จนท.แนวชายแดนไทย-กัมพูชาตรวจเข้มคนเข้าเมือง เฝ้าระวังโรคมือเท้าปาก
แพทย์โรงพยาบาลบ่อไร่ อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด ระบุว่าเด็กชายสง วัย 1 ขวบ 5 เดือน ชาวพม่าเป็นโรคมือเท้าปาก โดยเท้าและฝ่ามือทั้งสองข้างของเด็กชายสงอยู่ในสภาพเป็นแผลผุพอง มารดาของเด็กชายสงกล่าวว่า บุตรชายเริ่มมีอาการคัน ผื่นขึ้นฝ่ามือ -เท้า มีอาการไข้ และแผลที่กระพุ้งแก้ม ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา จึงพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลบ่อไร่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขได้เข้าไปดูแล พร้อมใช้น้ำยาทำความสะอาดภาชนะ และ พื้นห้อง พร้อมกำชับไม่ให้ผู้ป่วยเข้าไปในแหล่งชุมชนจนกว่าจะหายเป็นปกติ
ส่วนที่จังหวัดศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ เพิ่มความเข้มในการตรวจคัดกรองชาวกัมพูชาที่จะผ่านเข้าออก โดยเฉพาะเด็กชาวกัมพูชา หากพบว่าป่วย หรือ มีอาการต้องสงสัย ก็จะไม่อนุญาตให้เข้าฝั่งไทย หลังสำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ 7 อุบลราชธานี เตือนให้ 7 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคมือเท้าปาก โดยล่าสุดพบผู้ป่วยแล้วกว่า 600 คน
ส่วนที่โรงพยาบาลกาบเชิง อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ตั้งจุดตรวจคัดกรองผู้ป่วย บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม พ.ต.นพ.ศตวรรษ สินประสิทธิ์กุล ผู้อำนวยโรงพยาบาลกาบเชิง ระบุว่า ตั้งแต่เดือนมกราคมมีเด็กชาวกัมพูชา ป่วยเป็นโรคมือเท้าปาก มารักษาที่โรงพยาบาล 2 คน ชาวไทย 34 คน แต่เป็นเชื้อที่ไม่รุนแรง เหมือนการแพร่ระบาดในกัมพูชา
ส่วนที่จังหวัดน่านเริ่มมีการระบาดในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 10 ปีแล้วเช่นกัน โดยตั้งแต่ต้นปีพบผู้ป่วยแล้ว 193 คน มากที่สุด ที่อำเภอบ่อเกลือ ชายแดนไทย-ลาว ซึ่งมีเด็กชาวลาวรวมอยู่ด้วย ขณะที่แพทย์แนะนำให้ศูนย์เด็กเล็ก และโรงเรียน เน้นการป้องกัน ด้วยการมั่นตัดเล็บเด็กให้สั้น ล้างมือเท้าอย่างถูกวิธี รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ แต่ยังไม่พบเชื้อที่มีสายพันธุ์รุนแรง
เช่นเดียวกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกที่เน้นย้ำให้ ศูนย์เด็กเล็ก และโรงเรียนในพื้นที่ คัดกรองเด็กเป็นประจำทุกวัน รวมทั้งให้นำเด็กต้องสงสัย ไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย หลังจากต้นปีที่ผ่านมา จังหวัดพิษณุโลก พบผู้ป่วยโรคมือเท้าปาก 156 คน โดยในเขตอำเภอเมืองพิษณุโลกพบมากผู้ป่วยมากที่สุดจำนวน 87 คน