“นิวัฒน์ธำรง” เผยเตรียมเวนคืนพื้นที่รับน้ำ 2-3 ล้านไร่ แต่จะมีการชดเชยและเยียวยา

นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุเบื้องต้นถึงพื้นที่ที่จะต้องใช้เป็นพื้นที่รับน้ำต้องใช้พื้นที่ประมาณ 2-3 ล้านไร่ ซึ่งต้องใช้งบประมาณกว่า 10,000 ล้านบาท

นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามนโยบายของรัฐบาลเมื่อ ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน แม้จะระบุว่าการประชุมเมื่อวานนี้ (8 ก.พ.) ไม่ได้มีหัวข้อหลักในการพูดคุยเรื่องการบริหารจัดการน้ำ แต่เรื่องสำคัญอย่างการจัดหาพื้นที่รับน้ำ นายนิวัฒน์ธำรง ระบุว่าพื้นที่ประมาณ 2-3 ล้านไร่ ที่ต้องใช้งบประมาณตั้งแต่ 10,000 ล้านบาทขึ้นไปนั้น จะอยู่ในกรอบเงินงบประมาณ 350,000 ล้านบาท ที่ระบุไว้ใน พ.ร.ก.กู้เงิน ทั้งขั้นตอนการเวนคืน การเช่า และการจ่ายค่าชดเชยเยียวยา

สำหรับ พ.ร.ก.กู้เงิน 2 ฉบับ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญยืนยันว่า รัฐบาลจำเป็นต้องใช้งบประมาณ 350,000 ล้านบาท ในการป้องกันน้ำท่วมอย่างเร่งด่วน อีกทั้งการป้องกันก็ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากโดยการจ่ายค่าชดเชยให้กับพื้นที่ที่นำมาทำแก้มลิง และการทำฟลัดเวย์ แต่หากศาลพิจารณาว่า พ.ร.ก.ดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายรัฐบาลก็ต้องหยุดดำเนินการและ ใช้วิธีเสนอเป็นร่าง พ.ร.บ.โดยให้ผ่านการพิจารณาของสภา 3 วาระรวด ซึ่งต้องใช้เวลา 3-6 เดือน

ส่วนปัญหาการขุดลอกคูคลองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 19 แห่ง ซึ่งกรุงเทพมหานครอาจจะไม่รับดำเนินการ เพราะเกรงว่าจะทำไม่ทันฤดูฝน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า ได้มีการจัดสรรแบ่งงานกันทำ ทั้งเหล่าทัพ และภาคเอกชน เชื่อว่าการผนึกกำลังจากหลายฝ่ายซึ่งน่าจะทันเวลา และในกรณีนี้ได้มีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมบัญชีกลาง และสำนักงบประมาณ ซึ่งจะมีการออกระเบียบพิเศษ เพื่อให้มีการจัดซื้อจัดจ้างเป็นกรณีพิเศษ และทางกรุงเทพมหานคร และพื้นที่อื่นๆ สามารถใช้วิธีพิเศษนี้ได้

ถึงแม้จะมีความกังวลว่า กรุงเทพมหานครอาจไม่รับดำเนินการ แต่ก็ยังเชื่อว่าผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีความตั้งใจจะช่วยคนกรุงเทพฯ อยู่แล้ว ซึ่งรัฐบาลได้ประสานกับภาคเอกชนให้เข้ามาช่วยอีกแรงหนึ่ง

ขณะที่การจัดการจัดงาน "รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย" ในวันศุกร์นี้ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า การจัดงานนี้คุ้มค่า โดยใช้งบประมาณไม่ถึง 10 ล้านบาท แต่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทย และต่างประเทศได้ว่า ประเทศไทยสามารถเดินหน้าต่อไปได้

สอดคล้องกับที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่าการจัดงานนี้ขึ้น ก็เพื่อเป็นการเดินหน้าประเทศไทย และเพื่อแสดงความขอบคุณ ศปภ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการร่วมแก้ปัญหาน้ำท่วม และยินดีเชิญฝ่ายค้านเข้าร่วมงานด้วย

ส่วนการติดตามนโยบายที่เคยแถลงไว้ต่อสภาฯ ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วหลายโครงการ ส่วนนโยบายที่ยังไม่เห็นผลเนื่องจากอยู่ระหว่างการดำเนินการ แต่ยืนยันทุกโครงการมีเป้าหมายที่ชัดเจน โดยเฉพาะเมกกะโปรเจกต์ที่จะดำเนินการในช่วงปลายปีนี้ และปีหน้า แต่ไม่สามารถเร่งรัดได้เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษา