กรมควบคุมโรคเตือนปชช.ระวังไข้เลือดออก เผยยอด3เดือนแรกของปีตายแล้ว 6

สังคม
11 เม.ย. 55
10:31
9
Logo Thai PBS
กรมควบคุมโรคเตือนปชช.ระวังไข้เลือดออก เผยยอด3เดือนแรกของปีตายแล้ว 6

อธิบดีกรมควบคุมโรค เตือนให้ประชาชน เฝ้าระวังโรคไข้เลือดออก หลังยุงลายเริ่มแพร่พันธ์ โดยล่าสุด 3 เดือนแรกของปี 55 มีผู้ป่วยแล้วกว่า 5,000 ราย และเสียชีวิตแล้ว 6 ราย

ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึง สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในประเทศไทย ว่า ยังน่าเป็นห่วงเพราะในช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง อากาศร้อนสลับฝนตก ซึ่งหลังจากฝนตกก็จะเกิดแอ่งน้ำขังหรือน้ำขังตามภาชนะ ต่างๆ กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงได้ โดยทั่วไปยุงลายจะวางไข่ตามภาชนะที่มีน้ำขัง ซึ่งเป็นน้ำนิ่งและใส น้ำนั้นอาจจะสะอาดหรือไม่ก็ได้ และน้ำฝนมักเป็นน้ำที่ยุงลายชอบวางไข่มากที่สุด

จากข้อมูลการเฝ้า ระวังโรคไข้เลือดออกของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.–5 เม.ย. 2555 พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสะสม จำนวน 5,396 ราย มีผู้เสียชีวิต จำนวน 6 ราย ในจังหวัดสระแก้ว ราชบุรี สมุทรสงคราม นครราชสีมา ชลบุรี และกรุงเทพฯ เมื่อแยกเป็นรายภาคที่มีการระบาดมากที่สุด ได้แก่ ภาคกลาง จำนวน 2,923 ราย รองลงมาภาคใต้ จำนวน 1,262 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 625 ราย และภาคเหนือจำนวน 586 ราย ตามลำดับ และตลอดปี 2554 ที่ผ่านมาทั่วประเทศมีผู้ป่วย จำนวน 68,386 ราย เสียชีวิต จำนวน 62 ราย

ทั้งนี้ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคไข้เลือดออกติดต่อกันได้โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรคที่สำคัญ ซึ่งจะกัดในเวลากลางวัน ยุงลายจะมีระยะฟักตัวประมาณ 8-12 วัน หลังถูกยุงลายที่มีเชื้อไข้เลือดออกกัดประมาณ 5-8 วัน ก็จะทำให้เกิดอาการของโรคได้ ลักษณะอาการเริ่มจากมีไข้สูง 2-7 วัน ปวดศีรษะ ครั่นเนื้อครั่นตัวปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและกระดูก คลื่นไส้ อาเจียน แต่จะไม่มีอาการไอ ไม่มีน้ำมูกไหล เหมือนไข้หวัด นอกจากนี้ อาจมีผื่นหรือจุดแดงๆ ขึ้นที่ใต้ผิวหนัง หลังจากนั้นไข้จะลง ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะฟื้นตัว สดชื่น แจ่มใสขึ้น และหายเป็นปกติ แต่หากไข้ลดแล้วมีอาการซึม เบื่ออาหาร มีอาการเพลียมาก ให้ไปพบแพทย์ทันที เพราะจะเกิดอาการช็อกได้ ส่วนในกลุ่มเด็กเล็กให้ผู้ปกครองดูแลเป็นพิเศษ เพราะเด็กยังไม่สามารถบอกอาการตัวเองได้ ผู้ปกครองควรใช้วิธีสังเกตอาการของเด็กอย่างใกล้ชิด หากหลังให้กินยาลดไข้ คือยาพาราเซตามอลหรือเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นแล้วไข้ไม่ลดภายใน 2 วัน หรือเด็กร้องกวนมากไม่กินนม ขอให้ผู้ปกครองคาดว่าเด็กอาจป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก ให้รีบพาไปพบแพทย์ที่ โรงพยาบาลเพื่อการตรวจวินิจฉัยโรคที่ถูกต้อง และรักษาอย่างทันท่วงที ที่สำคัญในการให้ยาลดไข้ ขอให้ใช้ยาพาราเซตามอล ห้ามใช้ยาแอสไพรินอย่างเด็ดขาด เนื่องจากหากป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก ซึ่งมีเลือดออกในอวัยวะภายในอยู่แล้ว ยาแอสไพรินจะทำให้มีเลือดออกมากขึ้น เพราะคุณสมบัติของแอสไพรินจะต้านการแข็งตัวของเกร็ดเลือด ทำให้เลือดหยุดยากและเสียชีวิตได้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง