รมว.พาณิชย์ขู่นำ "ชุดนักเรียน" ขึ้นบัญชีสินค้าควบคุม หากพบขายแพงเกินราคา

เศรษฐกิจ
12 พ.ค. 55
07:03
21
Logo Thai PBS
รมว.พาณิชย์ขู่นำ "ชุดนักเรียน" ขึ้นบัญชีสินค้าควบคุม หากพบขายแพงเกินราคา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตั้งเป้าเปิด "ร้านถูกใจ" ให้ได้ 1,000 แห่งภายในเดือนนี้ หลังร้านค้าทั่วประเทศกว่า 6,000 แห่งขอเข้าร่วมโครงการแล้ว พร้อมเปิดเผยผ่านรายการ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน" ว่า เตรียมลงพื้นที่เดินหน้าตรวจราคาชุดนักเรียน หากพบว่า ขายแพงเกินจริงอาจจะพิจารณาเป็นสินค้าควบคุมต่อไป หลังเสนออาหารปรุงสำเร็จรูป 10 รายการ เข้าครม.ในวันจันทร์นี้ ( 14 พ.ค.) เพื่อเป็นสินค้าควบคุม

ระหว่างจัดรายการ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน" แทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ชี้แจงถึงมาตรการแก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพงว่า เตรียมขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นเวลา 4 เดือน ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะเชิญผู้ประกอบการเข้าร่วมพูดคุย และ ได้รับรายงานจากกรมการค้าภายในว่า ผู้ประกอบการหลายรายพร้อมให้ความร่วมมือ

ขณะเดียวกันจะขยายโครงการธงฟ้า จากเดิมจะจัดงาน 5 วัน ออกไปเป็นครั้งละ 2 เดือน และ จะขยายร้านถูกใจ เพิ่มอีก 1,000 แห่งภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้และเชื่อว่า สินค้าที่มีราคาสูงจะปรับตัวลดลงก่อนสิ้นปีอย่างแน่นอน

ทั้งนี้การประชุมครม.ในสัปดาห์หน้ากระทรวงพาณิชย์จะเสนอให้อาหารปรุงสำเร็จรูปตามเมนูแนะนำจำนวน 10 รายการ เข้าไปอยู่ในบัญชีสินค้าควบคุมด้วย นอกจากนั้นก็จะพิจารณาราคาชุดนักเรียน หากพบว่า ขายเกินจริงอาจต้องนำเสนอให้คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน หรือ กกร.พิจารณาเป็นสินค้าควบคุม

ขณะที่ชาวจังหวัดพิษณุโลกบางส่วนแสดงความไม่พอใจหลังเดินทางมารอซื้อสินค้าราคาถูกตามโครงการ"ถูกทั้งแผ่นดิน สินค้าสหกรณ์ราคายุติธรรม"ที่จัดขึ้นหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองพิษณุโลก แต่เจ้าหน้าที่กลับนำสินค้าออกมาวางจำหน่ายในเวลาประมาณ 10.00 น. ทั้งที่ป้ายประชาสัมพัมธ์กำหนดเวลาขายตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.เช่นเดียวกับที่ลานจอดรถศาลากลางจังหวัดน่าน ที่ผู้ประกอบการ และ เจ้าหน้าที่สหกรณ์ ทยอยนำสินค้าจากกลุ่มสมาชิกสหกรณ์ออกมาวางขายในเวลาประมาณ 10.00 น.เช่นกัน ทำให้ชาวบ้านบางส่วนทนรอไม่ไหว จึงต้องหันไปซื้อสินค้าจากร้านค้าทั่วไปแทน

ส่วนที่จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดยโสธร ประชาชนเดินทางมาเลือกซื้อสินค้าราคาถูกเป็นจำนวนมาก ประชาชนส่วนใหญ่นิยมเลือกซื้อไข่ไก่ และเนื้อหมูซึ่งมีราคาถูกกว่าตามท้องตลาด ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดมหาสารคามสำรวจราคาสินค้าและพืชผักภายในตลาดสดเทศบาล พบว่าผักหลายชนิดปรับตัวสูงขึ้นเกือบเท่าตัว อาทิ ถั่วฝักยาว จากเดิมกิโลกรัมละ 40 ถึง 50 บาท เพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 100 บาท ผักคะน้าจากเดิมมัดละ 10 บาท เพิ่มเป็น 20 บาท

ขณะที่ร้านขายข้าวแกงแห่งหนึ่งในอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา สวนกระแสภาวะเศรษฐกิจ ด้วยการจำหน่ายข้าวแกงถุงละ 10 บาท แม้ว่าขณะนี้วัตถุดิบทั้งประเภทผัก เนื้อ และเครื่องปรุงทุกอย่างจะปรับราคาเพิ่มขึ้น แต่เจ้าของร้าน บอกว่า ยังคงขายในราคาและปริมาณเท่าเดิม

 
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง