จนท.เร่งติดตามวัตถุพยาน-หลักฐานเชื่อมโยงเหตุระเบิดไทย-อินเดีย-จอร์เจีย
เหตุการณ์ระเบิดในซอยสุขุมวิท 71 ภายหลังเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์ระเบิดเข้าตรวจสอบบ้านที่เกิดระเบิดในจุดแรก เพื่อเก็บหลักฐานอีกครั้ง พร้อมสรุปจำนวนวัตถุระเบิดที่พบว่ามีทั้งหมด 5 ลูก ได้แก่ ลูกที่ระเบิดในบ้านเช่า 1 ลูก เก็บกู้ในบ้านได้ 2 ลูกที่เกิดระเบิดรถแท็กซี่ 1 ลูก และระเบิดหน้าโรงเรียนเกษมพิทยาอีก 1 ลูก
สำหรับชนิดของระเบิดที่พบผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดยืนยันว่าเป็นชนิดแสวงเครื่องชนิดขว้างสังหารต่อวงจรโดยใช้วิทยุทรานซิสเตอร์เป็นตัวอำพราง ด้านในบรรจุดินปืนชนิดซีโฟร์ น้ำหนักประมาณ 4 ปอนด์ โดยใช้เชื้อปะทุ เป็นแกนด้านในของระเบิดขว้างสังหารของต่างประเทศ ซึ่งยังไม่สามารถระบุชนิดได้
นอกจากนี้ ยังมีตัวบูทเตอร์หรือแรงขยาย ซึ่งศัพท์ทางเทคนิคเรียกว่า เดดคอร์ และใช้วัสดุลูกเหล็กทรงกลมคล้ายลูกปืนรถจักรยานเป็นสะเก็ดระเบิด โดยจุดชนวนด้วยการดึงสลัก เหมือนระเบิดชนิดขว้างสังหาร และที่บริเวณตัวเครื่องวิทยุ มีการติดแม่เหล็กไว้ด้วย ซึ่งคาดว่าใช้แปะกับพื้นผิวหรือวัตถุเป้าหมาย
โดยหลังจากการดึงสลักจะหน่วงเวลาประมาณ 5 วินาที แรงระเบิด มีรัศมีทำลายล้าง อยู่ที่ 10-15 เมตร และระยะสังหารอยู่ที่ 5 เมตร ซึ่งผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐานเป้าหมายเป็นตัวบุคคลไม่ใช่ก่อวินาศกรรม หรือแหล่งชุมชนชาวต่างชาติ
ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบพบว่าระเบิดทั้ง 5 ลูก มีวิธีการประกอบที่เหมือนกัน และเชื่อว่าระเบิดลูกแรกที่เกิดระเบิดภายในบ้านนั้นเกิดจากความผิดพลาดขณะประกอบ
สำหรับวิธีการใช้ระเบิดแสวงเครื่องลักษณะนี้ คาดว่าคนที่ก่อเหตุจะขี่รถจักรยานยนต์ประกบรถที่ต้องการ แล้วติดระเบิดที่ข้างรถ แล้วดึงสลัก เพื่อให้ระเบิด ซึ่งสอดคล้องกับที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติระบุว่าคนร้ายน่าจะหวังผลสังหารตัวบุคคลมากกว่า โดยใช้วิธีติดระเบิดที่ตัวรถ