รฟท.ยังไม่มั่นใจการเปิดใช้รางรถไฟลำพูนแม้ซ่อมเสร็จแล้ว

ภูมิภาค
11 ก.ย. 55
07:01
62
Logo Thai PBS
รฟท.ยังไม่มั่นใจการเปิดใช้รางรถไฟลำพูนแม้ซ่อมเสร็จแล้ว

รางรถไฟที่ถูกน้ำป่าซัด จนชำรุดใน จ.ลำพูน แม้จะซ่อมเสร็จแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา(10 ก.ย.) แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่มั่นใจที่จะเปิดให้บริการได้ตามปกติ ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดภาคเหนือยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากยังมีฝนตกในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ประชาชนและ นักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยขบวนรถไฟสายเหนือ ยังคงต้องลงรถที่สถานีรถไฟนครลำปาง ก่อนจะต่อรถบัสเดินทางไปยังจังหวัดเชียงใหม่ แม้ว่ารางรถไฟระหว่างสถานีขุนตาลกับสถานีทาชมภู บ้านขุนตาล ต.ทาปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน ที่ถูกน้ำป่าซัดชำรุด จะซ่อมแซมเสร็จแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา(10 ก.ย.) แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบเพื่อความแน่ใจโดยคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ตามปกติในวันนี้(11 ก.ย.)

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วม ในหลายจังหวัดภาคเหนือก็ยังน่าเป็นห่วง โดยน้ำที่ไหลหลากมาจาก อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัยมายัง จ.พิษณุโลก ก็เริ่มส่งผลกระทบกับชาวนาใน ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จนต้องเร่งเสริมกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำเข้าท่วมนาข้าว ล่าสุดน้ำได้เอ่อท่วมพื้นที่ ต.ชุมแสงสงคราม และต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลกเป็นบริเวณกว้างแล้ว

เช่นเดียวกับชาวนาใน ต.หัวดง อ.เมือง จ.พิจิตร ต้องเสริมคันดินรอบๆที่นาของตัวเอง หลังน้ำป่าจากเทือกเขาพิษณุโลก และเทือกเขาเพชรบูรณ์ ไหลหลากลงมาเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตร และชุมชนใน อ.สากเหล็ก วังทรายพูน และทับคล้อ

นอกจากนี้น้ำที่ไหลหลากลงมารวมกับน้ำป่าจากเทือกเขาแม่วงก์ ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.แม่วงก์ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ได้รับผลกระทบมากขึ้น ล่าสุดถนนระหว่างอำเภอมีน้ำท่วมหลายจุด บางจุดสูงกว่า 50 ซม. จนรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ขณะที่จังหวัดแจ้งเตือนให้ประชาชน 2 ฝั่งแม่น้ำปิง เตรียมรับน้ำล้นตลิ่ง หลังน้ำเหนือจะไหลมาสมทบอีกระลอก

ขณะที่เขื่อนชัยนาท ยังคงเร่งระบายน้ำถึงวันละกว่า 1700 ลบ.ม. เป็นวันที่ 2 เพื่อรับมวลน้ำที่ไหลลงมาจาก จ.นครสวรรค์ ส่งผลให้บ้านเรือนใน จ.พระนครศรีอยุธยา ใน 6 อำเภอ คือ อ.บางบาล อ.ผักไห่ อ.บางไทร อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน และอ.เสนา ได้ผลกระทบน้ำท่วมแล้ว โดยทางจังหวัดต้องสั่งตั้งชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยเฉพาะผู้อาศัยอยู่ริมแม่น้ำตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฝนที่ตกหนักตลอดทั้งคืน ทำให้เกิดน้ำท่วมขังถนนหลายสายในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี ประชาชนต้องสัญจรไปมาอย่างยากลำบาก ขณะที่น้ำในแม่น้ำมูลมีระดับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง วันละกว่า 20 ซม. ทำให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี ต้องประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำมูลให้เตรียมเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันอย่างใกล้ชิด

เช่นเดียวกับ จ.เลย เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยจังหวัด สั่งการให้จัดชุดหนึ่งทีมกู้ภัยหนึ่งตำบล เตรียมให้การช่วยเหลือและแจ้งเตือนภัยประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงกว่า 900 หมู่บ้าน โดยเฉพาะใน อ.ด่านซ้าย อ.ภูเรือ อ.นาแห้วและ อ.ภูหลวง ที่ตั้งอยู่ในหุบเขา ซึ่งเสียงต่อการเกิดภัยน้ำป่าและดินโคลนถล่มในระดับสูงกว่า 60 หมู่บ้าน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง