นักวิชาการผลักดัน พ.ร.บ.ยา ฉบับใหม่ให้ครอบคลุมปัญหาขายยาราคาแพง
หลังบริษัทยา แกล็กโซสมิธไคลน์ แอลแอลซี หรือ จีเอสเค รับสารภาพผิด และยอมจ่ายค่าปรับเกือบ 100,000 ล้านบาท ในความผิดทั้งคดีอาญาและแพ่งในหลายข้อหา เช่น ทำการตลาดยาไม่ตรงกับข้อบ่งใช้ที่ขึ้นทะเบียนกับองค์การอาหารและยา ของสหรัฐอเมริกา, ปิดบังความไม่ปลอดภัยของยา และทำงานวิจัยปลอมอ้างอิงว่ายาปลอดภัย, ติดสินบนบุคลากรทางการแพทย์เพื่อสั่งจ่ายยา และจำหน่ายยาราคาแพงเกินจริงให้กับระบบหลักประกันสุขภาพ
นักวิชาการด้านยา บอกว่า คดีนี้เป็นกรณีแรกที่มีการสั่งปรับมากที่สุด จากที่เคยมีการสั่งปรับบริษัทยาอื่นๆ มาแล้วกว่า 10 คดี และเป็นคดีประวัติศาสตร์ ที่ชี้ให้เห็นชัดเจน ถึงพฤติกรรมความร่วมมือ ของบริษัทยากับบุคลากรทางการแพทย์ ที่หาผลประโยชน์จากชีวิตผู้ป่วยอย่างไร้จริยธรรมแต่กลับไม่สามารถลงโทษผู้กระทำผิดในคดีอาญาได้ เพราะกฎหมายยังไม่ครอบคลุม ซึ่งทำได้เพียงการสั่งปรับเงินเกือบ 100,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นแค่ 1 ใน 3 ของกำไรสุทธิที่บริษัทยาสามารถหาได้ภายในปีเดียวเท่านั้น
ขณะที่สถานการณ์ การขายยาราคาแพง และการส่งเสริมการขายยาอย่างขาดจริยธรรมในประเทศไทย ก็น่าวิตกกังวลไม่น้อยไปกว่าคดีนี้ เพราะ พ.ร.บ.ยา ปี 2510 ที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน ยังมีช่องว่าง และไม่ครอบคลุมปัญหา
นักวิชาการ และเครือข่ายภาคประชาชน ยังเรียกร้อง ให้ผู้บริโภคร่วมกันตรวจสอบ และเฝ้าระวังพฤติกรรมการขายยาที่ไม่ถูกต้องตามหลักจริยธรรม หากพบการกระทำที่ไม่เหมาะสมให้แจ้งมาที่สภาเภสัชกรรม เพื่อดำเนินการเอาผิดต่อไป และขอให้นายกรัฐมนตรี เร่งลงนามร่างแก้ไข พ.ร.บ.ยา ฉบับภาคประชาชน และผลักดันร่าง พ.ร.บ.ยา ฉบับของกระทรวงสาธารณสุข เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ออกเป็นกฎหมายโดยเร็ว เพื่อปกป้องไม่ให้ผู้ป่วยถูกเอาเปรียบจากบริษัทยา