"ยาหม่อง" อีกช่องทางธุรกิจเสริมของคนบันเทิง

Logo Thai PBS
"ยาหม่อง" อีกช่องทางธุรกิจเสริมของคนบันเทิง

อาชีพในวงการบันเทิงอาจไม่ยั่งยืนนักแสดงหลายคนหาอาชีพและธุรกิจเสริม เช่นเดียวกับ วรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์ ที่ใช้โอกาสจากการได้ศึกษางานวิจัยคุณสมบัติของพริกนำความรู้มาต่อยอดทำผลิตภัณฑ์ยาหม่องใช้เวลาร่วม 3 ปี จนได้ยาหม่อง "เดอะ กอลิล่า" ซึ่งเจ้าตัวฝันว่า จะเปิดตลาดในอินเดีย

ให้ความร้อนเช่นเดียวกับน้ำมันระกำแต่ไม่มีกลิ่นและช่วยขยายหลอดเลือด คือ คุณสมบัติของสารแคปไซซิน หรือ แคปซิคัมในพริก ที่ น็อต-วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์ เลือกใช้เป็นส่วนประกอบแทนน้ำมันระกำในยาหม่อง เดอะ กอลิล่า ด้วยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย หรือ สกว. ศึกษาคุณสมบัติของพริกพิโรธที่มีความเผ็ดที่สุดในโลกและให้สารแคปไซซินที่เข้มข้น

ต่อยอดจากงานวิจัยเดิมที่ใช้ผสมในอาหารสัตว์เร่งการเติบโตกลายเป็นยาหม่องเจล ที่ให้ความร้อน ช่วยให้เลือดหมุนเวียนและคงคุณสมบัติอยู่บนผิวหนังนานกว่ายาหม่องทั่วไป ความรู้ที่ได้จากการทำรายการวิทยาศาสตร์ทำให้นักแสดงหนุ่มมีโอกาสได้ศึกษาเพิ่มเติมและขยายองค์ความรู้จนนำไปสู่ธุรกิจ อีกอาชีพนอกจากการเป็นนักแสดง

กว่า 2 ปีที่ น็อต-วรฤทธิ์ ทดลองปลูกพริกพิโรธซึ่งเป็นสายพันธ์ที่เผ็ดที่สุดในโลกภายในโรงเรือน 2 หลังขนาดพื้นที่ 7x20 เมตรที่จังหวัดนครนายก โดยได้รับคำแนะนำจาก สกว.ภายใต้ความร่มครึ้มของต้นไม้และมีอากาศชื้นเกือบทั้งปีทำให้พริกพิโรธซึ่งมีถิ่นกำเนิดในอินเดียเติบโตสมบูรณ์ให้ผลผลิตพริกที่เผ็ดที่สุด และเก็บเกี่ยวได้อย่างสม่ำเสมอทุกเดือน

เข้ามาในโรงเรือนนี้ก็จะรู้สึกแสบที่ผิว เพราะว่าความเผ็ดของพริกที่กระจายมาตามอากาศด้วย ซึ่งพริกพิโรธนั้นตั้งแต่ออกดอกจะใช้เวลาประมาณ 20 วันจนสุกและกลายเป็นแดงทั้งหมด ซึ่งถือว่า เป็นช่วงที่เผ็ดที่สุด และการปลูกในโรงเรือนแบบนี้เพื่อป้องกันน้ำฝนทำให้สามารถควบคุมปริมาณน้ำได้ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการดูแลพริกพิโรธ

โรงเรือนไม่เพียงป้องกันแมลง แสงแดด และ น้ำฝน ยังง่ายต่อการควบคุมปริมาณน้ำ ในหน้าฝนที่ดินมีความชื้นสูงจะลดการรดน้ำลงครึ่งหนึ่งจากปกติ และ หมั่นพรวนดินอยู่เสมออาจเป็นวิธีการดูแลที่ไม่ได้ยากนัก หากต้องใส่ใจและคอยสังเกตการเปลี่ยนแปลง ทุกวันผู้ดูแลจึงต้องตรวจการเติบโตและความเปลี่ยนแปลงของพริกเพื่อให้ได้ผลพริกแก่สีแดงสดก่อนเก็บเกี่ยวทุกๆ 20-30 วัน

ใช้เวลาตั้งแต่เริ่มศึกษาข้อมูลจนถึงปลูกพริกพิโรธด้วยตัวเองร่วม 3 ปีก่อนออกมาเป็นยาหม่อง "เดอะ กอลิล่า" ที่วางตลาดได้ไม่ถึง 2 เดือน แม้จะลงทุนไปกับการทำวิจัยและทดลองปลูกพริกค่อนข้างสูงแต่ความฝันตั้งแต่วัยเด็กของนักแสดงวัย 34 ปีที่อยากเป็นเกษตรกรการได้ปลูกพริกแปลงเล็ก ๆ ทำให้ฝันของเขาเป็นจริง และการนำความรู้ที่ได้จากการเป็นพิธีกร ต่อยอดจนเป็นธุรกิจและใช้ความคิดสร้างสรรค์ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้สวยงาม หวังกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นไทยไปจนถึงชื่อ เดอะ กอลิล่า ที่มองการณ์ไกลนำลิง เผ่าพันธุ์เทพหนุมานที่ชาวฮินดูในอินเดียนับถือเป็นชื่อสินค้า หวังขยายตลาดยาหม่องไปสู่อินเดียและพัฒนาให้เป็นสินค้าส่งออกของไทยในอนาคต 

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง