ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรียืนยันไม่เห็นด้วยกับคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ในการชะลอการลงมติวาระ 3ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมยืนยันร่างกฎหมายดังกล่าวไม่เข้าข่ายมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญที่ระบุว่าล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้อำนาจมาจากประชาชนที่ผ่านระบบการเลือกตั้ง
โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับระบบศาลคู่ที่ไม่มีการตรวจสอบ พร้อมทั้งเห็นว่าควรจะต้องมีการปรึกษาหารือเรื่อง กฎหมายว่าด้วยเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญที่อาจเข้าไปก้าวก่ายการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติหรือไม่ รวมทั้ง ระบุให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้แจงข้อกฎหมายผ่านสถานีโทรทัศน์อีกครั้งหนึ่ง
ส่วนการออกมาของตุลาการภิวัฒน์ในครั้งนี้สร้างความผิดหวังอย่างยิ่งสำหรับคำวินิจฉัยที่มีการตัดสินออกมา ขณะที่ทางออกในการแก้ปัญหา คือจะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน แต่หากศาลรัฐธรรมนูญยังดื้อดึงจะมีการยื่นชื่อถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
มีรายงานว่า มีคนไปร้องทุกข์ดำเนินคดีกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญควรจะถอยออกจากเรื่องดังกล่าว พร้อมกันนี้ระบุว่าหากรัฐบาลยืนยันจะร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่ทำให้เกิดการชุมนุม วุ่นวายจนไปสู่ความรุนแรง
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.ปรองดองที่ตนเองร่างขึ้นว่าหากร่างนี้ได้เสนอเชื่อว่าจะมีความเรียบร้อยเกิดขึ้น เพราะทั้ง 6 มาตราสามารถอธิบายทำความเข้าใจกับประชาชนได้อย่างชัดเจน ส่วนร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติทั้ง 4 ฉบับจะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ ตนไม่ขอแสดงความเห็น แต่ขอยืนยันว่าที่รัฐบาลเร่งรัดเป็นเพราะได้่มีการหาเสียงไว้กับประชาชน
เมื่อกล่าวถึงการโยกย้ายผู้บัญชาการและรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลไปช่วยราชการสำนัก งานตำรวจแห่งชาติ 1 เดือนนั้น ร.ต.อ.เฉลิม มีความเห็นว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะต้องพิจารณาตามความเหมาะสมไม่เกี่ยวกับความไม่เด็ดขาดในการควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯที่ปิดล้อมสภาฯจนส.ส.ไม่ สามารถเข้าร่วมประชุมสภาฯได้
ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวให้คำมั่นสัญญาในฐานะที่ตนเองกำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะไม่ใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมและไม่อยากให้เกิดการปะทะเกิดขึ้นอีกเหมือนสมัยรัฐบาลที่ผ่านมา