ในแสงสว่างของโลกยุคโซเชียลมีเดีย ยังมีเงาของอดีตอันเป็นรากฐานมั่นคงแห่งตัวตน เมื่อคุณไปเที่ยวตามโบราณสถาน ในช่วงวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ ช่วงไฮไลท์เด่นของค่ำคืนมักจะมีการเสียงประดาบจากการแสดงรำดาบ ทวน หอก รวมถึงมวยคาดเชือก อันเป็นศิลปะการต่อสู้ที่งดงามและให้ความบันเทิงกับผู้คน เบื้องหลังสำคัญในมุมหนึ่งของวงการนั้นคือ “ครูสหัส” นันทพันธ์ นาคยิ้มทวีสิน ผู้ก่อตั้งสำนักดาบ เรือนนเรศ หรือชมรมอาวุธไทยโบราณ เรือนนเรศ จ.พิษณุโลก เจ้าของอดีตชีวิตการเป็นผู้จัดการบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ยอมทิ้งเงินเดือนหลักหมื่นมาตั้งสำนักดาบ สืบสานศิลปะด้วยใจรักในศาสตร์และศิลป์แห่งอาวุธไทยโบราณ ด้วยใจรักจึงพาให้เขาเดินทางไกลมาสู่หนทางจากนักสะสมอาวุธโบราณ สู่การเป็นครูสอนศิลปะการต่อสู้ ต่อยอดสืบสานศิลปะโบราณ สร้างงานสร้างอาชีพให้กับลูกศิษย์ นี่คือเรื่องราวของนักดาบที่สู้จนสร้างหนทางแห่งดาบโบราณในยุคสมัยใหม่ให้กับลูกหลานในรุ่นต่อไป ด้วยใจที่หลงใหล้ในศิลปะการต่อสู้โบราณพร้อมสู้ในทุกหนแห่งบนแผ่นดินไทยสมชื่อว่า “นักดาบเรือนนเรศ” ติดตามชีวิตครูรหัสนักดาบโบราณผู้สู้สู่ยุคสมัยใหม่ ในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน นักดาบเรือนนเรศ วันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม 2566 เวลา 14.05 - 14.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/Live">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร

ThaiPBS VOD

นักดาบเรือนนเรศ

โดยปกติแล้วคนพิการมักต้องการโอกาสเพื่อความเท่าเทียมจากสิ่งที่ขาดไป แต่ “อาจารย์บอย” ธีระพงษ์ ศักดิ์แก้ว กลับเป็นผู้ให้โอกาส ในฐานะโปรดิวเซอร์และมิวสิคไดเรคเตอร์ของค่ายแพลงลูกทุ่งชื่อดังอย่างค่ายแกรมมี่ โกลด์ เขาคือผู้อยู่เบื้องหลังศิลปินลูกทุ่มชื่อดังมากมาย จนได้ชื่อว่าเป็น “นักปั้นมือทอง” เส้นทางชีวิตเริ่มต้นจากวัยเด็กที่ประสบอุบัติเหตุตกบันได เปลี่ยนชีวิตทำให้เขาเป็นโปลิโอพิการขาทั้งสองข้าง ชีวิตยาวนานจากนั้นจึงต้องสู้ด้วยใจที่ศรัทธาในตัวเองอย่างเกินร้อย พยายามมากกว่าคนปกติหลายเท่า เพื่อก้าวด้วยไม้เท้าทั้งสองข้าง ผ่านทุกอุปสรรค มากกว่า 10 ปี ของชีวิตในวงการ ผ่านงานเบื้องหลังความสำเร็จของศิลปินมากมาย ก๊อท จักรพันธ์, ไมค์ ภิรมย์พร, ศิริพร อำไพพงษ์, ต่าง อรทัย, ตั๊กแตน ชลดา เหล่านี้คือเครื่องพิสูจน์ ความฝันยิ่งใหญ่ก้าวถึงได้แม้ไม่มีขาแต่มีใจที่รักในเสียงเพลง ทุกวันนี้อาจารย์บอยใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย มีความฝันของตัวเองและปั้นฝันของคนอื่นเป็นดาวประดับลงการต่อไป ติดตามชีวิตอาจารย์บอยคนพิการที่ให้โอกาสคน ในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน นักปั้นมือทอง วันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม 2566 เวลา 14.05 - 14.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/Live">www.thaipbs.or.th/Live</a>

นักปั้นมือทอง

หัวใจของคนเป็นครูยิ่งใหญ่เพียงใด...เรื่องราวของ “ครูด่วย” ธัญสุดา หยกภู อาจตอบคำถามนี้ได้ ด้วยส่วนสูงเพียง 110 เซนติเมตร แต่รับผิดชอบทำหน้าที่ครูพี่เลี้ยงบนดอยเพื่อเด็กยากจนมายาวนานกว่า 20 ปี แม้จะเป็นเพียง “ครูตัวเล็กแต่ก็มีหัวใจดวงใหญ่เกินตัว” โรงเรียนบ้านขุนตื่น ตำบลสบโขง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นโรงเรียนบนดอยห่างไกล โอกาสยิ่งห่างไกลกว่า ทว่าครูด่วยก็ทำงานหนัก แม้มีอุปสรรคมากมายขวางกั้น ร่างกายที่มีความผิดปกติด้วยโรคกระดูก หูซ้ายที่ไม่ได้ ทว่ากลับไม่สามารถขวางกั้นการทำหน้าที่ครู หน้าที่ครูที่เริ่มต้นตั้งแต่ตีหนึ่งยาวนานจนถึงสองทุ่ม ทั้งดูแลให้เด็กมีที่กินที่นอนในโรงเรียน รับส่งเด็กไปกลับ จนถึงหาทุนหาโอกาสให้เด็กได้เรียนต่อ แม้ครูด่วยเรียนจบเพียงมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 แต่หัวใจของครูยิ่งกว่าใหญ่กว่าร่างกายได้ส่งให้เด็กหลายคนจบการศึกษาไปถึงระดับปริญญาตรี ติดตามชีวิตครูร่างกายเล็กแต่หัวใจใหญ่ ในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน ครูเล็กหัวใจใหญ่ วันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคม 2566 เวลา 14.05 - 14.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/Live">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ครูเล็กหัวใจใหญ่

เสียงพิณคือเสียงแห่งภาคอีสาน ทว่าเสียงพิณในมือเด็กน้อยกลับขับบรรเลงอยู่ ณ พื้นที่ปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เสมือนชีวิตเจ้าของ “ฟาโร” มือพิณรุ่นเยาว์และครอบครัวพลัดจากถิ่นเกิดจังหวัดยโสธรมาอยู่อาศัย อย่างคนสู้ชีวิตแบบตายเอาดายหน้าในฐานะ “พิณพลัดถิ่น” เด็กน้อยมีฝีพิณไพเราะเปี่ยมพรสวรรค์เกินวัย ฝึกหัดจากอินเทอร์เน็ตด้วยตัวเอง ปรับปรุงตามคำแนะนำของพ่อบ้าง ชีวิตพลัดถิ่นมีบททดสอบที่ยากเสมอ ครอบครัวต้องปรับชีวิตมองหางานมั่นคงเพื่อสนับสนุนความฝันของลูกชาย แม้ครอบครัวจะหาให้ได้เพียงพิณจะมีราคาถูกที่สุด แต่ก็มิอาจขัดขวางความฝันและความพยายาม ฟาโรฝึกพิณจนมีฝีมือเก่งพอที่จะขึ้นเวทีออกแสดงโชว์ตามงานต่าง ๆ ชีวิตพิณพลัดถิ่นของฟาโร งานแสดงโชว์ที่ทำด้วยใจรัก การใช้ชีวิตที่ประหยัดมัธยัสถ์เพื่อวางรากฐานการเรียนเพื่อฝันต่อไป และรอวันนึงที่เสียงพิณหวนคืนสู่ถิ่น ไปบรรเลงที่บ้านเกิด ด้วยโอกาสที่ใกล้เข้ามา เมื่อฟาโรได้โอกาสแสดงโชว์ที่บ้านเกิดจังหวัดยโสธร ที่งานประเพณีบุญบั้งไฟอันเป็นงานใหญ่หนึ่งของชีวิต ติดตามชีวิตพิณพลัดถิ่นของฟาโร ในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน พิณพลัดถิ่น วันเสาร์ที่ 15 กรกฎาคม 2566 เวลา 14.05 - 14.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/Live">www.thaipbs.or.th/Live</a>

พิณพลัดถิ่น

“ครูบุปผา” บุปผาชาติ หมุนสา วัย 75 ปี ครูใหญ่วัยเกษียณที่ยังคงทำหน้าที่ครูที่ดำเนินมาอย่างยาวนานเกินกว่าครึ่งค่อนชีวิต หลังจากบรรจุเป็นครูที่โรงเรียนวิชาวดี จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อ 56 ปีก่อน นับจากวันแรกถึงวันนี้เธอยังคงให้การศึกษา และให้โอกาสทางการศึกษากับเด็กด้อยโอกาส เพราะโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนเอกชนที่ไม่เก็บค่าเทอมแม้แต่บาทเดียว เงินที่ใช้ดำเนินการส่วนนึงมาจากการสนับสนุนของรัฐบาล ส่วนที่เหลือครูบุปผาต้องหาเองจากการขายห่อหมกและทอดมันปลากราย เพื่อเด็ก ๆ เธอจึงสู้อย่าง “ครูใหญ่หัวใจไม่ท้อ” เด็กนักเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้มีทั้งหมดประมาณ 80 คน มีทั้งเด็กไทยและเด็กต่างด้าว ทุกชีวิตทุกโอกาสมีค่าใช้จ่าย ทั้งค่ากิน ค่าอยู่ ค่าเรียน เด็กทุกคนได้ฟรีทั้งหมดจากโรงเรียน และทีมครูบุปผาและบุคลากรของโรงเรียนซึ่งประกอบด้วย ครู 7 คน แม่บ้าน 2 คน และตัวครูบุปผาเอง ต้องช่วยกันหารายได้มาช่วยเหลือ ติดตามชีวิตครูใหญ่ที่หัวใจใหญ่กว่า ในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน ครูใหญ่หัวใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 8 กรกฎาคม 2566 เวลา 14.05 - 14.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/Live">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ครูใหญ่หัวใจไม่ท้อ

หม้อมีรูแค่รูเดียว คงใช้ทำอาหารไม่ได้ แม้มีแค่รูเดียวก็อาจจะต้องโยนทิ้ง เพราะโยนทิ้งคงง่ายกว่าจะหาช่างมาซ่อม เพราะช่างปะซ่อมหม้ออาจจะเหลือเพียงคนเดียว และเป็นคนสุดท้ายแล้วนั่นคือตาเล็ก นำพา ในวัย 90 ปี ชาวอำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท ผู้เป็นที่รู้จักในชื่อ คุณตาบัดกรี เขาขับจักรยานคันเก่าแต่เก๋าไปตามหมู่บ้าน ร้องเรียกลูกค้า “บัดกรีไหม ? บัดกรีไหม ?” หม้อมีรูมากน้อยแค่ไหน กว่า 65 ปีที่เขาปะปิดคืนชีพให้กับหม้อข้าวเครื่องใช้ในราคาหลัก 2 บาทต่อรู เพียง 2 บาท ก็สามารถเปลี่ยนหม้อที่ใช้การไม่ได้เป็นหม้อที่ใช้ได้ดี ก็เหมือนชีวิตของตาเล็ก แม้อายุ 90 ปีแล้ว แต่ยึดอาชีพปะรู ปิดซ่อมหม้อเหล่านี้ ทำงานอย่างไม่มีวันหยุดในทุกวันของชีวิต เป็นชีวิตเล็ก ๆ ที่มีคุณค่าช่วยให้เติมเต็มจุดหนึ่งของสังคมให้สมบูรณ์และขับเคลื่อนต่อไปได้ยาวนาน นานจนได้ชื่อเป็นคุณตาสี่แผ่นดิน ตามติดชีวิตที่ช่วยปิดรูเล็ก ๆ แต่มีความหมายที่ยิ่งใหญ่ ในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน คุณตาสี่แผ่นดิน วันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม 2566 เวลา 14.05 - 14.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/Live">www.thaipbs.or.th/Live</a>

คุณตาสี่แผ่นดิน

หนังตะลุงถือเป็นมหรสพเก่าแก่ที่มีมาอย่างช้านาน ศิลปินผู้อยู่เบื้องหลังฉากกั้นและแสงไฟถูกเรียกกันว่า “นายหนัง" โดยมากแล้วมักจะผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญ แต่ “สิทธิพงษ์ ขำเพชร” หรือ “นายพล” กลับก้าวขึ้นมาเป็น “นายหนัง” เจ้าของคณะหนังตะลุง “นายพล ศิษย์เชิดชำนาญ” ด้วยวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น จนได้ชื่อว่าเป็นนายหนังที่อายุน้อยที่สุดของจังหวัดเพชรบุรี เด็กหนุ่มได้พบกับฝันบนเส้นทางสายหนังมาตั้งแต่เด็ก แม้ยากจนแต่ก็ฟันฝ่าตามฝันอย่างไม่ลดละ หากไม่มีหนังก็หาซื้อมาแกะ มาทำขึ้นด้วยตัวเอง เมื่อไม่มีความรู้ก็อาศัยความชอบ ตามฝึกตามดูอย่างครูพักลักจำจากคณะหนังตะลุงมากมายในเมืองเพชร แล้วฝึกเชิด ฝึกร้อง ฝึกพากย์เสียงและเล่นดนตรีด้วยตัวเอง “คณะหนังตะลุงเด็ก มันจะไปสนุกเหรอ ?” คือคำครหาเมื่อผู้คนได้เห็นเด็กหนุ่มอยู่หลังฉาก แต่ลีลาการเชิดหนังที่สนุกสนาน เร้าใจ ชั้นเชิงการเล่นกับคนดูที่เก่งเกินวัย และใจที่รักในหนังตะลุงก็สร้างสรรค์มหรสพที่ทำให้ผู้ชมต้องประทับใจมาแล้วนักต่อนัก หลังจากสูญเสียพ่อ...เขาต้องลาออกจากโรงเรียนเพื่อทำงานเชิดหนังตะลุงและก็ยังคงเรียนต่อกศน. เพื่อเดินตามความฝัน ต่อยอดความสำเร็จ ฝึกฝนเพื่อให้เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง อนุรักษ์มหรสพเก่าแก่ให้ดำรงอยู่ต่อไปและเป็นเสาหลักของครอบครัวให้ได้ในฐานะ “นายหนังน้อย” ตามติดชีวิตนายหนังที่อายุน้อยที่สุดแห่งเมืองเพชร ในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน นายหนังน้อย วันเสาร์ที่24 มิถุนายน 2566 เวลา 14.05 - 14.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/Live">www.thaipbs.or.th/Live</a>

นายหนังน้อย

ท่ามกลางยุคสมัยแห่งหนัง ซีรีส์สตรีมมิ่งที่ผู้คนดูหนัง เสพความบันเทิงอยู่กับบ้าน โรงหนังว่าตายแล้ว แล้วคนวาดโปสเตอร์หนังติดตามโรงหนังละ จะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร ? กว่า 40 ปี ลุงสมชาย กองศรี ยึดอาชีพช่างวาดป้ายคัตเอาต์หนังให้กับโรงภาพยนตร์ซุ่นเฮงพลาซ่า อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ และในวัย 64 ปี ผ่านร้อนผ่านหนาวของชีวิตมามากมาย หลายคนล้มหายตายจากไปจากวงการ จนเหลือเขาเป็นศิลปินคนสุดท้ายของภาคอีสานบนเส้นทางนี้ แม้โลกจะเผชิญกับสถานการณ์โควิด ที่ทำให้ผู้คนเข้าโรงหนังน้อยลง แม้โลกจะอยู่ในกระแสของสตรีมมิ่งดูหนังผ่านเน็ต ที่ยิ่งทำให้พฤติกรรมของผู้คนเปลี่ยนไป แต่ลุงสมชายก็ยังคงยึดฝีแปลงเป็นอาชีพ ตวัดไปบนผืนผ้าใบรังสรรค์โปสเตอร์หนัง หลายต่อหลายเรื่องออกมา ตกแต่งประดับเพื่อบอกประกาศถึงความยิ่งใหญ่ของหนังเรื่องดังที่กำลังเข้าฉายอยู่ในโรง แม้รายได้จะลดลงในหลายช่วงชีวิต แต่การได้ดำรงชีวิตอยู่ให้ได้ด้วยสิ่งที่รักนั้นดูจะเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าสำหรับชีวิตศิลปินอย่างเขา ตามติดสำรวจชีวิตศิลปินสุดทระนงของคนวาดคัตเอาต์หนังคนสุดท้ายแห่งภาคอีสาน แม้โลกเปลี่ยนแต่ใจยังยึดฝีแปลงเลี้ยงชีวิตไว้มั่น ในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน คนวาดหนัง วันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน 2566 เวลา 14.05 - 14.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/Live">www.thaipbs.or.th/Live</a>

คนวาดหนัง

2 คน 1 หมากับซาเล้ง เดินทางไปด้วยกันทุกที่คือความสุขของชีวิต ลุงยอด ถวิล มานะศิริ และ ป้านาง วิมล บุญสัน หลังพบรักกันเมื่อ 4 ปี และหวังใช้ทุกวินาทีของชีวิตร่วมกัน ลุงยอดช่างสานใบลานแม้มีตาเพียงข้างเดียว และเป็นผู้พิการปากแหวงเพดานโหว่มาตั้งแต่เด็ก ยึดอาชีพสานใบลานให้กลายเป็นสัตว์ต่าง ๆ มาอย่างยาวนาน ตั๊กแตน ปลา ไก่ นก ผีเสื้อ แมลงปอ พเนจรขายตามตลาด ตามสถานที่ท่องเที่ยว งานค้าขายของลุงยอดแม้จะมีรายได้น้อยนิดแต่ก็มีหวังอันยิ่งใหญ่ หวังให้เงินเพียงพอจะใช้กินอยู่ ไว้เก็บออมยามชรา และกำไรแท้จริงของงานคือกำไรของชีวิต ชีวิตที่ทำงานไปด้วย ได้ออกเดินทางท่องเที่ยวไปด้วยกันทั้งครอบครัวอันประกอบไปด้วย ลุงยอด ป้าสุ หมาดำและซาเล้ง ตามติดสำรวจชีวิตช่างสานใบลานตาเดียวผู้พเนจรไปพร้อมครอบครัว บนหนทางชีวิตรักแม้จนทรัพย์สินแต่รวยด้วยความสุขทางใจในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน ให้รักเรานำทาง วันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน 2566 เวลา 14.05 - 14.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/Live">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ให้รักเรานำทาง

เรื่องเล่าการผจญชีวิตจากต่างจังหวัดสู่เมืองกรุงของ “จ๊อด-เกียรติชัย ช่างถม” และ “กาย-ประกาย ช่างถม” สองสามี-ภรรยาครอบครัวคนตัวเล็กที่ดิ้นรนมีชีวิตอยู่ท่ามกลางเมืองใหญ่ ผ่านหลากเรื่องราวล้มลุกคลุกคลาน แม้ยังคงหาเช้ากินค่ำแต่ก็พยายามออกแบบชีวิต “ครอบครัว” ให้ดีที่สุด จ๊อดต้องออกทำงานเก็บขยะแต่เช้าตรู่ กลับมาเป็นช่างตัดผมหลังเลิกงาน และออกทำงานเป็นวินมอเตอร์ไซค์ในช่วงเย็น เป็นเพียงฟันเฟืองเล็ก ๆ ท่ามกลางเมืองใหญ่ เมื่อสิ้นสุดวัน กินข้าวพร้อมหน้ากับครอบครัว จับกีตาร์ ทำหน้าที่พ่อของ “ครอบครัว” ฝึกซ้อมดนตรีกับลูกสาวที่มีแววด้านการร้องเพลง ภาพครอบครัวเล็กท่ามกลางเมืองใหญ่ในห้องแคบ ณ มุมหนึ่งของคลองเตย ชีวิตมีแต่ความไม่แน่นอน วันหนึ่งอาจถูกไล่ที่ออกไปได้ เรื่องราวการสู้ชีวิตเพื่อชีวิตครอบครัวที่สุขสบาย เตรียมความพร้อมให้มากที่สุดเพื่อรับทุกคลื่นชีวิตที่ถาโถม นี่คือ “เรื่องเล่าของจ๊อดและกาย” ติดตามในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน เรื่องเล่าของจ๊อดและกาย วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2566 เวลา 14.05 - 14.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/Live">www.thaipbs.or.th/Live</a>

เรื่องเล่าของจ๊อดและกาย

ไปรู้จักกับเจ้าหญิงแห่งวงการเผาศพ ทำไมเธอถึงเลือกที่จะแต่งตัวแบบนี้ ในรายการชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ชมย้อนหลัง ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/program/Real/episodes/94434">www.thaipbs.or.th/program/Real/episodes/94434</a>

Thai PBS Shorts

เจ้าหญิงแห่งวงการเผาศพ

จากอุบัติเหตุไม่คาดคิด พลิกชีวิตครอบครัวของ “แม่กบ ศิริเกศ พิทักษ์พงศ์” ซ้ำร้ายสามีมาแยกทาง ทำให้เธอต้องกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ต้องเลี้ยงดูลูกสาวพิการเพียงลำพังยาวนานตลอด 30 ปี ชีวิตคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย ต้องเปลี่ยนงานปรับเวลาเพื่อดูแลลูกในช่วงกลางวัน และออกหาเงินในเวลากลางคืน โชคชะตายังเล่นตลก โควิดทำให้หนทางชีวิตปิดลงทุกทาง ทว่าเธอยังคงสู้พลิกชีวิตหันมาสร้างรายได้จากการขายปุ๋ย ขายต้นไม้ เพราะมีลูกที่น่ารักคอยเป็นแรงใจบนหนทางของชีวิต “แม่หัวใจสู้” ติดตามในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน แม่หัวใจสู้ วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม 2566 เวลา 14.05 - 14.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/Live">www.thaipbs.or.th/Live</a>

แม่หัวใจสู้

เพราะเส้นทางชีวิตไม่มีจีพีเอสนำทาง “พี่ตุ้ม สุริยา ผ่อนน้อย” พนักงานส่งอาหารหรือไรเดอร์จึงต้องแสวงหาเส้นทางชีวิตด้วยตัวเอง พร้อมอเตอร์คู่ใจ และไม้ค้ำยืนคู่ชีพ ความพิการเป็นเพียงอุปสรรคหนึ่งบนทางชีวิต ทางที่เขาต้องการเดินให้ได้ด้วยตัวเอง ไม่เป็นภาระใคร แขนยังมี ขายังมีอีกข้าง บิดมอเตอร์ไซค์ออกไป ประกอบอาชีพที่เขาทำได้ พร้อมพลังใจจากครอบครัวที่เป็นเสมือนขาอีกข้าง และพร้อมหัวใจทระนงดวงนั้นความฝันของพี่ตุ้มมีเพียงใช้ชีวิตให้ไม่เป็นภาระใคร เปิดร้านขายของกิน มีกิจการส่วนตัว แม้ความฝันเรียบง่ายแต่เส้นทางไม่ได้ราบเรียบ มาซ้อนหลังมอเตอร์ไซค์ของไรเดอร์หัวใจทระนง ผู้มุ่งส่งอาหารไปสู่ฝัน แม้เส้นทางไม่ราบเรียบก็พร้อมไปให้ถึงที่หมายติดตามในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน ไรเดอร์หัวใจทระนง วันเสาร์ที่ 20 พฤษภาคม 2566 เวลา 14.05 - 14.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/Live">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ไรเดอร์หัวใจทระนง

“ลุงชะอ้อน” ชายสูงวัยอายุ 67 ปี ชาวเพชรบุรีที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองแก่ ยึดอาชีพทำพลุดอกไม้ไฟ ตะไล ไฟพะเนียงทำมาหากินมาหลายสิบปี จนสามารถส่งเสียให้ลูกเรียนจบแยกย้ายไปมีครอบครัวได้สำเร็จ ทว่าจากความรักในศิลปะการทำพลุไฟกลายเป็นความผูกพันและหวงแหน จึงอยากมีทายาทสืบทอดวิชาความรู้ที่สั่งสมมาตลอดชีวิต “น้อย” ลูกสาวคนเล็กของลุงชะอ้อน ซึมซับเรียนรู้ในสิ่งที่พ่อทำมาตั้งแต่จำความได้ เธอจึงตัดสินใจเข้ามาเรียนรู้สืบทอดวิชาทำพลุไฟอย่างจริงจัง และปีนี้จะเป็นครั้งแรกที่เธอต้องผลิตและควบคุมงานใหญ่ด้วยตัวเอง ในงานพระนครคีรี งานใหญ่ประจำปีของจ.เพชรบุรี พลุไฟถือเป็นไฮไลท์สีสันของค่ำคืนวันเปิดงาน และตลอด 10 คืน ที่มีผู้คนมาเที่ยวหลายหมื่นเพื่อมาถ่ายภาพแสงจากดอกไม้ไฟที่ประดับอยู่บนท้องฟ้า และภาพถ่ายเหล่านั้นจะถูกนำเสนอออกไปทั่วโลก ติดตามในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน คนประดับฟ้า วันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม 2566 เวลา 14.05 - 14.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/Live">www.thaipbs.or.th/Live</a><a href="http://www.thaipbs.or.th/Live"></a>

คนประดับฟ้า

ปฏิธาร บำรุงสุข หรือ “แบงค์” วัย 31 ปี ในสังคมออนไลน์ผู้คนต่างรู้จักในฉายา “เจ้าหญิงเเห่งวงการเผาศพ” เพราะนอกจากเป็นสัปเหร่อมือหนึ่งแล้ว แบงค์ยังเป็น TikTokers ที่มีผู้ติดตามกว่า 200,000 คน จากเด็กน้อยที่ติดสอยห้อยตามแม่ไปร่วมงานศพของคนในหมู่บ้าน เกิดความชอบในแสงสีของการตกแต่งโรงศพ มองเห็นเสน่ห์ของพิธีสีขาวดำ ประกอบกับชอบไปทำบุญเที่ยวเล่นในวัดใกล้บ้านอยู่เสมอ จนกระทั่งได้มีโอกาสเป็นผู้ช่วยสัปเหร่อประจำวัด อาสาช่วยจัดดอกไม้ จัดวางเก้าอี้ และกวาดพื้นบริเวณศาลาและเมรุ เมื่อเธอเรียนจบชั้น ม.3 ด้วยฐานะยากจนและไม่ได้คิดที่จะเรียนต่อ จึงตัดสินใจทำอาชีพสัปเหร่ออย่างเต็มตัว จากประสบการณ์ 19 ปีในเส้นทางอาชีพสัปเหร่อ แบงค์รับผิดชอบหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มความสามารถ แถมเธอยังเป็นสัปเหร่อรุ่นใหม่ที่พลิกโฉมภาพจำของอาชีพสัปเหร่อรุ่นก่อน ทุกครั้งที่ปรากฏตัวแบงค์จะแต่งกายชุดผ้าไทยที่ทั้งสวยงาม สุภาพเรียบร้อย สะอาดสะอ้าน เป็นเสน่ห์ที่แสดงออกถึงอัตลักษณ์ตัวตนของเธอ และแบงค์มองว่านี่คือการให้เกียรติเจ้าภาพของงานและเป็นการยกย่องส่งเสริมภาพลักษณ์ของกลุ่มคนที่ประกอบอาชีพสัปเหร่ออีกด้วยติดตามในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน เจ้าหญิงหน้าเมรุ วันเสาร์ที่ 22 เมษายน 2566 เวลา 14.05 - 14.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

เจ้าหญิงหน้าเมรุ

เด่นภูมิ ผ่องสีดา หรือ "หลอด" ผู้พิการทางสายตา ชาวนครราชสีมา แม้มิอาจรับรู้แแสงสีในชีวิต แต่สำหรับ "เสียง" นี่คือสิ่งที่เขาหลงใหล และเลือกใช้มันเป็นแรงผลักดัน หลอดเริ่มต้นสนใจเรื่องเครื่องเสียง ก่อนจะผันตัวเองไปเป็นเด็กเฝ้าเครื่องเสียง และด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจทำในสิ่งที่รัก เขาเก็บเงินจนสามารถมีเครื่องเสียงชุดเล็ก ๆ เป็นของตัวเองปัจจุบันหลอดใช้ชุดเครื่องเสียงของเขาในการหาเลี้ยงชีพ หากชาวบ้านมีงานบุญ หรืองานเลี้ยง มักจะเรียกใช้บริการของหลอดเป็นประจำ ไม่ใช่แค่เพียงชุดเครื่องเสียงของเขา แต่ด้วยอัธยาศัยไมตรีของหลอด ทำให้เขาเป็นที่รักของชุมชน และดำเนินชีวิตอย่างมีคุณค่าต่อไปติดตามในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน วอลูมแห่งความสุข วันเสาร์ที่ 18 มีนาคม 2566 เวลา 14.05 - 14.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

วอลูมแห่งความสุข

“วิศรุตา ฟอร์ซ็อง” หรือ นิคกี้ หลายคนเรียกเธอว่า “ครูกี้” อดีตผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ครูกี้เป็นเจ้าของกิจการที่สมุยและพะงัน แต่ต้องมามีชีวิตที่เหมือนตายทั้งเป็น เนื่องจากตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง และจะมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ 8 เดือน ครูกี้ต้องอดทนกับการรักษาทางวิทยาศาสตร์ ก่อนที่ต่อมาเธอจะได้มีโอกาสรู้จักการรักษาแบบ 3 อ. (อารมณ์ อาหาร ออกกำลังกาย) โดยเริ่มจากจุดแรกใช้แบบวิถีพุทธ ฝึกสติและสมาธิ และการกินอาหารกินแบบให้เป็นยา พร้อมกับออกกำลังตามสภาพร่างกายของตัวเอง แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เมื่อมะเร็งร้ายได้หายไป เป็นเหตุให้ครูกี้ได้แรงบันดาลใจ เริ่มอยากถ่ายทอดความรู้ให้กับคนที่กำลังสิ้นหวังจากโรคมะเร็ง โดยไปบรรยายและร่วมทำกิจกรรม เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายได้ก้าวข้ามจากความทุกข์ และกลับมาลุกขึ้นสู้กับชีวิตต่อไปติดตามในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน "ครูกี้" ชีวิตใหม่ใจเกินร้อย วันเสาร์ที่ 11 มีนาคม 2566 เวลา 14.05 - 14.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

"ครูกี้" ชีวิตใหม่ใจเกินร้อย

กุศล วันทะมาศ หรือ กบ อายุ อายุ 52 ปี ชาวผู้พิการร่างกายท่อนล่างผิดรูปตั้งแต่กำเนิด กบเคยทำงานโรงงานรองเท้า โรงงานเครื่องหนัง มาแล้วหลายโรงงาน ในตำแหน่งช่างออกแบบรองเท้าและกระเป๋า แต่ก็ต้องตกงานไปเมื่อครั้งที่มีการประกาศขึ้นค่าแรง 300 บาท ทำให้โรงงานย้ายไปประเทศอื่น กบกลับไปอาศัยอยู่ที่บ้านได้ไม่นานก็ต้องจากบ้านมาอีกครั้งเพราะครอบครัวไม่ต้องการให้เขาออกมาทำงานเพราะมองว่าคนพิการควรอยู่แต่ในบ้าน กบจึงตัดสินใจออกเดินทางจากบ้านมาด้วยรถซาเล้งคู่ใจ หารายได้ด้วยการเก็บขวดและขายมันเผา ค่อย ๆ เก็บเงินและเดินทางเข้ามาแสวงหาโอกาสในกรุงเทพด้วยความเป็นคนขยันกบเก็บเงินซื้อรถยนต์มาด้วยราคา 3 หมื่นบาท ซึ่งเขาใช้เป็นทั้งบ้าน รถ และเครื่องมือทำมาหากิน กบจะเดินทางไปซื้อมันและข้าวโพดที่ตลาดไท 3-4 วันครั้ง แล้วแต่เงินทุนและจำนวนลูกค้ามากน้อย จากนั้นจึงตระเวนไปขายตามตลาดนัด หรือสถานที่ที่เขามองว่าพอจะเป็นทำเลที่พอขายของได้ ด้วยหวังเก็บเงินให้มากพอจะหาเงินไปเช่าห้องอยู่ แต่ก็ยังไม่สามารถทำได้เพราะหากเขาเอาเงินที่มีไปเช่าห้อง เขาก็อาจจะไม่มีเงินลงทุนเอาของมาขายได้อีกกบฝันอยากขยับจากการขายมันเผา มาขายอาหารที่ได้กำไรเยอะกว่าเดิม เช่น ไส้กรอกอีสาน หมูพวง น้ำพริกรสเด็ด น้ำส้มคั้น ที่เขามีฝีมือในการทำอาหารขายมาแล้วหลายอย่าง แต่เพราะต้องนอนในรถเขาจึงยังไม่สามารถขยับขยายได้มากไปกว่านี้ก่อนหน้านี้ กบจอดขายและนอน อยู่ตรงที่รกร้างย่านรัชโยธินมาแล้ว 4 เดือน แต่ก็ถูกให้ออกจากพื้นที่เนื่องจากเจ้าของที่ต้องการพื้นที่เพื่อสร้างตลาด กบหวังว่าเขาคงได้กลับมาขายที่ตรงนี้อีกครั้ง ระหว่างนี้ เขาคงต้องออกเดินทางเพื่อไปหาที่จอดนอน และ หาที่ขายของที่ใหม่ต่อไปติดตามในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน สองล้อทระนง วันเสาร์ที่ 4 มีนาคม 2566 เวลา 14.05 - 14.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

สองล้อทระนง

ภราดร รุ่งเรือง หรือ ‘กอล์ฟ’ อายุ 19 ปี ครั้งหนึ่งเด็กชายเคยมีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักฟุตบอล แต่แล้ววันหนึ่งฝันของเขาต้องสลายไปเมื่อต้องมาเจอกับอุบัติเหตุไฟช็อตจากเสาไฟฟ้าแรงสูง และเกิดไฟไหม้ทั่วร่างกาย เมื่อตื่นขึ้นมาพบว่าได้สูญเสียทั้งขาและแขนทั้ง 2 ข้างไป อุบัติเหตุครั้งนั้นได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปทั้งชีวิต นับตั้งแต่มีอายุแค่เพียง 13 ปีเท่านั้นเมื่อเวลาผ่านไปหลังจากรักษาตัวจนกลับมาใช้ชีวิตได้อีกครั้ง แม้จะต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ด้วยหัวใจที่สู้และได้กำลังใจที่ดีจากครอบครัวที่คอยสนับสนุน กอล์ฟใช้เวลาปรับตัวเพียงไม่นานกับการใช้ชีวิตโดยไร้แขนและขา พยายามทำทุกอย่างด้วยตัวเองและพัฒนาตัวเองมาเรื่อย ๆ จากการเล่นเกมธรรมดาจนกลายมาเป็นสตรีมเมอร์ ผ่านเพจเฟซบุ๊คที่ชื่อว่า Golf No Hands Channel ซึ่งปัจจุบันมีผู้ติดตามมากถึง 2.9 แสนคนติดตามในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน เกมชีวิต วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 14.05 - 14.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

เกมชีวิต

ชีวิตสุดรันทดของ “นุสรา” หรือ นางสาวนุสรา ยอดทหาร อายุ 29 ปี ที่เคยมั่นคงในรักกับสามี เเละมั่นใจจะฝากชีวิตไว้จนมีลูกน้อยด้วยกันถึง 3 คนเ เเต่จู่ ๆ ในระหว่างที่นุสรากำลังตั้งครรภ์ลูกเเฝด สามีของเธอได้นอกใจไปมีผู้หญิงใหม่ เธอจึงตัดสินใจพาลูกทั้ง 3 คน เเละอุ้มท้องลูกเเฝด เดินออกมาโดยตั้งใจจะเลี้ยงลูกให้ได้ปัจจุบัน นุสราและลูกอีก 5 คนอาศัยห้องพักเล็ก ๆ ข้างร้านค้าในชุมชน ขายลูกชิ้นทอดพอมีกำไรซื้ออาหารให้ลูกได้กิน และรับจ้างอาบน้ำให้สุนัขของคนรวย แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะส่งให้ลูกในวัยเรียนได้ไปเรียนทุกวัน แม่นุสราได้แต่ก้มหน้าทำงานหาเงินเลี้ยงลูกเพื่อให้รอดผ่านไปแต่ละวัน โดยไม่อาจจะมองถึงเส้นทางอนาคตการเรียนของลูก ๆ ว่าจะต้องไปต่ออย่างไร ติดตามในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน อ้อมกอดแม่ วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 14.05 - 14.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

อ้อมกอดแม่

“อุ้มบุญ หมายเขา” หรือ “น้องอุ้ม” สาวข้ามเพศที่พิการไร้แขนขามาตั้งแต่กำเนิด แม้ร่างกายจะพิการ แต่หัวใจกลับแข็งแกร่ง มีฝันที่จะเป็นนางงามครอบครองมงกุฎให้ได้สักครั้งในชีวิต เธอจึงเดินตามหาความฝันด้วยการไปประกวดนางงามในเวทีต่าง ๆ ที่เปิดโอกาส และให้พื้นที่กับสาวข้ามเพศที่มีความพิการอย่างเธอได้แสดงถึงความสามารถและศักยภาพของคนพิการ โดยเธอจะเดินทางไปเพียงคนเดียว ไม่มีพี่เลี้ยงคอยดูแล แต่งหน้า ทำผม แต่งตัวด้วยตัวเอง ตลอดระยะเวลากว่า 5 ปีที่เดินสายประกวด เพราะอยากเป็นกระบอกเสียงสื่อสารให้คนในสังคมได้รับรู้ว่าคนพิการ และยังเป็นสาวข้ามเพศที่ผู้คนในสังคมบางส่วนยังไม่เปิดใจยอมรับ ได้เห็นถึงความสามารถที่ไม่ด้อยไปกว่าใคร หวังกอบกู้คุณค่า ศักดิ์ศรี ตัวตนในความเป็นมนุษย์ของคนพิการและคนข้ามเพศให้มีพื้นที่ยืนในสังคมอย่างภาคภูมิใจติดตามในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน เวทีนี้ไม่มีพี่เลี้ยง วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 14.05 - 14.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

​เวทีนี้ไม่มีพี่เลี้ยง

เด็กนักเรียนบนดอยสูงจำนวนมากยังขาดโอกาสทางการศึกษา อยากเรียนต่อต้องดิ้นรนทำงานหนักด้วยตัวเอง แบกความฝันที่อยากเป็นครู ใช้แรงแลกเงินเพื่อให้ได้เรียนต่อมัธยม เส้นทางฝันอาจจบลงเพราะความจนของครอบครัวนโยบายเรียนฟรียังต้องมีค่าใช้จ่ายมากมาย "นิวัฒน์ โชคชัยวนา" หรือ "ละทู" อายุ 19 ปี กำลังเรียนชั้น ม.5 มีความฝันอยากเป็นครู กลับมาพัฒนาบ้านเกิดใน ต.ท่าสองยาง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก แต่ความจนอาจทำให้ฝันของเขาจบลง เพราะปากท้องของพ่อ แม่ และน้องสาวอีก 2 คน ยังรอคอยที่จะได้กินอิ่ม ติดตามในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน คนแบกฝัน วันอังคารที่ 27 ธันวาคม 2565 เวลา 21.45 - 22.15 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

คนแบกฝัน

“ภู” เด็กหนุ่มวัย 25 ปี ชาวจังหวัดกาญจนบุรี ประกอบอาชีพเป็นคนเลี้ยงวัวไล่ทุ่งมา 7 ปีแล้ว ครอบครัวของภูยึดอาชีพนี้มากว่า 60 ปี ผลัดเปลี่ยนมือกันมาแล้วถึง 3 รุ่น ตั้งแต่รุ่นปู่ รุ่นพ่อ จนถึงรุ่นลูก อาชีพนี้จึงมีความสำคัญต่อปากท้องของครอบครัว ในแต่ละวันภูต้องรับผิดชอบดูแลวัวฝูงใหญ่ที่มีสมาชิกถึง 600 ตัว โดยมีผู้ช่วยอีก 3 คน กินนอนกันอยู่บนรถหกล้อ ไม่ได้กลับบ้านของตัวเองนานแรมเดือน เพราะต้องไล่ต้อนเลี้ยงวัวตามทุ่งหญ้าไปเรื่อย ๆ จากจังหวัดกาญจนบุรี ไปจนถึงจังหวัดนครสวรรค์ เด็กหนุ่มคนนี้แม้จะอายุเพียง 25 ปี แต่มีความรับผิดชอบเต็มเปี่ยม เพราะตอนนี้เขาได้กลายมาเป็นเสาหลักที่คอยหารายได้จุนเจือครอบครัว และส่งเสียน้องชายอีก 2 คนได้เรียนหนังสือ ภูเรียนจบเพียงชั้น ม.6 แต่เขาสามารถควบคุมวัวได้ทั้งฝูง โดยอาศัยใช้วิชาความรู้ในการเลี้ยง เพาะพันธุ์ และวิชาการค้าขายวัวมาจากพ่อ ซึ่งเป็นวิชาชีพสำคัญที่ถูกส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ติดตามในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน นายฮ้อยเลือดใหม่ วันอังคารที่ 20 ธันวาคม 2565 เวลา 21.45 - 22.15 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

นายฮ้อยเลือดใหม่

"ไก่ - กรณ์วิพัฒน์ การสมพิศ" ใช้ชีวิตไปกับการร้องรำลิเกมาตั้งแต่ยังวัยรุ่น ปัจจุบันอยู่ในวัยกลางคน 37 ปี เป็นเจ้าของคณะลิเก "รุ่งโรจน์กรณ์วิพัฒน์" ที่เคยมีงานลิเกเข้ามาตลอด มีชื่อเสียงในวงการลิเกพอสมควร รวมไปถึงมีรายได้ดีมากพอที่จะเลี้ยงตนเอง ครอบครัว และสมาชิกในคณะได้ แต่เมื่อโควิด-19 ระบาดหนัก งานจ้างก็ลดลง จนแทบไม่มีงานจ้างเข้ามา ยิ่งในช่วงที่รัฐบาลประกาศมาตรการฉุกเฉิน การจ้างงานคณะจึงเป็นศูนย์ ทำให้ไก่, ครอบครัว และคณะ เริ่มขาดแคลนทุนทรัพย์สำหรับต่อชีวิต เมื่อเกิดวิกฤตก็ต้องหาโอกาส ไก่หาหนทางพาครอบครัวให้อยู่รอดต่อไป จึงใช้เวลาที่ไม่มีงานจ้าง ไปเรียนวิชาตัดผม และนำความสามารถด้านนี้มาใช้หาเลี้ยงครอบครัว ด้วยการดัดแปลงรถกระบะให้กลายเป็นร้านตัดผมเคลื่อนที่ บริการประชาชนชาวบ้าน ที่ จ.สุโขทัยติดตามในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน ลิเกบาร์เบอร์ วันอังคารที่ 13 ธันวาคม 2565 เวลา 21.45 - 22.15 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ลิเกบาร์เบอร์

ภาระหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ของผู้เป็น "พ่อ" นอกจากการมอบชีวิตให้ลูกชายผู้เป็นเสมือนแก้วตาดวงใจ ตั้งแต่วันที่ลืมตาดูโลก ในบทบาทคู่ชีวิต "กอล์ฟ" ยังเป็นกำลังใจและกำลังหลักให้ภรรยาที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งให้ก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก ความทุ่มเทกายใจที่มีจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคที่เข้าถาโถมได้หรือไม่ ? ติดตามในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน สู้ไปด้วยกันนะ...พ่อ วันอังคารที่ 6 ธันวาคม 2565 เวลา 21.45 - 22.15 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

สู้ไปด้วยกันนะ...พ่อ

ยุคสมัยที่เปลี่ยน แม้เคยเป็นที่นิยม วันนี้กลับกลายเป็นไร้งาน ทำให้ "พล" ในวัย 60 ปี ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ทันยุคสมัย เพื่อหนทางรอดของครอบครัว ทิ้งอดีต เพื่อเริ่มอาชีพใหม่ หวังเพียงปลดหนี้ได้ติดตามในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน หลังพวงมาลัย วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน 2565 เวลา 21.45 - 22.15 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

หลังพวงมาลัย

ชีวิตของ "บอย เบิกบาน" เด็กหนุ่มหน้าตาดี ที่หลงใหลในศิลปะการแสดงหมอลำของทางภาคอีสานบ้านเกิด เพราะความจน เขาเลือกที่จะลุกขึ้นมาแต่งหน้า ทาปาก เขียนตาแต่งเป็นตัวตลก บวกกับความรัก ความชอบในศิลปะการแสดงหมอลำภาคอีสาน เริ่มแสดงบนเวทีหมอลำเล็ก ๆ ใกล้บ้านตั้งแต่เรียน ม.2 แลกกับเงินรางวัลตอบแทนหน้าเวทีเล็ก ๆ น้อย ๆ พอได้เงินไปโรงเรียนชั้นประถม แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของพ่อแม่ ส่งเสียตัวเองเรียนจนจบชั้นมัธยมเริ่มจากความชอบ กลายเป็นความรัก ความผูกพัน เขามีความสุขที่ได้ทำการแสดงตลกทั้งบนเวทีหมอลำ และในปัจจุบันมีช่องทางโซเชียลมีเดียให้สื่อสารกับบุคคลภายนอก สามารถสร้างรายได้จนส่งเสียตัวเองเรียนในระดับมหาวิทยาลัย และยังสามารถเป็นเสาหลักให้กับครอบครัวที่ยากจนได้ตั้งแต่วัยเพียง 20 ปี เขามีความฝันว่า สักวันหนึ่งจะได้ต่อเติมซ่อมแซมบ้านหลังเก่าที่ผุพังให้กับพ่อแม่ ที่ทำอาชีพรับจ้างเป็นกรรมกรก่อสร้างมาทั้งชีวิต และมีจุดมุ่งหมายสูงสุด คือ อยากเรียนให้จบปริญญาตรี แล้วสอบเป็นข้าราชการสานฝันให้กับพ่อติดตามในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน ชีวิต(ไม่)ตลก วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2565 เวลา 21.45 - 22.15 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ชีวิต(ไม่)ตลก

"สกุลชัย ดับโศก" หรือ "ครูหน่อง" หลังลาออกจากชีวิตการเป็นทหาร ก็มาเริ่มต้นใหม่กับบทบาทครูสอนกีฬาเซปักตะกร้อให้กับเด็กด้อยโอกาส โดยใช้ชื่อค่าย "เด็กหาปลา" ครูหน่องสอนให้เด็กในค่ายรู้จักการพึ่งพาตนเอง มีระเบียบวินัย มีลูกศิษย์ทั้งหมด 22 รุ่น ปัจจุบันดูแลเด็กนักเรียนอยู่ 36 คน โดยใช้บ้านพักครูหลังโรงเรียนเป็นที่พักอาศัยของเด็กทั้งหมด เมื่อถึงโปรแกรมการแข่งขัน ค่ายเด็กหาปลามักจะคว้าชัยชนะมาได้ทุกครั้ง นำความภาคภูมิใจมาสู่โรงเรียน คณะครู ผู้ปกครอง และโคชผู้นำทีมติดตามในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน โคชชีวิต วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน 2565 เวลา 21.45 - 22.15 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

โคชชีวิต

“นภากร ศรีพรมอาจ” หรือ “มอส คำหมากบิน” ศิลปินคนรุ่นใหม่ มีอาชีพหมอพราหมณ์ ทำพิธีสู่ขวัญในงานพิธีกรรมต่าง ๆ ของชาวอีสาน นอกจากนี้ยังเป็นหมอแคนและเป็นนักร้องในค่ายเพลงอิสระ “บังเอิญมิวสิค” สร้างสรรค์บทเพลง “อ้ายมันคนซั่ว” ที่แต่งเนื้อร้องทำนองโดย "บุ๊ค ศุภกาญจน์" ที่มียอดการรับชมมิวสิกวิดีโอหลักร้อยล้านครั้ง ติดตามในรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน หมอพราหมณ์อินดี้ วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน 2565 เวลา 21.45 - 22.15 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง "ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร"