มจธ.ขานรับเลื่อนเปิดเทอมกลางเดือน ส.ค.-ก.ย.สอดคล้องกับประเทศสมาชิกอาเซียน

สังคม
15 พ.ค. 55
08:39
25
Logo Thai PBS
มจธ.ขานรับเลื่อนเปิดเทอมกลางเดือน ส.ค.-ก.ย.สอดคล้องกับประเทศสมาชิกอาเซียน

ชี้เป็นการเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ผ่านหลากหลายกิจกรรมกรับน้องสร้างสรรค์ ดึงผู้ปกครองมีส่วนร่วม

 รศ.เชาวลิต ลิ้มมณีวิจิตร รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เปิดเผยถึงการรับน้องใหม่ที่จัดขึ้นในปีการศึกษา 2555 ว่า กระบวนการรับน้องใหม่ของ มจธ.ในปีนี้ เน้นการเตรียมความพร้อมของน้องใหม่จากนักเรียนสู่การเป็นนักศึกษา โดยยึดตามนโยบายที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) วางไว้ ซึ่งในปีที่ผ่านมามีการริเริ่มโครงการ Weeks of  Welcome เป็นกิจกรรมรับน้องที่เน้นการสร้างสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง เพื่อนกับเพื่อน และนักเรียนกับอาจารย์ ซึ่งผลตอบรับเป็นไปด้วยดี และในปีนี้จะมีการนำกิจกรรมนี้มาใช้อีกครั้ง

 
“การรับน้องเป็นกิจกรรมที่สถาบันอุดมศึกษาทุกแห่งให้ความสำคัญ และ มจธ.เเห็นความสำคัญกิจกรรมรับน้องใหม่ Weeks of  Welcome เพื่อต้องการให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์ใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัยที่ถือเป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับคณะ และสาขาวิชาต่างๆ  โดยเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้ด้วย  เพื่อให้ผู้ปกครองได้รับรู้ความเป็นไปของกิจกรรมจากสถาบันที่ลูกหลานของเขาได้มาเรียนตลอดระยะเวลา 4-5 ปี โดยในปีนี้ มจธ.ได้จัดเตรียมคู่มือสำหรับผู้ปกครอง ซึ่งภายในประกอบด้วยปฏิทินกิจกรรม ปฏิทินการสอบ อีเมลล์ และข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้ผู้ปกครองทราบว่ามีกิจกรรมอะไร เวลาไหนบ้าง รวมไปถึงวัน เวลาสอบ และข้อแนะนำดีดีเพื่อให้ผู้ปกครองได้เชื่อมโยงความสัมพันธ์กับนักศึกษา ให้ผู้ปกครองได้ทราบถึงเวลาที่เหมาะสมในการพูดคุย ถามถึงผลการเรียนของลูกหลานว่าเป็นอย่างไร ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะครอบคลุมไปถึงตารางการทำกิจกรรมระหว่างการเรียนการสอนด้วย”
 
 ทั้งนี้ รศ.เชาวลิต ยังกล่าวถึง กระบวนการเสริมสร้างประสบการณ์แก่น้องใหม่ มจธ.ว่า มจธ. มีแผนในการพัฒนานักศึกษารายปี ตลอดทั้งสี่ หรือ ห้าปี ที่ได้ศึกษา ในปีแรกเน้นที่ 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 1.การสร้างความมั่นใจและการพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้  2.การสร้างความสัมพันธ์ในเชิงบวกกับเพื่อนนักศึกษา อาจารย์ และสถาบันการศึกษา 3.การสร้างความตระหนักรู้ว่านักศึกษาเป็นผู้เขียนอนาคตของตนเอง และ 4.การพัฒนาให้เป็นคนที่สมบูรณ์แบบผ่านกิจกรรมทั้งศิลปะ วัฒนธรรม และกิจกรรมเพื่อสังคม
“การที่นักศึกษาเข้ามาเรียนที่นี่เราต้องการให้นักศึกษาเลือกที่จะทำกิจกรรมทั้งในและนอกห้องเรียนเพื่อให้ตัวนักศึกษาสามารถเรียนรู้ได้ครบวงจร เรียนรู้การอยู่ร่วมกันระหว่างเพื่อนต่างถิ่น ต่างวัฒนธรรม เข้าใจในกฎ กติกา ระเบียบวินัย และสุดท้ายอยากจะให้ระลึกถึงการเรียนรู้การพัฒนาศักยภาพของตนในด้านอื่นๆ ด้วย ทั้งการพัฒนาจิตใจและพัฒนาร่างกายของตนเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เติมเต็มชีวิตการเรียนระดับอุดมศึกษาได้มากขึ้น นอกจากนั้นยังได้รับการสนับสนุนจากศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จ เพื่อถ่ายทอดประสพการณ์อันทรงคุณค่าให้อีกด้วย”
 
สำหรับการเลื่อนเปิดเทอมที่เร็วขึ้นของมหาวิทยาลัยในช่วงกลางเดือน สิงหาคม-กันยายน เพื่อปรับเปลี่ยนวันเปิดเทอมให้สอดคล้องกับประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศในภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก นั้น รศ.เชาวลิต เชื่อว่า การปรับเปลี่ยนดังกล่าว จะทำให้นักศึกษามีเวลาเรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียนเพิ่มขึ้น ฉะนั้นในระยะเวลาที่เหลือ 2 เดือนจะเป็นประสบการณ์ที่นักศึกษาได้ไขว่คว้าหาความรู้ และเตรียมพร้อมตนได้อย่างเต็มที่และมีคุณค่ามากที่สุด
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง