“ชาวจีน” มาแรง ลงทุนห้องชุด ขนเงินเข้าไทยกว่า 3.4 หมื่นล้านบาท

เศรษฐกิจ
4 เม.ย. 67
15:00
360
Logo Thai PBS
“ชาวจีน” มาแรง ลงทุนห้องชุด  ขนเงินเข้าไทยกว่า 3.4 หมื่นล้านบาท
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
รายงานพิเศษ: นักลงทุนต่างชาติ แห่ซื้อห้องชุด จีน -รัสเซีย-สหรัฐ -เมียนมา ขนเงินเข้าไทยกว่า 7 หมื่นล้านบาท ชลบุรี ทำเลทองแซงกทม. เหตุแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ใกล้เมืองหลวง ภูเก็ต เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ หายใจรดต้นคอ มั่นใจปี2567 ตลาดอสังหาฯยังโตต่อเนื่อง

ประเทศไทยจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เดินทางมา ทั้งแบบท่องเที่ยวและเป็นบ้านหลังที่สอง  ยิ่งรัฐบาลมีมาตรการ วีซาฟรี ให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างโอกาสในการซื้อห้องชุดของคนต่างชาติเพิ่มขึ้น ทั้งเพื่อการลงทุนและอยู่อาศัย รวมถึงปัจจัยความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลให้มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในไทยมากขึ้นตลอดช่วงปีที่ผ่านมา

ปี2566 พบว่า มีการซื้อห้องชุดของชาวต่างชาติที่มีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ 14,449 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.0 หรือมีมูลค่า 73,161 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.5 ซึ่งสูงกว่าช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด19 แสดงให้เห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยยังคงเป็นที่ต้องการของชาวต่างชาติ

ชาวจีน ยังครองแชมป์ซื้อห้องชุดมากสุด

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ชาวจีนเป็นกลุ่มที่ซื้อห้องชุดมากที่สุดถึง 6,614 หน่วย มูลค่า 34,132 ล้านบาท

รองลงมา คือ รัสเซีย จำนวน 1,260 หน่วย มูลค่า 4,455 ล้านบาท , สหรัฐฯจำนวน 631 หน่วย มูลค่า 3,227 ล้านบาท , เมียนมา จำนวน 564 หน่วย มูลค่า 3,707 ล้านบาท และไต้หวัน จำนวน 532 หน่วย 2,908 ล้านบาท โดยราคาห้องชุดไม่เกิน 3 ล้านบาท และขนาดห้อง 31-60 ตร.ม. เป็นที่นิยมมากสุด

ปี2566 ต่างชาติโอนห้องชุดสูงถึง 3.6 พันหน่วยต่อไตรมาส

สำหรับสัดส่วนการซื้อห้องชุดของคนต่างชาติมีการปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.4 เมื่อเทียบกับการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั้งระบบ เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 หรือเฉลี่ยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 3,600 หน่วยต่อไตรมาส

จำนวนหน่วยใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ที่มีจำนวนอยู่ที่ประมาณ 3,300 หน่วยต่อไตรมาส แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะที่ดีและเริ่มเป็นปกติแล้ว

“ชลบุรี” ทำเลทอง ต่างชาติแห่ซื้อ

ปี 2566 มีการหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ของคนต่างชาติจำนวน 14,449 หน่วย มูลค่า 73,161 ล้านบาท โดย ชลบุรี มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากเป็นอันดับ 1 ถึงร้อยละ 41.1 รองลงมาเป็น กรุงเทพฯ มีสัดส่วนร้อยละ 38.0 ของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ

นายวิชัย กล่าวว่า ผู้ซื้อสัญชาติจีนยังคงเป็นกลุ่มที่มีหน่วยและมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดต่างชาติมาเป็นอันดับ 1 รองลงมาเป็น รัสเซีย สหรัฐฯ ขณะที่ผู้ซื้อจากพม่า มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด ร้อยละ 5.1

ประเด็นที่น่าสนใจพม่ายังคงมีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดที่มีราคาเฉลี่ยต่อหน่วยสูงสุดที่ 6.6 ล้านบาท ในขณะที่สหราชอาณาจักรมีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดขนาดเฉลี่ยใหญ่สุดอยู่ที่ 56.5 ตร.ม.

อย่างไรก็ตามหากสังเกตุจะพบว่า ไตรมาส 4 ปี 2566 สัดส่วนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติ เพิ่มสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนแสดงให้เห็นว่า ชาวต่างชาติเป็นกลุ่มผู้ซื้อที่มีการซื้อห้องชุดที่มีราคาสูงขึ้นกว่าช่วงปีก่อนหน้า แม้ว่ามูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดกลับลดลงจากช่วงเดียวกัน

ห้องชุดมือสองมาแรงย่านศูนย์กลางธุรกิจ

นายวิชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของการซื้อห้องชุดมือสอง พบว่า ยังเป็นที่ต้องการของต่างชาติ โดยเฉพาะทำเลพื้นที่ชั้นใน หรือ พื้นที่ใกล้ศูนย์กลางธุรกิจ เนื่องจากราคาของห้องชุดมือสองในทำเลในเมือง มีราคาที่ต่ำกว่าโครงการเปิดใหม่ในทำเลเดียวกัน  

ดังนั้น ห้องชุดมือสองจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ซื้อชาวจีน ที่ต้องการซื้อเพื่อการลงทุนและเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย

ราคาต้องไม่เกิน 3 ล้านขายดีสุด

สำหรับราคาห้องชุดที่เป็นที่นิยมของคนต่างชาติ พบว่า ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท มีการโอนจำนวน 1,849 หน่วย หรือร้อยละ 49.4 ของจำนวนหน่วยทั้งหมด ซึ่งเป็นระดับราคาที่ชาวต่างชาติใหญ่นิยม 

รองลงมาคือ ราคา 3.01 – 5 ล้านบาท มีจำนวน 880 หน่วย,ราคา 5.01 - 7.50 ล้านบาท มีจำนวน 458 หน่วย ,ราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป มีจำนวน 355 หน่วย และราคา 7.51 - 10 ล้านบาท จำนวน 204 หน่วย

ส่วนขนาดพื้นที่ห้องชุดที่เป็นที่นิยมของคนต่างชาติ คือ พื้นที่ 31 - 60 ตร.ม. (ประเภท 1 - 2 ห้องนอน) รองลงมา คือ ขนาดพื้นที่ไม่เกิน 30 ตร.ม. (สตูดิโอ หรือ 1 ห้องนอน) ถัดมาคือ ห้องชุดขนาดพื้นที่ 61 - 100 ตร.ม. (2 - 3 ห้องนอนขึ้นไป)  และขนาดพื้นที่มากกว่า 100 ตร.ม. (3 ห้องนอนขึ้นไป) 

 ปี2566 “เมียนมา” ติดโผ 1 ใน 5 ผู้ซื้อห้องชุดมากที่สุด

สำหรับต่างชาติที่เข้ามาซื้ออสังหาฯสะสมสูงสุด ตั้งแต่ ปี 2561-2565 ได้แก่ จีน รัสเซีย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และ ฝรั่งเศส และปี 2566 กลับพบว่าสัดส่วนมีการเปลี่ยนแปลง โดย พบว่า เมียนมา มีมูลค่าการโอนต่อหน่วยสูงสุด เฉลี่ย 6.6 ล้านบาท

ขณะที่สหราชอาณาจักรเป็นสัญชาติที่โอนห้องชุดขนาดใหญ่ที่สุดเฉลี่ย 56.5 ตร.ม. ส่วนชาวชาวจีนมีสัดส่วนการโอนห้องชุดมากที่สุด เฉลี่ย 5.2 ล้านบาทต่อหน่วย และพื้นที่ห้องชุดเฉลี่ย 39.5 ตร.ม.

สำหรับจังหวัดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคนต่างชาติสูงสุด ปี 2566 พบว่า 5 อันดับแรก ได้แก่ ชลบุรี กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต และสมุทรปราการ  และส่วนใหญ่อยู่ใน 2 จังหวัดแรก คือ ชลบุรี มีจำนวน 5,935 หน่วย มูลค่า 18,221 ล้านบาทและกรุงเทพฯ จำนวน 5,484 หน่วย มูลค่า 44,250 ล้านบาท ส่วนอันดับรองลงมาเป็นจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ ภูเก็ตและเชียงใหม่ เป็นต้น

อย่างไรก็ตามจากการประมวลภาพของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั้งหมด ทำให้เห็นได้ว่า ปริมาณมิติของจำนวนหน่วย และมูลค่า รวมถึงพื้นที่ เริ่มกลับมาฟื้นตัว แต่มีข้อสังเกตุว่า ตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์เป็นสิ่งสะท้อนการซื้อขายส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และแสดงให้เห็นว่าการซื้อขายห้องชุดของคนต่างชาติในช่วงที่ผ่านมาได้มีการโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นเชื่อว่าปี2567 การซื้ออสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะห้องชุดในจังหวัดท่องเที่ยว และทำเลเมืองยังคงเป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่อง 

 

อ่านข่าวอื่นๆ:

เศรษฐกิจโตต่ำ กกร.คงเป้า GDP ไทย จี้รัฐบาลรับมือ เร่งเบิกจ่ายงบ

เศรษฐกิจไทยฟื้น นักธุรกิจยื่นจดทะเบียนเปิดบริษัทใหม่ 2.5 หมื่นราย

พุ่งติดจรวด ! ราคาทองเหลืออีก 250 บาท ทะลุบาทละ 40,000

ข่าวที่เกี่ยวข้อง