แกะรอย มหกรรมโชว์กินข้าว 10 ปี กินได้จริงหรือ? ฤาหาทางลง

เศรษฐกิจ
7 พ.ค. 67
18:29
2,758
Logo Thai PBS
แกะรอย มหกรรมโชว์กินข้าว 10 ปี กินได้จริงหรือ? ฤาหาทางลง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

กองข้าวที่ตั้งสูงเรียงรายจรดเพดาน กลิ่นสาปของกระสอบข้าวที่ลอยปะทะจมูกผสมกับกลิ่นข้าวเก่าในคลังเก็บข้าว หลังจากที่เจ้าหน้า 3 ฝ่าย ประกอบด้วย เอกชนเจ้าของโกดัง พาณิชย์จังหวัดและเจ้าหน้าที่ อคส. พร้อมกันไขกุญแจ 3 ดอกที่ล็อกปะตูโกดังไว้ 2 แห่ง ที่ จ.สุรินทร์ คือโกดังคลังกิตติชัย(หลัง 2) อ.ปราสาท และที่ บจก.พูนผลเทรดดิ้ง (หลัง 4) ต.เฉลียง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ ในสต็อกของรัฐบาล ตามโครงการรับจำนำ สมัย “รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”

ข้าวโกดังคลังกิตติชัย(หลัง 2)  อ.ปราสาท

ข้าวโกดังคลังกิตติชัย(หลัง 2) อ.ปราสาท

ข้าวโกดังคลังกิตติชัย(หลัง 2) อ.ปราสาท

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์พาสื่อคณะใหญ่และผู้ประกอบการ ทั้งโรงสี ผู้ส่งออกและ เซอร์เวย์เยอร์ เข้าร่วมตรวจสอบและพิสูจน์ว่าข้าว 10 ปีกินได้ เมื่อวันที่ 6 พ.ค.2567 และมีการหุงข้าวและโชว์กินข้าวให้สังคมได้ดูว่า ข้าว อายุ 10 ปี สามารถกินได้ปกติ ถือว่าเป็นการโชว์กินที่ฟาดหน้าผู้ที่ออกมาคัดค้านว่าข้าว 10 ปีกินไม่ได้ก่อนหน้านี้

กลิ่นหอมอาจจะอ่อนไปนิดแต่ความนุ่มนวลใช้ได้ ผู้ส่งออกข้าวมีความเห็นตรงกันว่า คุณภาพและรสชาติยังใช้ได้ไม่มีแมลงเจาะ หากนำไปขัดเพิ่มเชื่อว่าตลาดส่งออกยอมรับได้

หากดูทางกายภาพ พบว่า เมล็ดข้าวยังมีจมูกข้าว สวยงาม สีสันอาจมีความเหลืองมากขึ้นซึ่งเป็นธรรมชาติของข้าวอายุ 10 ปี แต่เมื่อลองสัมผัสพบว่ากองข้าวมีผงฝุ่นที่เกิดจากย่อยสลายของผิวข้าวและถูกมอดกินข้าว แต่โดยรวมกองข้าวทั้งหมดยังอยู่ในคุณภาพดี จึงต้องยอมรับว่าข้าวของโกดังทั้ง 2 แห่ง ดูแลรักษากองข้าวได้เป็นอย่างดี

ข้าวหอมมะลิที่รอการหุงและกินโชว์

ข้าวหอมมะลิที่รอการหุงและกินโชว์

ข้าวหอมมะลิที่รอการหุงและกินโชว์

เจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าว เข้าไปตรวจสอบกองข้าวในโกดังที่ 1

เจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าว เข้าไปตรวจสอบกองข้าวในโกดังที่ 1

เจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าว เข้าไปตรวจสอบกองข้าวในโกดังที่ 1

อ่านข่าว:

"สมชัย" แนะตรวจสอบคุณภาพข้าว 10 ปี สร้างความมั่นใจก่อนขาย

"ภูมิธรรม" ขนทัพสื่อ-ผู้ส่งออก บุกโกดังข้าว 10 ปี ยันกินได้

นายภูมิธรรม กล่าวว่า รัฐบาลกำลังมาเคลียร์เอาเงินเข้ารัฐคาดว่าจะได้เงินประมาณ 200-400 ล้านบาท กลับเข้ามาโดยไม่หักค่าใช้จ่าย ซึ่งต้องมาจ่ายคืนค่าเช่าค่าใช้จ่ายอื่นคืนเข้ารัฐ และไม่มีการจัดฉากตามที่มีคนตั้งข้อสังเหตุ

ข้าวจริงๆ 5 ปีก็เน่าแล้ว ซึ่งข้าว 5 ปี หรือ 2 ปีก็เน่าได้ ถ้าไม่เก็บรักษาอย่างดี แต่ที่เห็นมีการเข้าออกอย่างเคร่งครัดไม่มีน้ำรั่วที่ทำให้ข้าวเสียหาย มีการรมยาทุก 2 เดือน วันนี้ได้พาพิสูจน์ให้สิ้นข้อสงสัยว่าข้าว 10 ปียังสามารถหุง มีกลิ่น มีคุณภาพดีอยู่

เล็งเปิดประมูลพ.ค.นี้ราคากลาง 18 บาท/กก.

นายภูมิธรรมกล่าวว่า ข้าวทั้ง 2โกดัง ประมาณ 150,000 กระสอบ จะเปิดปะมูลเป็นการทั่วไปในเดือนพ.ค.นี้ คาดว่าราคากลางจะอยู่ที่ 18 บาท/กก. ซึ่งราคาประมูลจะมากน้อยอยู่ที่กระบวนการ โดยจะป้องกันไม่ให้มีการละทิ้งข้าว คาดว่าจะจัดอันดับผู้ประมูลอันดับ 1-5 และมีมาตรการที่เข้มข้นหากประมูลไปแล้วไม่สามารถเอาไปได้จะมีการปรับและเลื่อนลำดับอื่นขึ้นมา โดยให้คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเสนอให้ชัดเจน ซึ่งข้าว 2 โกดังนี้เป็นข้าว 2 โกดังสุดท้ายของโครงการรับจำนำข้าว ตั้งแต่ปี 2556/57 ร่วม 10 ปี ที่เข้าสู่โครงการจำนำข้าวในช่วงนั้น

ข้อมูลจากองค์การคลังสินค้า(อคส.) ระบุว่า โครงการรับจำนำฯปี 2556/57 จ.สุรินทร์ 1.คลังกิตติชัย หลัง 2 (ข้าวหอมมะลิ 100%) รับมอบข้าวสารตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. ถึง 10 มี.ค. 2557 เก็บข้าวแล้ว 10 ปี 2 เดือน รวมปริมาณทั้งสิ้น 26,094 ตัน หรือ 258,106 กระสอบจาก 24 โรงสี และได้มีการระบายข้าวสารแล้ว 3 ครั้ง คงเหลือ 11,656 ตัน หรือ 112,711 กระสอบ

2.คลัง บจก.พูนผลเทรดดิ้ง หลัง 4 (ข้าวหอมมะลิ 100%) รับมอบข้าวสารตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. ถึง 29 เม.ย. 2557 เก็บข้าวแล้ว 10 ปี 7 วัน มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 9,567 ตัน หรือ 94,637 กระสอบ จาก 6 โรงสี ซึ่งระบายข้าวสารแล้ว 4 ครั้ง คงเหลือ 3,356 ตัน หรือ 32,879 กระสอบ

คนงานกำลังฉ่ำข้าวโดยใช้เหล็กแหลมแทงลงไปในกระสอบข้าว เพื่อนำตัวอย่างข้าวออกมาหุง

คนงานกำลังฉ่ำข้าวโดยใช้เหล็กแหลมแทงลงไปในกระสอบข้าว เพื่อนำตัวอย่างข้าวออกมาหุง

คนงานกำลังฉ่ำข้าวโดยใช้เหล็กแหลมแทงลงไปในกระสอบข้าว เพื่อนำตัวอย่างข้าวออกมาหุง

ข้าวสารหอมมะลิ อายุ 10 ปี

ข้าวสารหอมมะลิ อายุ 10 ปี

ข้าวสารหอมมะลิ อายุ 10 ปี

ผู้ส่งออกสนใจร่วมประมูล ทั้ง 2 คลัง

นายศุภชัย วรอภิญญาภรณ์ ผู้แทนจากบริษัท ธนสรร ไรซ์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ กล่าวว่า หลังจากที่ได้เห็นข้าวทั้ง 2โกดัง ก็พร้อมที่จะเข้าร่วมประมูล ทั้ง 2 โกดัง เพราะข้าวยังมีคุณภาพที่สามารถนำไปปรับปรุงได้ โดยมีตลาดรองรับแล้ว คือ ตลาด แอฟริกาซึ่งเป็นตลาดข้าวเก่า และบางส่วนอาจจะจำหน่ายในประเทศแถบภาคใต้เพราะมีกลุ่มคนที่รับประทานข้าวเก่าแต่ต้องผ่านกระบวนการปรับปรุงก่อน

ราคาน่าจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 15 บาทขึ้นไปจนถึง 20 บาท แต่จะต้องดูว่ากองข้าวโดยรวมเป็นอย่างไร และต้องนำไปทดสอบทางกายภาพดูว่าจะสามารถนำไปทำอะไรได้บ้าง ส่วนหนึ่งจะนำไปขายบริโภคภายใน แต่จะเป็นประมูลการเหมาจำนวนทั้งหมด

สำหรับค่าปรับปรุงคุณภาพข้าวเก่าค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงที่เคยทำมาอยู่ที่ ตันละไม่เกิน 300-400 บาท  นายศุภชัย กล่าวอีกว่า ข้าวที่เคยประมูลมาเก่าสุดมีอายุ 7 ปี แต่ครั้งนี้มีบริษัทตรวจคุณภาพข้าวที่ได้รับการรับรอง เข้ามาตรวจสอบ แล้วพบว่าข้าวคุณภาพดี จึงมั่นใจว่าข้าวล็อตนี้ขายได้แน่นอน

เช่นเดียวกับ ผู้แทนจากบริษัท นครหลวงค้าข้าว จำกัด เบอร์ 2 ผู้ส่งออกข้าวของไทย กล่าวว่า จากที่ดูกองข้าวทั้ง 2 โกดัง คุณภาพที่เห็นถือว่าใช้ได้ เจ้าของคลังมีการดูแลข้าวดี ซึ่งบริษัทสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลแต่จะเป็นข้าว สำหรับบริโภคทั้งหมดหรือไม่ต้องทดสอบหลังการประมูลว่าจะได้ข้าวทั้ง 2คลังหรือไม่ เบื้องต้นน่าจะส่งออกไปตลาดแอฟริกาใต้

เจ้าของคลังวอนรัฐเร่งประมูล ชี้เสียโอกาสกว่า 100 ล้าน

น.ส.ทิชาภา อ่าวพัฒนา เจ้าของโกดังกิตติชัย กล่าวว่า เดิมทำเป็นโกดังให้เช่า เก็บสินค้าประเภทวัสดุก่อสร้าง มีรายได้เฉลี่ยประมาณเดือนละ 1 ล้านบาท หลังจากมีโครงการรับจำนำมองเห็นโอกาสที่จะสร้างรายได้ จึงเข้าร่วมโครงการในการเปิดคลังให้เช่า ในช่วงแรกไม่มีปัญหาเรื่องการค้างค่าเช่าขององค์การคลังสินค้า(อคส.)มีการจ่ายค่าเช่าตามปกติ

หลังจากนั้นมีการเปิดประมูล 3 ครั้งเริ่มมีปัญหาผู้ชนะการประมูลไม่มาขนย้ายข้าว ทำให้มีการทิ้งสัญญา ข้าวไม่สามารถขนย้ายได้เกิดการฟ้องร้องระหว่างผู้ประกอบการกับอคส. ซึ่งมูลค่าที่อคส.ค้างค่าเช่า 60 ล้านบาท นับตั้งแต่ปี2557 รวมระยะเวลา 10 ปี และถูกยึดแบงก์การันตีอีก 40 ล้านบาท โดยขณะเรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด

“นอกจากเสียโอกาสแล้วยังติดแบล็กลิสกับสถาบันการเงินอีก คลังเสียโอกาสในการสร้างรายได้มหาศาล เฉลี่ยเดือนละ 750,000 บาท และยังมีรายจ่ายค่าร่วมยา เดือนละ100,000บาท ค่าเช่าเดือนละ 200,000 บาทที่อคส. ค้างจนถึงทุกวันนี้ เมื่อมีข้าวค้างอยู่ในโกดังพื้นที่ว่างที่เหลือเราไม่สามารถเปิดให้คนอื่นเช่าได้ ทำเราเสียรายได้ส่วนนี้ไป”

เจ้าของคลังกิตติชัย กล่าวอีกว่า อยากให้รัฐบาลเร่งเปิดประมูลโดยเร็ว เพราะต้องการนำพื้นที่คลังไปเปิดเช่าให้กับคนอื่นต่อ เนื่องจากมีคนสนใจที่จะเช่าโกดังหลายรายแต่ก็ทำไม่ได้เพราะมีข้าวอยู่ในคลัง นอกจากนี้ยังต้องการให้กระทรวงพาณิชย์เร่งเคลียร์แบงก์การันตีที่ทางธนาคารยึดไป 40 ล้านบาท บวก ดอกเบี้ย คืนให้กับเจ้าของคลังโดยเร็ว ซึ่งมีเจ้าของคลังกว่า 100 รายที่ร้องเรียนอคส.ให้เร่งคืนแบงก์การันตี

อ่านข่าว:

"สารรมควัน" ในเมล็ดข้าวสาร "ไม่เสื่อมสภาพ ตกค้าง ล้างไม่ออก"

บาทอ่อนดันส่งออก “หอมมะลิไทย” 3 เดือน พุ่ง 40.4%

กระสอบข้าวในโกดังคลังกิตติชัย(หลัง 2)  อ.ปราสาท

กระสอบข้าวในโกดังคลังกิตติชัย(หลัง 2) อ.ปราสาท

กระสอบข้าวในโกดังคลังกิตติชัย(หลัง 2) อ.ปราสาท

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ โชว์กินข้าวต่อหน้าสื่อมวลชนและผู้ประกอบการ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ โชว์กินข้าวต่อหน้าสื่อมวลชนและผู้ประกอบการ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ โชว์กินข้าวต่อหน้าสื่อมวลชนและผู้ประกอบการ

"คนวงการข้าว" วิเคราะห์ปูทาง "ยิ่งลักษณ์" กลับไทย

แหล่งข่าวผู้ประกอบการในวงการโรงสี เปิดเผยกับ “ไทยพีบีเอสออนไลน์” ว่า การที่รัฐบาลออกมาโชว์กินข้าวที่อยู่ในโกดัง 10 ปี ในมุมมองของผู้ที่อยูในอุตสาหกรรมข้าวมายาวนานกว่า 80 ปี ได้เห็นวัฎจักรของการค้าข้าวที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย มองว่าเป็นการจัดฉากแก้ต่างให้กับรัฐบาลในอดีต เพราะการโชว์หุงข้าว กินข้าวโชว์เป้าหมาย คืออะไร ทำไมต้องทำออกสื่อให้โด่งดัง เพราะถ้าต้องการตรวจสอบทุจริตจริง ๆ หรือจะตรวจสอบคุณภาพข้าวว่าดีหรือไม่ สามารถทำได้ในรูปแบบคณะกรรมการตรวจสอบซึ่งมีอยู่แล้ว

“ผมคิดว่าเป็นเรื่องของการเมืองที่จะแก้ต่างให้กับตัวเองในอดีต และโยนความผิดให้กับรัฐบาลชุดก่อน เรื่องพวกนี้ลึกซึ้งเกินกว่าที่คนทั่วไปจะเข้าใจ ต้องคนในวงการที่ติดตามเรื่องนี้ และทราบว่า การทำแบบนี้ คือ เป้าหมายของรัฐบาล เหมือนเคลียร์ทางให้อดีต นายกยิ่งลักษณ์กลับมาอย่างโปร่งใส หรือมีความผิดน้อยลงอย่างอดีตนายกทักษิณที่กลับมา เป็นการเคลียร์คดีเก่าที่ติดค้างให้หมดไป”

แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า การที่รองนายกและรมว.พาณิชย์โชว์กินข้าวในครั้งนี้ มองอื่นใดไปไม่ได้นอกจากเรื่องการเมือง ที่ต้องการทำให้เห็นว่า การที่รัฐบาลชุดก่อน เมื่อ 4-5 ปี ที่ขายข้าวเป็นอาหารสัตว์ในกิโลกรัมละ 2 บาทกว่า ซึ่งรัฐบาลชุดก่อนก็มีเป้าหมายทางการเมืองเช่นกัน

ต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย รัฐบาลชุดก่อนขายข้าวในคลังไปกิโลกรัมละ 2-3 บาท เป็นอาหารสัตว์ เพื่อแสดงให้เห็นภาพความเสียหายมหาศาลของข้าวในโกดัง และรัฐบาลปัจจุบันก็พยายามจะแก้ต่างว่า ข้าว 10 ปียังหุงกินได้ และที่ 4-5ปี ทำไมถึงขายเป็นอาหารสัตว์ มันเป็นการจัดฉากกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือเปล่า? ซึ่งเขาก็พยายามให้ภาพออกมาแบบนั้น

แหล่งข่าววิเคราะห์อีกว่า ถ้าเราเป็นผู้ที่มีความคิด ไม่ใช่ชาวบ้านตาดำๆ การโชว์กินข้าวครั้งนี้ อยากให้สังคมมองว่า ขนาดข้าว 10 ปี ยังหุงกินได้ เพื่อให้คนคิดว่าแล้วทำไมข้าวเมื่อ 4-5 ปีก่อนถึงเอาไปขายเป็นอาหารสัตว์ในราคากิโลกรัม 2-3 บาท และจัดฉากว่าเป็นข้าวเน่าต้องขายอาหารสัตว์เท่านั้น เป็นการจัดฉากกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือไม่ ?

ข้าวหอมมะลิสุกจากโครงการรับจำนำข้าว 10 ปี

ข้าวหอมมะลิสุกจากโครงการรับจำนำข้าว 10 ปี

ข้าวหอมมะลิสุกจากโครงการรับจำนำข้าว 10 ปี

ข้ามหอมมะลิ 10 ปีที่หุงรับประทานกับไข่เจียวกับกระเพราะหมูสับ

ข้ามหอมมะลิ 10 ปีที่หุงรับประทานกับไข่เจียวกับกระเพราะหมูสับ

ข้ามหอมมะลิ 10 ปีที่หุงรับประทานกับไข่เจียวกับกระเพราะหมูสับ

ฟาด"โครงการรับจำนำ"ทำอุตสาหกรรมข้าวพัง

อย่างไรก็ตามในส่วนของข้าว 2 โกดัง ที่เก็บมาตั้งแต่ปี 2557 ระยะเวลา 10 ปี หากนำมาประมูลราคาน่าจะ 16-18 บาทไม่เกิน 20บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งอย่าไปมองว่าเป็นข้าวไม่ดี เพราะถ้ามองย้อนกลับไป ช่วง 5-6 ปีที่รัฐบาลชุดเก่านำข้าวออกมาขายเป็นอาหารสัตว์ ราคาข้าวสารในตลาดถูกกดทับด้วยข้าวในโกดังที่มี 10-20 ล้านตัน และหลังหมดโครงการรับจำนำก็ยังมีข้าวในสต็อกค้างอยู่กลายเป็นตัวกดดันราคาข้าวในประเทศ

แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่า ข้าวที่ประมูลไปไม่ได้เป็นข้าวคุณภาพดี 100 % แต่เป็นข้าวเกรดคุณภาพ 50-60 % ที่ผ่านการปรับปรุงแล้วเอาไปผสมกับข้าวใหม่ในอัตราส่วนน้อย ๆ หลังจากนั้นก็นำมาขายทำกำไร และข้าวที่ประมูลมากิโลกรัมละ 2-3 บาทช่วงนั้น ใช้ครึ่งทิ้งครึ่งยังมีกำไรมหาศาล ไม่มีใครเอาไปทำอาหารสัตว์ แม้ตอนขนย้ายมีการติดจีพีเอสควบคุมการขนย้ายแต่เมื่อไปถึงโรงงาน เทกองไว้ รอการตรวจสอบ หลังจากนั้นก็ไม่มีใครรู้ว่าข้าวได้ขนไปผลิตอาหารสัตว์จริงหรือไม่

ที่พูดได้ เนื่องจากโรงสีได้รับผลกระทบรุนแรงจากโครงการรับจำนำ เพราะเมื่อรัฐบาลเอาข้าวมาประมูลกิโลกรัมละ 2.50 บาทก็กระทบต่อข้าวที่สีออกไปขาย การโชว์กินข้าวก็เพื่อจัดฉากแสดงให้สังคมเห็นว่า ขนาดข้าวในโกดัง 10 ปี ยังขายได้ราคาดี 16-17 บาท แต่ที่ผ่านมาการขายข้าวขาดทุนเพราะพวกคุณทำให้มันขาดทุนเอง แล้วเอามาป้ายสีใส่คนอื่น

อย่างไรตามสิ่งที่วิเคราะห์ คือ ความคิดความเห็นส่วนตัว รัฐบาลสามารถโต้แย้งได้ แต่ถามว่าข้าวไม่ถึงแสนตัน ทำไมรัฐบาลชุดนี้ถึงทำให้ดูเป็นเรื่องใหญ่ พยายามทำสื่อหลายครั้งลงพื้นที่หุงข้าวกินโชว์ พยายามให้คนมองว่าข้าว 10 ปีมันกินได้

ถ้าต้องการเคลียร์ปัญหาให้กับเจ้าของโกดัง ทำไมไม่ไปสู้กันที่ศาล ทำไมต้องมาทำออกสื่อแบบนี้ ทุกอย่างอยู่ที่ศาล มีการฟ้องร้องอยู่ทำไมไม่เอาหลักฐานไปพิสูจน์ในศาล ผมคิดว่านักการเมืองกำลังใช้ผู้ประกอบการเป็นเครื่องมือ ในการดิสเครดิต รัฐบาลชุดก่อนและแก้ต่างให้กับตัวเอง เขาหวังผลตรงนั้นมากกว่า นักการเมืองทำอะไรต้องมีเบื้องหลักซ่อนเร้นอยู่แน่นอน ไม่มีทางทำโดยบริสุทธิใจกับเรื่องเล็ก ๆแบนนี้

เจ้าหน้าที่นำข้าวหอมมะลิที่จะหุงไปซาวในน้ำเพื่อล้างสิ่งสกปกรก จำนวน  8-15 ครั้ง

เจ้าหน้าที่นำข้าวหอมมะลิที่จะหุงไปซาวในน้ำเพื่อล้างสิ่งสกปกรก จำนวน 8-15 ครั้ง

เจ้าหน้าที่นำข้าวหอมมะลิที่จะหุงไปซาวในน้ำเพื่อล้างสิ่งสกปกรก จำนวน 8-15 ครั้ง

ข้าว 10 ปีกินได้ แต่คนระดับไหนที่กิน ?

สำหรับข้าวใน 2โกดังที่เก็บมา10ปี ต้องบอกว่าข้าวที่มีการเก็บในสภาพที่เลวร้ายกว่านี้อีก 10 เท่า ยังสามารถกินได้ เพียงแต่ว่าคนชั้นไหนที่กิน? ซึ่งก็อยู่ที่กรรมวิธีการจัดการปรับปรุง เพราะถ้าเอาข้าวออกไปขายแบบไม่ปรับปรุงคงไม่มีใครกิน

ลองเอาข้าวเก่า 10 ปี กับข้าวใหม่ไปหุง แล้วตัดใส่ถาด 2 ถาดแล้วดูว่าจะกินแบบไหน

ทั้งนี้ข้าวในโกดัง คนที่ประมูลได้ก็คงขายในประเทศ ไม่ส่งออก แม้ว่าจะมีการนำข้าวไปผสม แต่การส่งออกมีขั้นตอนตรวจสอบอย่างละเอียดและเข้มข้นมากน่าจะยาก ส่วนที่มองว่าจะส่งออกไปตลาดแอฟริกาเพราะตลาดดังกล่าวกินข้าวเก่า แต่อย่างลืมว่า เขากินข้าวเก่า แต่เป็นข้าวเก่าที่มีราคาถูก ถ้าประมูลในกิโลกรัมละ 16-17 บาท จะเอาไปขายแอฟริกาได้อย่างไร

มีช่วงหนึ่งที่ไทยส่งออกทะลุ 10-11 ล้านตัน และขายไปตลาดแอฟริกาทั้งหมด เพราะว่าแอฟริกาเป็นตลาดข้าวราคาถูก ถ้าคนที่ชนะประมูลต้องประมูลต่ำกว่า 13 บาทต่อกิโลกรัม และแอฟริกาไม่ได้โง่ที่จะซื้อข้าวเน่าในราคาข้าวสด เพราะราคาข้าวในตลาดกิโลกรัมละ 20-21 บาท

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ โชว์กินข้าว 10 ปี

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ โชว์กินข้าว 10 ปี

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ โชว์กินข้าว 10 ปี

ชี้ข้าวเก่าในโกดัง 10 ปี จำหน่ายในประเทศ

สำหรับข้าวที่อยู่ในโกดัง หากนำมาเข้ากระบวนการขัดสี ขัดผิว ใหม่จนเกิดเม็ดใส ซึ่งมีกระบวนการทำได้ จะไม่นำออกมาขายแบบ100% แต่จะนำไปผสมกับข้าวใหม่ในอัตราส่วน 10 ต่อ 90 คือ ข้าวเก่า 10% ข้าวใหม่ 90% ในข้าวสารข้างถุงที่อยู่ในประเทศ ซึ่งก็คุ้มเพราะราคาต่างกันเป็นเท่าตัว คือวิธีการทำกำไรซึ่งข้าว 2 โกดังเป็นที่จ้องตาเป็นมันของผู้ซื้อหลายราย

ทั้งนี้แต่ถ้าให้คะแนนข้าวที่อยู่ในโกดังถ้าขายได้คุณภาพจะอยู่ระดับ 55 % ซึ่งผู้ที่ซื้อได้ก็จะนำไปปรับปรุงให้ได้70-8% แต่จะไม่ได้คุณภาพ 100% ปรับปรุงให้มีสภาพสีสันที่ดูแล้วไม่น่าเกลียดมีความสะอาดและกลิ่นลดล แล้วนำมาสผมกับข้าวรุ่นใหม่ที่ในสัดสวน 10% ซึ่งหุงไปก็ไม่รู้ กลิ่นก็ไม่รู้เพราะกลิ่นของข้าวใหม่กลบ กลิ่นเก่า การกินไม่ได้แตกต่าง อาจจะกระด้างมาเล็กน้อยแต่ก็ถูกข้าวใหม่ 90 % กลบไปหมด

ด้านเอกชนผู้คร่ำหวอดในวงการค้าข้าว มองว่า การจะส่งออกข้าวอายุ 10 ปีแบบนี้ น่าจะยาก เพราะแค่จะหุงข้าว 10 ปีให้กิน ก็น่าจะส่ายหน้ากันแล้ว เพราะตอนนี้ไทยยังมีทางเลือกอยู่มาก ข้าวใหม่ในตลาดที่คุณภาพดีก็ไม่ได้ขาดแคลน ซึ่งข้าวในโกดัง2 โกดังแม้ว่าจะเป็นข้าวหอมมะลิ แต่พอเก็บไว้นานเกินไป ความหอมของข้าวมันก็ไม่มี ความเหนียวก็ไม่น่าเหลืออยู่แล้ว

คนงานกำลังขึ้นไปตรวจสอกองข้าว

คนงานกำลังขึ้นไปตรวจสอกองข้าว

คนงานกำลังขึ้นไปตรวจสอกองข้าว

ซากนกที่เข้าไปจิกกินข้าวในโกดัง

ซากนกที่เข้าไปจิกกินข้าวในโกดัง

ซากนกที่เข้าไปจิกกินข้าวในโกดัง

จากประสอบการณ์ในวงการข้าวมายาวนาน โดยหลักทางจิตวิทยา ถ้ามีของใหม่ ใครจะเลือกของเก่า ยอมรับว่าไม่ได้ไปร่วมลองชิมข้าว แต่ถ้าตลาดมีของใหม่กว่าคนก็ต้องเลือกของใหม่ นอกจากนี้ถ้ามองในแง่ราคากลางที่ตั้งไว้ประมาณ 18 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อเทียบกับข้าว 10 ปี น่าจะแพงเกินไป ถ้าเกิดจะขายบริโภคในบ้าน ก็อาจจะต้องขายถูกกว่านี้มากๆ เพราะส่งต่างประเทศก็ลำบาก

แต่ที่สำคัญที่สุด คือ ความคลางแคลงใจเรื่องสารตกค้าง อย่างที่ได้ฟังจากเจ้าของโกดังว่า ข้าวมีการรมยาทุก 2 เดือน เท่ากับว่า 10 ปี ผ่านการรมยามา 60 ครั้ง จะมั่นใจได้มากน้อยแค่ไหนว่าสารตกค้างจะไม่มี ถึงจะซาวน้ำหลายๆ ครั้ง ก็ยังไม่แน่ใจนัก

และอีกอย่างหนึ่งคือ เรื่องสีสัน คุณภาพสารอาหารในข้าว สมมติ ถ้าไทยเก็บในโกดังควบคุมอากาศ 15 องศา แบบที่ญี่ปุ่นทำ คงไม่มีปัญหา แต่ไทยไม่ได้เก็บแบบนั้น ประกอบกับเรื่องสภาพอากาศ ความชื้น ก็ยังเป็นเหตุให้น่าสงสัยว่า คุณภาพจะดีพอจริงหรือไม่

“ส่วนข้อสังเกตว่า ถ้ามีผู้ประกอบการค้าข้าวประมูลไป แล้วเล่นแร่แปรธาตุ เอาข้าว 10 ปี ไปผสมข้าวใหม่ราคาแพง เพื่อให้ได้กำไรมากขึ้น มองว่าเป็นไปได้ยาก เพราะสีจะต่างกันอย่างชัดเจน ถึงจะขัดจะสีให้ขาวขึ้น แต่ข้าวเก่า สีมันเหลืองลงไปถึงเนื้อในแล้ว ไม่ได้เหลืองแค่เปลือกนอก ดังนั้นเรื่องว่าจะผสมกับข้าวใหม่ อันนี้ตัดไปได้”แหล่งข่าวระบุ

อ่านข่าว:

 จับกระแสการเมือง : วันที่ 7 พ.ค.67 "ปิดรอยแผลเก่า-กินข้าวโชว์" วิวาทะเดือด โครงการรับจำนำข้าว 10 ปี

ส่องนัยการเมือง "ภูมิธรรม" ชิมข้าว 10 ปี ปูทาง "ยิ่งลักษณ์" กลับไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง