ศอ.บต. รับปาก รบ. พร้อมเยียวยาเหตุเพลิงไหม้ห้างนราธิวาส - "กิตติรัตน์" มั่นใจไม่กระทบเศรษฐกิจ

ภูมิภาค
3 ก.ย. 55
03:19
66
Logo Thai PBS
ศอ.บต. รับปาก รบ. พร้อมเยียวยาเหตุเพลิงไหม้ห้างนราธิวาส - "กิตติรัตน์" มั่นใจไม่กระทบเศรษฐกิจ

รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มั่นใจเหตุเพลิงไหม้ห้างสรรพสินค้า กลางเมือง จ.นราธิวาส ได้รับความเสียหาย กว่า 70 ล้านบาท เมื่อ 2 คืนก่อน จะไม่ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจระยะยาวของจังหวัด ส่วนเจ้าของห้างพร้อมเดินหน้าธุรกิจต่อไป หลังตัวแทนรัฐบาลรับปากว่า จะช่วยเหลือเงินเยี่ยวยาผู้ได้รับผลกระทบ หากสาเหตุเกิดจากการก่อการร้าย

สภาพความเสียหายของห้างซุปเปอร์ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ห้างขนาดใหญ่เพียงแห่งเดียว ของ จ.นราธิวาส ที่ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหาย มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ไม่นับรวมมูลค่าทรัพย์สินบรรดาแม่ค้าผู้เช่าแผงกว่า 100 ราย มูลค่า กว่า 20 ล้านบาท แม้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน อยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุว่า เกิดจากอุบัติเหตุ หรือการลอบวางระเบิดตามที่มีการสันนิษฐานไว้ในเบื้องต้น แต่สำหรับนางอรุณ จินดา เจ้าของ บอกว่า รู้สึกหดหู่เมื่อเห็นธุรกิจที่เธอและสามี สร้างมากับมือเหลือเพียงซาก แต่เริ่มมีกำลังใจขึ้นมาบ้าง เมื่อ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) รับปากว่า รัฐบาลพร้อมจะยืนมือช่วยเหลือ หากเกิดจากการก่อการร้ายจริง

<"">
<"">

ด้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังเข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บ ทหารพราน 3 นาย และทหารหน่วยนาวิกโยธิน อีก 3 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด เมื่อ 4 วันก่อน ขณะนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสนครินทร์ ว่า เหตุเพลิงไหม้ห้างซุปเปอร์ดีพาสเม้นท์สโตร์ ไม่ถือเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ เพราะคนร้ายฉวยโอกาสขณะเผลอ แต่หลังจากนี้ต้องมีการจัดแบ่งกำลังดูแล ย่านธุรกิจมากยิ่งขึ้น และเชื่อว่าไม่เกิดผลกระทบกับเศรษฐกิจในระยะยาว เพราะหลายหน่วยงานกำลังเร่งช่วยกันฟื้นฟู

ส่วนพนักงานรักษาความปลอดภัยประจำห้างสรรพสินค้ารวมถึง โรงแรมในตัวเมืองหาดใหญ่ จ.สงขลา กลับมาเพิ่มความเข้มงวด ในการป้องกันเหตุร้ายอีกครั้ง หลังได้รับรายงานว่าเมืองหาดใหญ่ ยังคงตกเป็นเป้าหมายที่มีความเสี่ยงในการก่อเหตุ โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าและโรงแรม ที่มีลานจอดรถชั้นใต้ดิน ได้เน้นย้ำให้พนักงานรักษาความปลอดภัย ตรวจสอบรถยนต์ที่จะผ่านเข้าไปภายในลานจอดรวมถึงตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชน ตรวจสอบใต้ท้องรถและกระโปรงรถอย่างละเอียด นอกจากนั้นยังได้ประกาศรถยนต์และกลุ่มบุคคลต้องสงสัย เอาไว้บริเวณลานจอดรถ เพื่อให้พนักงานร่วมกันสอดส่องดูแล


ข่าวที่เกี่ยวข้อง