กำชับ จนท.เฝ้าระวังพรานลอบฆ่าช้างตัดงา

อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กำชับพื้นที่ชายแดนให้ระวังการลักลอบเข้ามาฆ่าช้างเพื่อตัดงา หลังพบช้างป่าถูกฆ่าตาย พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า พฤติกรรมการเผาซากช้างเพื่ออำพรางร่องรอยกระสุน อาจเป็นนายพรานจากต่างถิ่นที่รับจ้างตามใบสั่ง

ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ช่วยกันขุดหลุม เพื่อฝังซากช้างที่พบบริเวณลำห้วยแห้งในพื้นที่ป่าตำบลป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจาน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยช้างที่พบอายุประมาณ 10-15 ปี สภาพศพพบบาดแผลบริเวณหน้าผากยาวถึงริมฝีปากล่าง คาดว่าจะถูกงัดเพื่อเอางาช้าง เนื่องจากในบริเวณใกล้กัน พบงวงช้างที่ถูกตัดขาดตกอยู่ นอกจากนี้ยังถูกตัดอวัยวะเพศ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เร่งลาดตระเวนติดตามช้างอีก 2 ตัวที่หายไป แต่ยังไม่พบร่องรอย

หลังการลงตรวจสอบพื้นที่ของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วยทหาร และตำรวจตระเวนชายแดน นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่อุทยานเข้มงวดในจุดเดินทางของโขลงช้าง โดยเฉพาะตามแนวชายแดน ขณะเดียวกันก็ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ที่เข้ามาล่าช้างอาจเป็นนายพรานรับจ้างจากต่างถิ่น เนื่องจากมีพฤติกรรมเผาซากช้างเพื่อหวังอำพรางร่องรอยกระสุน

ด้านนักอนุรักษ์ช้างแสดงความเห็นต่อกรณีนี้กับไทยพีบีเอสว่า น่าจะเป็นการล่าตามใบสั่งของกลุ่มนายทุนลักลอบค้าสัตว์ป่า โดยดูจากพฤติกรรมของพรานที่ตัดเอาเฉพาะงา ปลายงวง ปลายหาง และอวัยวะเพศของช้าง ซึ่งแตกต่างจากปัญหาการทำร้ายช้างที่เกิดจากการเผชิญหน้าของฝูงช้างกับชาวบ้านในพื้นที่

นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่า ในระยะ 2- 3 ปีที่ผ่านมา ปัญหาช้างป่าถูกฆ่าเพื่อเอางาปรากฏเป็นข่าวบ่อยขึ้น หลังจากที่การลักลอบหายไประยะหนึ่ง แสดงให้เห็นว่า ราคาชิ้นส่วนอวัยวะช้างในตลาดมืดน่าจะสูงขึ้นมากจนคุ้มค่าต่อการเสี่ยงกระทำผิดกฎหมาย และอาจเกี่ยวข้องกับความต้องการจากตลาดต่างประเทศที่มีความเชื่อเรื่องการบริโภคอวัยวะสัตว์ป่า

ขณะที่อีกด้านหนึ่งก็มีความกังวลกันว่า การที่ช้างพลายเป็นเป้าถูกล่า จะทำให้พันธุกรรมของช้างพลาย หรือช้างที่มีงาซึ่งเป็นลักษณะเด่นของสายพันธุ์ในพื้นที่ป่านั้นๆ ด้อยลงด้วย

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เตรียมขยายผลการสอบสวนเพิ่มเติมไปยังกลุ่มทำธุรกิจลักลอบค้างาช้างทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือต่อไป