ดีเอสไอจับบริษัทฮั้วประมูลขายเครื่องฟอกไตให้กับ รพ.ตั้งแต่ปี47
เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าตรวจสอบ บริษัทเฟรซีเนียส เมดิคอน แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ภายใน ชั้น 24 ของอาคารมิลเลเนี่ยม ถนนหลังสวน แขวงลุมพินี หลังได้รับการร้องเรียนนจากคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ กรมบัญชีกลาง ที่ระบุว่าน่าจะมีการฮั้วประมูลขายเครื่องฟอกไตให้กับโรงพยาบาลรัฐถึง 8 แห่งตั้งแต่ปี 2547
จากการเข้าตรวจค้นพบเอกสารปลอมจำนวนมาก ซึ่งเป็นเอกสารเกี่ยวกับการจดทะเบียนตั้งบริษัทจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์ โดยมีชื่อว่า บริษัท เวชคาม จำกัด ซึ่งปิดกิจการไปแล้วเมื่อปี 2542 ในการใช้เป็นบริษัทคู่แข่ง ร่วมยื่นซองประมูลแข่งกับบริษัทเฟรซิเนียทุกครั้ง แต่จะตั้งราคาสูงกว่า
สำหรับโรงพยาบาลที่บริษัทแห่งนี้ ทำสัญญาซื้อขายเครื่องฟอกไตได้ มี 8 แห่ง คือ คือ โรงพยาบาลอุตรดิตถ์, โรงพยาบาลสรรพสิทธิ์ประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี, โรงพยาบาลโพธาราม จังหวัดราชบุรี, โรงพยาบาลหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี, โรงพยาบาลเลย, คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น และศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี โดยมีมุลค่าความเสียหายกว่า 18 ล้านบาท
ซึ่งวานนี้ (8 ก.พ.) ดีเอสไอควบคุมตัวพนักงานของบริษัทจำนวน 6 คน ไปสอบปากคำเพิ่มเติมพร้อมแจ้งข้อหากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคา และเตรียมขยายผลการสอบสวนว่ามีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลของรัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ สำหรับยอดการสั่งซื้อเครื่องฟอกไตของโรงพยาบาลแต่ละแห่ง ตกอยู่ที่แห่งละ 1-5 เครื่อง โดยแต่ละเครื่องราคาอยู่ที่เครื่องละ 500,000-1,000,000 บาท
จากการสอบถามไปยังโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็น 1 ในโรงพยาบาลที่ทำสัญญาซื้อขายกับบริษัทแห่งนี้ นพ.มนัส กนกศิลป์ ผู้อำนวยการเปิดเผยว่า การฮั้วประมูลขายเครื่องฟอกไตให้กับโรงพยาบาลเกิดขึ้นก่อนที่จะเข้ามารับตำแหน่งหน้าที่ แต่จากการตรวจสอบพบว่าเจ้าหน้าที่พัสดุที่ดำเนินการจัดซื้อ จัดจ้าง เครื่องมือแพทย์ในสมัยนั้น บางคนก็เกษียณอายุราชการ หรือเสียชีวิตไปแล้ว แต่ได้ดำเนินตามระเบียบราชการอย่างเคร่งครัด ส่วนเครื่องฟอกไต และอุปกรณ์ฟอกไตที่จัดซื้อสมัยนั้นก็ยังใช้การได้อยู่