พณ.เตรียมนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มเพื่อพยุงราคาน้ำมันระยะสั้น
หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ได้เตรียมนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบจากต่างประเทศเพิ่มเติม เพื่อแก้ปัญหาราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศปรับตัวสูงขึ้น เพื่อให้ผู้ผลิตสามารถนำไปผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุขวดขนาด 1 ลิตรขายในราคา 42 บาท นายอัสนี มาลัมพุช นายกสมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม กล่าวว่า การนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบในขณะนี้สามารถทำได้ เพราะขณะนี้ปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์มดิบลดลงอยู่ที่ 140,000 ตัน จากระดับที่เหมาะสมที่ 190,000 ตัน เนื่องจากสภาพอากาศส่งผลให้ผลผลิตปาล์มออกสู่ตลาดน้อย ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศปรับตัวสูงขึ้นที่กิโลกรัมละ 35-36 บาท เมื่อเทียบกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่กิโลกรัมละ 30 บาท ทำให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนในการผลิตน้ำมันปาล์มสูงขึ้นทำให้การผลิตแต่ไม่สามารถปรับราคาจำหน่ายได้
การนำเข้าน้ำมันปาล์มเพิ่มเติมสามารถทำได้ จากก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์ได้ขออนุมัติ คณะกรรมการปาล์มน้ำมันแห่งชาติหรือ กนป.ไว้ที่ 40,000 ตัน และนำเข้ามาแล้ว 10,000 ตัน ซึ่งจะทำให้ผู้ผลิตยังคงสามารถตรึงราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวดไว้ที่ 42 บาทได้
นางวิวรรณ บุญยประทีปรัตน์ เลขาธิการสมาคมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หากรัฐบาลจะนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบควรเร่งนำเข้าในช่วงนี้เพื่อไม่ให้กระทบกับ เกษตรกรชาวสวนปาล์มมากเนื่องจากขณะนี้ผลผลิตปาล์มยังออกสู่ตลาดไม่มากและ ราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศสูงกว่าประเทศมาเลเซีย 5 บาท การนำเข้าจะช่วยให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศอ่อนตัวลง เพื่อให้ผู้ผลิตสามารถผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุขวดได้เนื่องจากขณะนี้ผู้ผลิตหันไปผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุถุง และปี๊บมากขึ้น โดยเห็นว่าการแก้ปัญหาระยะยาวนั้นควรปล่อยไปตามกลไกตลาดเพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง
เนื่องจากราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดที่ลิตรละ 42 บาท นั้นใช้โครงสร้างราคาน้ำมันปาล์มดิบที่ลิตรละ 29 บาท แต่ปัจจุบันราคาน้ำมันปาล์มดิบสูงถึงกิโลกรัมละ 35-36 บาท ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะให้ผลิตคงราคาจำหน่ายที่ลิตรละ 42 บาท ซึ่งทางออกนอกจากการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบแล้ว ยังมีทางออกอื่นเช่น การปรับราคาตามต้นทุนวัตถุดิบ หรือ การชดเชยให้กับโรงกลั่นหรือโรงสกัด หากรัฐบาลต้องการตรึงราคาขายที่ 42 บาท
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ สั่งการให้กรมการค้าภายใน ติดตามสถานการณ์น้ำมันปาล์ม และจัดเตรียมมาตรการดูแลไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลน และราคาแพงอย่างในปี 2553 เนื่องจากมีการร้องเรียนจากสมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม และโรงงานผู้ผลิตน้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภค ว่าน้ำมันปาล์มออกสู่ตลาดน้อยจากผลผลิตปาล์มสดลดลงเดือนละ 25% หากปล่อยไว้สต็อกขาดเหลือ 1.3 แสนตัน และราคาในประเทศสูงขึ้นมาก
โดยราคาน้ำมันปาล์มดิบในไทยสูงกว่าต่างประเทศถึงกิโลกรัมละ 5 บาท ถือว่าเข้าขั้นอันตรายที่จะกระทบต่อสินค้าขาดและราคาแพง โดยกระทรวงพาณิชย์เตรียมพิจารณาให้กระทรวงพาณิชย์นำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศ และต่อระยะเวลาการเก็บภาษีส่งออกน้ำมันปาล์มที่ได้สิ้นสุดในเดือนมิถุนายนไปอีกระยะ