เฉลิมระบุ รัฐบาลไม่ปิดกั้นความเห็นในการแก้ไข รธน.

การเมือง
2 มี.ค. 55
11:54
7
Logo Thai PBS
เฉลิมระบุ รัฐบาลไม่ปิดกั้นความเห็นในการแก้ไข รธน.

เครือข่ายกลุ่มสยามสามัคคี เริ่มชุมนุมคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยยืนยันว่าการเคลื่อนไหวไม่ต้องการจุดชนวนความขัดแย้งให้เพิ่มขึ้น ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ระบุว่ารัฐบาลจะไม่ปิดกั้นการแสดงความเห็นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี รศ.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ถูกทำร้ายว่า คนที่ทำร้ายไม่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มการเมืองใด และการแสดงออกดังกล่าวเป็นเพียงการไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของ รศ.วรเจตน์ และเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลทำให้เกิดเป็นกรณีตัวอย่างที่อาจนำไปสู่การทำร้ายกัน ส่วนการที่มีบางฝ่ายออกมาชุมนุมคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น รัฐบาลจะไม่ปิดกั้น และไม่ให้ตำรวจดำเนินการใดเป็นพิเศษกับกลุ่มผู้ชุมนุม เพียงแต่ย้ำให้ระมัดระวัง ห้ามเข้าไปคุกคามการชุมนุม และไม่กังวลว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะส่งผลกระทบกับเสถียรภาพรัฐบาล

ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เชื่อว่ากรณีที่ รศ.วรเจตน์ ถูกทำร้ายร่างกายเชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวชุมนุมคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่นัดหมายในวันนี้ (2 มี.ค.) ทั้งนี้ได้ห้ามกลุ่ม นปช.เข้าไปร่วมสังเกตการณ์การชุมนุม เนื่องจากอาจจะเป็นเหยื่อของสถานการณ์ ให้มีการปะทะกันเกิดขึ้น และเป็นเหตุแห่งการโค่นล้มรัฐบาลได้

ทั้งนี้เครือข่ายกลุ่มสยามสามัคคีชุมนุมค้านแก้รัฐธรรมนูญที่สวนลุมพีนีในเย็นวันนี้ จะมีการเปิดเวทีเสวนาคัดค้านการล้มล้างรัฐธรรมนูญปี 2550 ของกลุ่มนักวิชาการสยามประชาภิวัฒน์ และ สมาชิกวุฒิสภา โดยนักวิชาการยืนยันว่าจะเป็นการอภิปรายคัดค้านแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นหลัก และไม่นำกรณีแกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ ถูกทำร้ายร่างกายมาซ้ำเติม หรือจุดประเด็นตอบโต้ให้เกิดขึ้น

ขณะที่เครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน ได้ตั้งโต๊ะรวบรวมรายชื่อประชาชน 20,000 คนให้วุฒิสภามีมติถอดถอนคณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภาจำนวน 399 คน ที่รับรองหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญออกจากตำแหน่ง เนื่องจากเห็นว่าเป็นการกระทำขัดรัฐธรรมนูญ และมีเจตนาล้มล้างรัฐธรรมนูญ

สำหรับแนวทางการแก้รัฐธรรมนูญ นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นถึงการยุบหรือยกเลิกองค์กรอิสระ แต่ยืนยันการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งปราศจากการมีอคติกับฝ่ายการเมืองกลุ่มใดทั้งสิ้น


ข่าวที่เกี่ยวข้อง