ตร.เตือนสายซิ่ง "ขี่ยกล้อ" เจอโทษหนักจำคุก-ริบรถ

อาชญากรรม
2 เม.ย. 67
07:38
259
Logo Thai PBS
ตร.เตือนสายซิ่ง "ขี่ยกล้อ" เจอโทษหนักจำคุก-ริบรถ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ผู้ช่วย ผบ.ตร. กำชับตำรวจเข้มงวดดำเนินคดีผู้ขับขี่ยกล้อ ประมาทหวาดเสียว ย้ำมีโทษหนัก เคสล่าสุดถูกศาลพิพากษา จำคุก 4 เดือน ริบรถจักรยานยนต์ของกลาง ไม่รอลงอาญา

วันที่ 1 เม.ย.2567 เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานป้องกันและปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของผู้อื่น แข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องของ ตร. เปิดถึงกรณีจับกุมดำเนินคดีกับเจ้าของเพจ "ทศวรรษ..." ขับขี่รถจักรยานยนต์โชว์ยกล้อ เป็นกระแสในโซเชียลมีเดีย ถูกศาลพิพากษา จำคุก 4 เดือน ริบรถจักรยานยนต์ของกลาง ไม่รอลงอาญา

ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ปรากฏภาพจากเพจเฟซบุ๊กของ "ทศวรรษ..." ต่อมาคณะทำงานได้สืบสวนข้อมูลพิสูจน์ทราบได้ว่า คือ นายทศวรรษ ขอสงวนนามสกุล ขับขี่รถจักรยานยนต์ในลักษณะยกล้อ บริเวณหน้าปั๊มบางจาก ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี พร้อมข้อความ “มะกี้ล้อหน้าโดนหัวใครขอโทษด้วยนะครับ” คณะทำงานฯ จึงได้มีการบูรณาการร่วมกับ ภ.จว.สระบุรี โดย พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี และ พ.ต.อ.สุริยะ สุดกังวาล ผกก.สภ.เมืองสระบุรี ท้องที่เกิดเหตุ

สืบสวนสอบสวนจนติดตามนำตัวนายทศวรรษ เจ้าของเพจเฟซบุ๊กที่โพสต์คลิปวีดีโอดังกล่าว จากการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่ในคลิปวิดีโอนั้น เป็นของนายไก่ ซึ่งนายทศวรรษฯ ได้ยืมมาขับขี่ก่อเหตุดังกล่าว จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และนำตัวส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดสระบุรีในข้อหาขับขี่รถในลักษณะที่ผิดปกติวิสัยฯ, ขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยฯ ต่อมาศาลมีคำพิพากษาลงโทษ จำคุก 6 เดือน ประกอบกับโทษคดีเก่า ในคดียาเสพติดอีก 2 เดือน รวม 8 เดือน รับโทษลดกึ่งหนึ่งคงจำคุก 4 เดือน ริบของกลางรถจักรยานยนต์ ไม่รอลงอาญา

ตร.วางแนวทางการดำเนินคดีอย่างเข้มงวดในกรณีขับขี่ยกล้อ ประมาทหวาดเสียว โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินทั้งของตนเองและผู้อื่น

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง กรณีพบการโพสต์ชักชวน เชิญชวน บนสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ และการรวมตัวบนท้องถนน สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง