ข้าราชการในกรีซประท้วงมาตรการรัดเข็มขัด

ชาวกรีกที่ทำงานในภาคสาธารณะนั้นนับว่าเป็นผู้ที่มีเงินเดือนและสวัสดิการดีที่สุดของประเทศ แต่ทว่าร่างงบประมาณประจำปี พ.ศ.2555 ซึ่งรัฐบาลนำเข้าสู่การพิจารณาอนุมัติของสภาเมื่อวานนี้ (5 ต.ค.) มีแผนตัดลดค่าใช้จ่ายให้ได้ตามเงื่อนไขของผู้ให้กู้ คือกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารแห่งยุโรปรวมอยู่ด้วย ทำให้ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ที่ทำงานภาคสาธารณะอย่างน้อย 10,000 คนผละงานประท้วง ส่งผลให้การดำเนินงานแทบทั้งหมดทั่วกรุงเอเธนส์ตกอยู่ในสภาพอัมพาต

 

มาตรการรัดเข็มขัดหรือแผนการตัดลดค่าใช้จ่ายภาครัฐของกรีซครั้งนี้มีมูลค่า 6,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่า 210,000 ล้านบาท ซึ่งยิ่งเพิ่มความหวาดกังวลให้กับผู้ทำงานภาคสาธารณะว่าจะมีรายได้ลดน้อยลง หรือแม้กระทั่งจะถูกปลดออกจากงาน โดยเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลังได้ประกาศออกมาแล้วว่า ผู้ที่ทำงานในภาคนี้จะต้องรับเงินเดือนน้อยลงอีกร้อยละ 20

 

ส่วนสาเหตุที่กรีซต้องยอมทำตามเงื่อนไขของผู้ให้กู้ก็เพราะต้องการเงินกู้งวดที่ 6 ตามแผนกอบกู้เศรษฐกิจของชาติที่มีสภาพใกล้ล้มละลาย โดยเมื่อว้นอาทิตย์ที่ผ่านมา (2 ต.ค.) กระทรวงการคลังได้แจ้งต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ถ้ากรีซไม่ได้เงินกู้ก้อนนี้ เงินคงคลังที่เหลือจะสามารถจ่ายเงินเดือนและบำนาญได้ถึงกลางเดือน พ.ย.เท่านั้น ซึ่งหลังการแจ้งของกระทรวงการคลังได้ไม่ถึง 2 วันก็ปรากฏว่ากระทรวงศึกษาเกิดสภาพถังแตก โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (4 ต.ค.) โรงเรียนมัธยม 540 แห่งจากทั้งหมดทั่วประเทศ 11,000 โรงเรียนต้องปิดกลางคัน ซึ่งขณะนี้เด็กนักเรียนเหล่านั้นก็กำลังชุมนุมประท้วงอยู่ภายในโรงเรียน