ผู้อื่น

บุคลากรทางการแพทย์ยังต้องหยุดงานกักตัวที่บ้านอย่างน้อย 5 วัน คนทั่วไปควรใส่หน้ากากอนามัยเวลาอยู่ในสถานที่แออัดอากาศถ่ายเทไม่ดี และในสถานพยาบาล

อ่านข่าวอื่น :

"จตุพร" มอง "ทักษิณ" กลับเชียงใหม่ หวังปลุกคะแนนเพื่อไทย

ททท.ชี้สัญญาณบวก "วีซาฟรี" กระตุ้นจีนเที่ยวไทยเพิ่ม 3 เท่า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง