ผู้ว่าฯกระบี่สั่งตรวจสอบที่มา
ป่าชายเลนนับพันไร่ใน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ กำลังได้รับผลกระทบจากปัญหาคราบน้ำมันเตากว่า 10,000 ลิตร รั่วลงทะเลจากเหตุเรือประมงดัดแปลงชนโขดหินเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่สั่งให้ตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบขนน้ำมันเถื่อนหรือไม่ ขณะที่นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม กังวลว่า จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ทางทะเล
ปลาเก๋าในกระชังของชาวประมง หลายสิบราย บริเวณอ่าวบ้านแหลมกรวด ตำบลคลองขนาน อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ทยอยตายต่อเนื่อง เพราะขาดออกซิเจนซึ่งเป็นผลกระทบจากน้ำมันเตาที่รั่วไหล ลงทะเลกว่า 10,000 ลิตรนอกจากคราบน้ำมันที่เกาะตาข่ายกระชังปลาแล้วยังปกคลุมผิวน้ำในรัศมี 10 กิโลเมตรบริเวณป่าชายเลน อ่าวบ้านแหลมกรวด รวมพื้นที่นับ 1,000 ไร่ ซึ่งจุดนี้เป็นแหล่งอาศัย และ แพร่พันธ์สัตว์น้ำขนาดเล็ก หากไม่เร่งใช้ทุ่นกวาดคราบน้ำมัน และ ขุดลอกดินจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์
น้ำมันเตานับ 10,000 ลิตร รั่วลงทะเล เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน หลังเรือ อ.สมศักดิ์ พยายามถ่ายน้ำมันให้รถบรรทุกบริเวณท่าเทียบเรือเอกชนแห่งหนึ่ง ในตำบลคลองขนาน แต่เสียหลักชนโขดหิน จนท้องเรือแตก
ส่วนการตรวจสอบที่มาของน้ำมัรนเตา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อ้างว่า ไม่มีข้อมูลว่ามาจากไหน และ จัดส่งให้หน่วยงานใดรวมถึงยังไม่มีการเข้าตรวจสอบเรือดังกล่าว จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นสรรพสามิตกระบี่ ปรับเงิน 100,000 บาท กับเจ้าของเรือ อ.สมศักดิ์ และ ปล่อยตัว โดยไม่สอบสวนเพิ่มเติม
ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ได้สั่งตรวจสอบที่มาว่าเป็นขบวนการลักลอบขนถ่ายน้ำมันเถื่อนหรือไม่ นอกจากนี้จังหวัดกระบี่ ยังเตรียมกำหนดมาตรการแก้ปัญหาระยะยาวให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มการตรวจสอบเรือทุกชนิดป้องกันเกิดเหตุซ้ำ และป้องปรามขบวนการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน โดยจะบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวดมากขึ้น
