คืนนี้ 
รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโรป้าลีกคืนนี้ (9 พ.ค.) แข่งขันกันที่สนามเนชันนัล อารีน่า ในกรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย เป็นการพบกันเองของ 2 ทีมจากประเทศสเปน ระหว่างแอตเลติโก้ มาดริด แชมป์เก่าในปี 2010 กับแอธเลติก บิลเบา โดยเมื่อ 35 ปีที่แล้วบิลเบาเคยผ่านเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่า คัพ แต่ได้เพียงแค่รองแชมป์เพราะไปแพ้ให้กับยูเวนตุส
มาร์เซโล บิเอลซ่า โค้ชบิลเบากล่าวว่า เกมคืนนี้เป็นอีก 1 นัดที่ลูกทีมของเขาต้องพบกับความท้าทายและกดดัน และเขาเชื่อว่าบิลเบาจะคว้าแชมป์ได้สำเร็จ หากสามารถเล่นได้ตามเกมของตัวเอง สำหรับบิลเบานั้นรอบก่อนหน้านี้ เอาชนะทีมยักษ์ใหญ่อย่างแมนยู และ ชาลเก้ มาได้ ซึ่งเฟร์นานโด ยอเรนเต้ กองหน้าของบิลเบาก็มากระตุ้นเพื่อนร่วมทีมให้ช่วยกันสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ถ้วยยุโรปสมัยแรกมาครองให้ได้
เกมนี้ยังเป็นการวัดฝีมือกันของสองกุนซือจากอาร์เจนติน่า โดย ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ โค้ชแอตเลติโก้ มาดริด ยอมรับว่า บิลเบาเป็นทีมที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะลูกกลางอากาศที่ทำได้ดี ขณะที่ ราดาเมล ฟัลเกา ดาวซัลโวสูงสุด 10 ประตูในยูโรป้าลีกของแอตเลติโก้ มาดริด ก็เชื่อว่าทั้ง 2 ทีมต่างก็รู้ทางกันเป็นอย่างดีและรายละเอียดเพียงเล็กน้อย จะเป็นสิ่งตัดสินแชมป์ในคืนนี้
การพบกันของทั้ง 2 ทีมเจอกันในลีก 150 นัด บิลเบาชนะ 64 และแอต.มาดริดชนะ 59 ส่วนการพบกันในรอบชิงครั้งล่าสุด ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 1921 ซึ่งครั้งนั้นบิลเบาชนะแอต.มาดริด 4-1 คว้าแชมป์โคปา เดลเรย์ไปครอง อย่างไรก็ตามการพบกัน 5 นัดหลังสุดในลาลีก้า เป็นแอตเลติโก้ มาดริดที่ทำได้ดีกว่าโดยชนะไป 3 ครั้ง
คืนนี้หากบิลเบาคว้าแชมป์ได้สำเร็จ นอกจากจะเป็นแชมป์สมัยแรกของพวกเขาแล้ว บิลเบายังมีลุ้นคว้าดับเบิ้ลแชมป์ หลังจากผ่านเข้าชิงโคปา เดลเรย์ ซึ่งจะพบกับบาร์เซโลน่า