คาดกลุ่มวางระเบิด 3 จุดที่สุขุมวิท 71 โยงกลุ่มก่อเหตุในอินเดีย

อาชญากรรม
15 ก.พ. 55
00:27
34
Logo Thai PBS
คาดกลุ่มวางระเบิด 3 จุดที่สุขุมวิท 71 โยงกลุ่มก่อเหตุในอินเดีย

ตำรวจเชื่อกลุ่มชายต่างชาติ สัญชาติอิหร่าน ที่ก่อเหตุระเบิด 3 จุดในซอยสุขุมวิท 71 กรุงเทพมหานคร น่าจะเชื่อมโยงกลุ่มที่ก่อเหตุระเบิดที่ประเทศอินเดีย ขณะที่การตรวจส่วนประกอบระเบิดในเช่าบ้านที่เกิดเหตุในครั้งแรกพบเชื้อประทุที่ไม่เคยมีในประเทศ คาดว่านำเข้ามาประกอบเตรียมก่อเหตุ

ตำรวจได้นำภาพวงจรปิดชายต้องสงสัย 3 คนมาเผยแพร่ คนแรก คือนายซาอิด โมราบิ สัญชาติอิหร่าน ซึ่งเป็นชายคนที่ถูกระเบิดจนขาขาด คนที่สองคือนายโมฮัมมัด ฮาซาอิ ถูกจับได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะกำลังจะหลบหนีออกนอกประเทศ และชายต่างชาติยังไม่ทราบชื่อ อีก 1 คน ที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัว ทั้ง 3 คนเป็นผู้ต้องสงสัย เตรียมก่อเหตุระเบิด โดยเช่าบ้านพักในซอยสุขุมวิท 71 หรือ ซอยปรีดีพนมยงค์ 31 กรุงเทพมหานคร และ ในช่วงเวลา ประมาณ 14.00 น.ได้เกิดเหตุระเบิดในบ้านหลังนี้ ก่อนที่ทั้ง 3 คนจะแยกย้ายกันหลบหนี

นายซาอิด คือ คนที่มาออกมาเรียกแท็กซี่ แต่ได้รับการปฏิเสธ จึงปาระเบิดใส่แท็กซี่จนได้รับความเสียหาย และ ทำให้นายขรรค์ชัย บุญสูงเนิน คนขับแท็กซี่ได้รับบาดเจ็บสาหัสรวมทั้งทำให้นายอภิชาติ คำลือ เจ้าหน้าที่โรงเรียนเกษมพิทยาที่อยู่ใกล้เคียงได้รับบาดเจ็บด้วย

 
หลังจากถูกปฏิเสธนายซาอิด เดินมุ่งหน้าออกไปหน้าปากซอย แต่ขณะนั้นตำรวจได้เข้ามารับงับเหตุและ พลเมืองดีก็แจ้งให้ตำรวจทราบว่าชายต่างชาตคนนี้มีระเบิด แต่ก่อนที่ตำรวจจะเข้าจับ นายซาเยฟ ได้ปาระเบิดใส่ แต่ไม่พ้นตัวทำให้ระเบิดตกใกล้ตัวเองได้รับบาดเจ็บขาขาดทั้ง 2 ข้าง และถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
 
หลังเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสามารถจับกุมตัวนายโมฮัมหมัด ฮาซาอิ ชาวอิหร่านถูกจับได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะกำลังจะหลบหนีออกนอกประเทศ นำตัวไปสอบสวนและควบคุมตัวที่กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3
 
พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยหลังการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่สถานีตำรวจนครบาลคลองตันว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหากับชาวอิหร่านทั้ง 2 คน ใน 3 ข้อหา คือ ร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้เกิดระเบิดเป็นเหตุให้ชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย และร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นและเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ 
 
และในวันนี้ ( 15 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจากกองพิสูจน์หลักฐานและหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดจะลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบพยานหลักฐานและสอบปากคำพยานแวดล้อมอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมกับยืนยันว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนายอาทริส ฮุสเซนที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้
 
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจในบ้านเช่าอีกครั้งได้พบระเบิดแสวงเครื่องที่ต่อวงจรพร้อมใช้งานอีก 2 ลูกจึงเข้าเก็บกู้และทำลาย มีรายงานจากหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด ที่เข้าตรวจสอบระเบิดว่า เบื้องต้นพบการต่อวงจรโดยใช้วิทยุทรานซิสเตอร์ เป็นตัวอำพราง ใช้แกนระเบิด หรือ เชื้อประทุที่ไม่เคยพบในประเทศ คาดมีการนำเข้ามาต่อวงจรเพื่อก่อเหตุโดยเฉพาะ 1 ใน 2 ลูกที่พบในบ้าน ตำรวจพบกลุ่มผู้ก่อเหตุใช้ดินระเบิดชนิดซีโฟว์น้ำหนักประมาณ 4 ปอนด์ เพื่อเพิ่มแรงการทำลายล้าง แต่ใช้วิธีจุดชนวนด้วยการดึงสลัก เหมือนระเบิดขว้าง
 
หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และประชุมร่วมทีมสืบสวน โดยมีคำสั่งตั้งตำรวจ 5 หน่วย เป็นทีมคลี่คลายคดี และ ใช้สถานที่ตำรวจนครบาลคลองตันเป็นศูนย์บัญชาการ ซึ่งตำรวจที่จะเป็นทีมงานประกอบด้วยม ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจสันติบาล และ กองพิสูจน์หลักฐาน หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด และตำรวจท้องที่
 
มีรายงานว่าหลังเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยและผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดเข้ามาร่วมตรวจสอบ เบื้องต้นเชื่อว่า กลุ่มที่ก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะเชื่อมโยงกลุ่มที่ก่อเหตุที่ประเทศอินเดียที่มีผู้บาดเจ็บ 4 คนเมื่อวานที่ผ่านมา

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง