“อภิสิทธิ์” ร้องรัฐ แสดงจุดยืนไม่แตะ 3 ประเด็นหมวดสถาบันฯ

คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญรัฐสภา ยืนยันเป็นอำนาจโดยชอบที่สมาชิกรัฐสภาจะแก้หลักเกณฑ์ เพื่อจัดตั้งส.ส.ร. หลังเครือข่ายกลุ่มสยามสามัคคีลงชื่อเตรียมยื่นถอดถอน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เชื่อว่าเหตุทำร้ายร่างกายนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ แกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ นับเป็นสัญญาณความรุนแรงที่ มาจากความเห็นต่างทางการเมือง จากการแก้รัฐธรรมนูญ และการผลักดันแก้มาตรา 112 ของกฎหมายอาญา และเห็นว่าทุกฝ่ายควรช่วยกันลดความขัดแย้งเพื่อยับยั้งเหตุความรุนแรงที่จะตามมา โดยเฉพาะรัฐบาล หรือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ควรแสดงจุดยืนว่าการแก้รัฐธรรมนูญ จะไม่แตะต้องหมวดสถาบันพระมหากษัตริย์ และไม่เปลี่ยนแนวทางความเป็นอิสระของตุลาการ และองค์กรที่ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ รวมถึงการไม่เอื้อประโยชน์ให้ใคร

นายสามารถ แก้วมีชัย ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของรัฐสภา ยืนยันเป็นอำนาจโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญที่สมาชิกรัฐสภาจะลงมติ และดำเนินการแก้ไขหลักเกณฑ์การแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เพื่อจัดตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ โดยชี้ว่าแนวทางการตั้ง ส.ส.ร. ปี 2540 ก็ไม่ต่างกัน เพราะต้องแก้มาตรา 211 ในรัฐธรรมนูญ ปี 2534 เพื่อตั้ง ส.ส.ร.เช่นกันขณะที่ทีมโฆษกพรรคเพื่อไทย เตรียมลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชน กรณีการแก้รัฐธรรมนูญชอบด้วยกฎหมาย โดยเฉพาะอำนาจหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาที่จะแก้ไขหลักเกณฑ์เพื่อจัดตั้ง ส.ส.ร. พร้อมย้ำหลักการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อสร้างประชาธิปไตย โดยไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ส่วนโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุท แถลงตำหนิรัฐบาลที่มุ่งแก้ปัญหาการเมืองมากกว่าปัญหาของประชาชน โดยเฉพาะการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่กำหนดประเด็นที่ชัดเจนให้ ส.ส.ร. ดำเนินการแก้ไข แม้รัฐบาลจะยืนยันไม่แก้กฏหมายอาญา มาตรา 112 แต่กังวลว่าอาจจะแก้ไขเนื้อหาสาระที่เกี่ยวข้องในรัฐธรรมนูญแทน พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง ปัญหาการสวมสิทธิ์โครงการรับจำนำ และการวางวางมาตรการบริหารจัดการน้ำให้ชัดเจน ก่อนแก้ปัญหาการเมือง