ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีเหตุคนร้ายยิงนายชุติเดช สุวรรณกิจ คนสนิทของนายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตดอนเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ว่า ตำรวจแบ่งปมสังหารเป็น 2 ประเด็นคือ ขัดแย้งผลประโยชน์ส่วนตัวและการเมือง ทั้งนี้ได้กำชับให้ตำรวจดูแลคดีอย่างรอบคอบ เพราะบางครั้งอาจมีมือที่ 3 อย่างไรก็ตามคิดว่าไม่น่าจะยากต่อการจับกุม โดยส่วนตัวมองว่า จากลักษณะที่คนร้ายยิงน่าจะเป็นความแค้นส่วนตัว เพราะหากเป็นเรื่องการเมือง คงยิงให้ตายเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ตั้งแต่เกิดเรื่องตนยังไม่ได้คุยกับนายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตดอนเมือง แต่ได้กำชับให้ตำรวจตำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ใครผิดต้องจับ อย่าคิดว่าเป็นรัฐบาลจะทำตามใจชอบได้
ส่วนการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในช่วงเทศกาลปีใหม่ จะวางมาตรการอย่างเข้มข้น โดยจะเข้าบัญชาการด้วยตนเองที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทั้งนี้จะมีการบูรณาการเจ้าหน้าที่จากทุกฝ่ายในการตรวจตราดูแลความปลอดภัย
ขณะที่การสอบสวนคดีเหตุวางระเบิดบริเวณถนนราชดำเนินนั้น ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ระมัดระวัง โดยเอา 10 จุดที่เกิดเหตุระเบิดในปี 2550 มาเป็นตัวตั้ง และดูลักษณะการวางระเบิด ชนิดระเบิด สถานที่ เป้าหมายที่ต้องการ เบื้องต้นตำรวจได้ประสานเรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 7 คนเข้าให้ปากคำ แต่ผลสอบสวนยังไม่ได้อะไรเพิ่มเติม
ร.ต.อ.เฉลิมเปิดเผยอีกว่า กรณีดังกล่าวมีกลุ่มคน 4 กลุ่มที่น่าจะเกี่ยวข้องคือ 1.กลุ่มที่เคลื่อนไหวประจำ 2.กลุ่มสูญเสียอำนาจ 3.กลุ่มตำรวจที่เคยผูกพันกับพรรคการเมืองบางพรรค และ 4. กลุ่มการเมือง
นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวยืนยันด้วยว่า ชายชุดดำที่ปฏิบัติการในช่วงเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ปี 2553 รวมถึงคนที่ลงมือยิง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ก็เป็นฝีมือตำรวจ ซึ่งเดินทางมาจากภาคอีสาน ประกอบด้วยตำรวจระดับผู้กำกับการ, ยศนายพล, ยศพันตำรวจโท และตำรวจส่วนกลางยศพันตำรวจโท