คาด "นนทบุรี-ปทุมธานี" น้ำแห้ง 12 ธ.ค.

สังคม
9 ธ.ค. 54
00:41
11
Logo Thai PBS
คาด "นนทบุรี-ปทุมธานี" น้ำแห้ง 12 ธ.ค.

กทม.และชาวบ้านหมู่บ้านเศรษฐกิจได้ข้อยุติในการแก้ปัญหา โดยยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ ซึ่ง กทม.คาดว่า ภายใน 2-3 วัน น้ำจะแห้งสนิท ขณะที่กรมชลประทานคาดน้ำที่ท่วมขังอยู่ในปทุมธานีและนนทบุรีจะเข้าสู่ภาวะปกติในวันที่ 12 ธ.ค.นี้

นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ได้วางมาตรการในการเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังอยู่ในเขตจังหวัดปทุมธานีและจังหวัดนนทบุรีให้เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ในเขตอำเภอเมืองปทุมธานี กรมชลประทานได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำที่บริเวณประตูระบายน้ำต่างๆ อาทิ ประตูระบายน้ำบางกะจีน ประตูระบายน้ำบางคูวัด และประตูระบายน้ำเกาะเกรียง เพื่อเร่งระบายน้ำท่วมขังออกจากพื้นที่ จนขณะนี้มีระดับน้ำลดลงใกล้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังมีน้ำล้นตลิ่งคลองบางคูวัดและน้ำท่วมพื้นที่ลุ่มน้ำหมู่บ้านจัดสรรบางแห่ง ประมาณ 20 เซนติเมตร

ทั้งนี้คาดว่า พื้นที่ประตูระบายน้ำปทุมธานีจะเข้าสู่ภาวะปกติภายในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ สำหรับหมู่บ้านปาริชาติและหมู่บ้านมณีรินทร์ สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนหมู่บ้านชวนชื่นการ์เด้นและหมู่บ้านชวนชื่นฟลอร่าวิลล์ มีน้ำท่วมขังอยู่ประมาณ 50-80 เซนติเมตร คาดว่า ทั้ง 2 หมู่บ้านนี้จะเข้าสู่ภาวะปกติภายในวันที่ 12 ธ.ค.นี้

สำหรับสถานการณ์น้ำในเขตจังหวัดนนทบุรี พื้นที่อำเภอปากเกร็ด กรมชลประทานได้ใช้ประตูระบายน้ำบางตะไนย์ ประตูระบายน้ำแหลมเหนือ และประตูระบายน้ำแหลมกลาง ในการบริหารจัดการน้ำ ทำให้ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่องและเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว คงเหลือแต่น้ำท่วมขังในทุ่งประมาณ 30 เซนติเมตร ที่ไม่มีส่งผลต่อการคมนาคมและที่พักอาศัย ซึ่งจะใช้ทำการเพาะปลูกพืชในช่วงฤดูแล้งต่อไป

ในส่วนของอำเภอบางบัวทอง หมู่บ้านสมบัติบุรี กรมชลประทาน ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 5 เครื่องเพื่อระบายน้ำลงสู่คลองรำรี ทำให้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ขณะที่โรงพยาบาลบางบัวทอง น้ำแห้งเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ตลาดบางบัวทอง ระดับน้ำลดลงเหลือประมาณ 20 เซนติเมตร ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ช่วงแยกบางพลูถึงโครงการฯ พระยาบรรลือ มีน้ำท่วมขังเหลือประมาณ 10 เซนติเมตร และช่วงหน้าโครงการฯ พระยาบรรลือ ถึงหน้าวัดระหาร น้ำลดลงเหลือประมาณ 20 เซนติเมตร

นอกจากนี้ กรมชลประทานยังได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมที่หมู่บ้านพฤกษา 18 และหมู่บ้านพฤกษา 18/1 หมู่บ้านละ 2 เครื่อง เพื่อเร่งสูบระบายน้ำลงคลองบางใหญ่ ส่วนหมู่บ้านพร้อมจิตร กรมชลประทานได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 3 เครื่อง เพื่อสูบระบายน้ำลงคลองโสนน้อยและคลองอ้อมนนท์ ออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาโดยเร็วต่อไป

ส่วนสถานการณ์ในกรุงเทพมหานคร น้ำเหนือที่ไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาลดลง 5 เซนติเมตร แม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นสูงสุดยังต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 1.28 เมตร น้ำในทุ่งลดลง 7 เซนติเมตรที่คลองหกวาสายล่าง ลดลง 8 เซนติเมตรที่ดอนเมือง ลดลง 6 เซนติเมตรที่คลองมหาสวัสดิ์

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า พื้นที่ที่ยังน่าเป็นห่วงในขณะนี้คือ เขตดอนเมือง เขตสายไหม และเขตบางแค ซึ่งยังมีน้ำท่วมขังอยู่ เบื้องต้นได้สั่งการให้สำนักงานเขตดำเนินการเร่งระบายน้ำให้เร็วที่สุด แต่หากมีอุปสรรคหรือติดขัดเรื่องของอุปกรณ์ ก็ให้แจ้งมายังส่วนกลาง เพื่อเข้าไปแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน

ขณะที่พื้นที่เขตทวีวัฒนาน่าจะเป็นพื้นที่สุดท้ายของกรุงเทพมหานครที่น้ำจะแห้งสนิท ส่วนกรณีปัญหาชาวหมู่บ้านเศรษฐกิจ เขตบางแค คัดค้านไม่ให้เจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำเข้าไปติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำภายในหมู่บ้านนั้น ปัญหาคลี่คลายลงแล้ว โดยชาวบ้านยินยอมให้เจ้าหน้าที่นำเครื่องสูบน้ำจำนวน 10 เครื่อง ขนาด 8 นิ้ว และ 10 นิ้ว กระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ โดยให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมกำหนดจุดการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เชื่อว่า ภายใน 2-3 วันนี้ น้ำจะแห้งสนิท

สำหรับความคืบหน้าการเก็บขยะบริเวณถนนสรงประภา ซึ่งมีประชาชนนำขยะมาทิ้งไว้บนพื้นผิวจราจรเป็นจำนวนมากนั้น กรุงเทพมหานครระดมเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครจากกลุ่มกรุงเทพมหานครกลางจำนวน 9 เขต และทหารจากกองบัญชาการทหารพัฒนา นำรถบรรทุกและรถตักขยะจำนวน 55 คัน มาช่วยกันลำเลียงขยะไปทิ้งตามจุดพักขยะต่างๆ โดยขณะนี้สามารถจัดเก็บขยะได้แล้ว 450 ตัน เหลือขยะคงค้างอีกประมาณ 200 ตันที่ยังไม่ได้จัดเก็บ ซึ่งแม้จะดำเนินการไม่ได้ทั้งหมดในกรอบเวลา 24 ชั่วโมงที่วางไว้ แต่คาดว่า ในวันนี้ (9 ธ.ค.) จะดำเนินการเสร็จสิ้น

ส่วนการบริหารจัดการขยะในเขตอื่นๆ ของกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้แต่ละสำนักงานเขตที่ได้รับผลระทบจากน้ำท่วมกำหนดจุดพักขยะย่อยเพื่อให้ประชาชนนำขยะมาทิ้งรวมกัน เพื่อให้ง่ายต่อการจัดเก็บ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง