บ.เอกชนอ้างเกี่ยวข้ององค์กรอิสระ ส่งจดหมายข่มขู่ ร.ร.ดังกรณีว่าจ้าง "ครูต่างชาติ"

ไทยพีบีเอสได้รับการร้องเรียนจากผู้อำนวยการโรงเรียนที่มีชื่อถูกยื่นตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นของชาติ หรือ ภตช.ยื่นเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.ดำเนินการตรวจสอบโดยพฤติกรรมของแกนนำ ภตช. คนนี้ ถูกตั้งข้อสังเกตว่า มีผลประโยชน์แอบแฝง เนื่องจากมีชื่อเป็นประธานกรรมการ และมีความเกี่ยวข้องกับกรรมการผู้จัดการ บริษัท ที เอ อี มาร์ท กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจัดหาครูชาวต่างชาติมาสอนให้กับโรงเรียน

  
โดยหลักฐานที่เป็นจดหมายจากบริษัทที เอ อี มาร์ท กรุ๊ป ถูกส่งมาถึง นายวิสิทธิ์ ใจเถิง ผู้อำนวยการโรงเรียนพรตพิทยพยัต ในวันที่ 16 มีนาคม 2555 หลังบริษัทไม่ชนะการประมูล เนื่องจากไม่ผ่านหลักเกณฑ์คุณลักษณะของการประกวดราคาการจ้างครูต่างชาติเมื่อปี 2554 โดยเนื้อหาในจดหมาย มีลักษณะข่มขู่ ว่า บริษัทมีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานที่มีอำนาจในการตรวจสอบ อาทิ ป.ป.ช. สตง. ดีเอสไอ และอาจจะตรวจสอบโรงเรียน โดยอ้างว่า เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนรายอื่น

นอกจากนี้ยังพบพฤติกรรมข่มขู่ของประธานกรรมการบริษัทดังกล่าวในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการข่มขู่ด้วยวาจา การส่งจดหมายข่มขู่ โดยเฉพาะการอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่องค์กรอิสระแห่งหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดก็จับได้ว่า เป็นการแอบอ้าง

การข่มขู่ในลักษณะดังกล่าว ยังเกิดขึ้นกับโรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ที่ได้จ้างครูต่างชาติมาสอนเป็นปีที่ 6 แล้ว โดยจัดประกวดราคาบริษัทจัดจ้างครูต่างชาติในทุก ๆ ปี โดยปีนี้ มีบริษัท ที เอ อี มาร์ท กรุ๊ป เข้าร่วมยื่นซองประกวดราคาด้วย แต่เมื่อบริษัทฯไม่ชนะการประกวดราคาและกล่าวหาว่า ทางโรงเรียนล็อคสเปคเป็นเหตุให้ไม่ชนะการประมูล ทั้งที่ความจริงคือ ครูต่างชาติที่บริษัทนำมาทดลองสอนนั้น ขาดคุณสมบัติ ทั้งเรื่องบุคลิกภาพ รูปแบบการสอน รวมถึงทัศนคติ จึงไม่อยากให้บิดเบือนข้อมูล และแสวงหาผลประโยชน์โดยกลุ่มคนที่ไม่หวังดี

ผู้บริหารสถานศึกษาจึงเรียกร้องให้ ป.ป.ช. สตง. ดีเอสไอ ตรวจสอบบ.ที เอ อี มาร์ท กรุ๊ป ที่แอบอ้างชื่อหน่วยงานเหล่านี้ เพื่อไม่ให้บุคคลเหล่านี้ นำชื่อมาแสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจ